คลินิกความงามดิ้นสู้โควิด ไลฟ์สดขายสินค้า ประคองรายได้

คอลัมน์ จับกระแสตลาด

“คลินิกความงาม” ที่ถูกจัดอยู่ในสถานประกอบการกลุ่มสีเหลือง หรือกลุ่มที่มีความเสี่ยงปานกลาง เป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ประกอบการที่กำลังลุ้นว่าจะได้รับการปลดล็อกให้กลับมาเปิดให้บริการได้อีกครั้งหนึ่ง สำหรับเฟส 2 ที่รัฐบาลและศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (ศบค.) ที่เตรียมจะประกาศในเร็ววันนี้หรือไม่

ปฏิเสธไม่ได้ว่าในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ภาพรวมตลาดศัลยกรรมความงาม 3.6 หมื่นล้านบาท ตกอยู่ในภาวะชะลอตัว จากปัจจัยเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและกำลังซื้อที่ลดลง รวมถึงยังต้องเผชิญกับภาวะการแข่งขันสูงจากการมีผู้เล่นรายใหม่ทยอยเข้ามาในตลาดมากขึ้นและใช้กลยุทธ์ราคาดึงลูกค้า ล่าสุดยังต้องเผชิญหน้ากับ “ไวรัสโควิด-19” และทำให้คลินิกความงามต้องปิดกิจการชั่วคราวตามมาตรการ “ล็อกดาวน์” เพื่อลดและป้องกันการแพร่ระบาด

แน่นอนว่าผู้ประกอบการรายเล็ก-รายใหญ่ล้วนต้องตกอยู่ในสถานการณ์ไม่ต่างกัน โดยเฉพาะการที่ต้องแบกรับต้นทุน ทั้งค่าเช่าที่ ค่าจ้างพนักงาน สต๊อกสินค้า ฯลฯ ตรงกันข้าม ในแง่ของรายได้ที่แทบจะเป็น “ศูนย์” ไม่สามารถเปิดหน้าร้านเพื่อให้บริการลูกค้าได้

แม้จะเป็นเวลาเพียง 1-2 เดือน แต่ก็ถือเป็นห้วงเวลาที่ลำบากไม่น้อย

อย่างไรก็ตาม เพื่อชดเชยรายได้ที่หายไปทำให้แทบทุกค่ายต้องขยับขยายจากออฟไลน์ไปสู่ออนไลน์ โดยมีแพลตฟอร์ม “เฟซบุ๊ก” และ “อินสตาแกรม” เป็นเครื่องมือสำคัญ และพลิกกลยุทธ์ ด้วยการที่พนักงานขายสินค้าประเภทคอสเมติกและสกินแคร์ผ่าน “Facebook Live” พร้อมอัดแน่นด้วยโปรโมชั่นลดราคา รวมถึงการจองคิวทำศัลยกรรมเพื่อดึงลูกค้าในกรณีที่สถานการณ์คลี่คลายและกลับมาเปิดให้บริการได้อีกครั้ง

จากการตรวจสอบของผู้สื่อข่าวพบว่า ขณะนี้คลินิกความงามหลาย ๆ ค่ายมีความเคลื่อนไหวที่น่าจับตาไม่น้อย

เริ่มจาก “วุฒิ-ศักดิ์ คลินิก” ที่ทำเฟซบุ๊กไลฟ์ด้วยการนำเอาคอสเมติกและสกินแคร์ภายใต้แบรนด์วุฒิ-ศักดิ์ คลินิก อาทิ มาสก์หน้า ชุดปราบสิว เจลอาบน้ำ และครีมกันแดด ฯลฯ ออกมาจัดจำหน่ายในราคาพิเศษผ่านแคมเปญ EXCLUSIVE SALE ลดสูงสุด 70% ควบคู่กับการเพิ่มช่องทางขายผ่านแพลตฟอร์มลาซาด้าและช้อปปี้ โดยแคมเปญนี้ยิงยาวถึง 31 พฤษภาคม 2563 พร้อมกันนี้ยังได้จัดทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญประจำคลินิกเข้ามาช่วยรับคำปรึกษาและให้ข้อมูลของวิธีการใช้ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ผ่านช่องทางอินบอกซ์ เฟซบุ๊ก W Wellness World

เช่นเดียวกับ “ราชเทวีคลินิก” และ “แพนคลินิก” สองเชนภายใต้การบริหารของแพน ราชเทวี กรุ๊ป แบ่งเป็นคลินิกที่เน้นรักษาและมีบริการบิวตี้ทรีตเมนต์ และศัลยกรรมความงาม ได้ต่อยอดนำผลิตภัณฑ์เวชสำอาง ภายใต้แบรนด์ “แพน คอสเมติก” อาทิ เวชสำอางรักษาสิว ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และคอสเมติก ที่จากเดิมมีวางจำหน่ายในช่องทางร้านขายยา และซูเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มาร์เก็ต ในช่วงที่ปิดให้บริการหน้าร้านได้นำสินค้าออกมาขายผ่านวิธีไลฟ์สด พร้อมทำคอนเทนต์สอนวิธีใช้สินค้าในช่องทางเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม พร้อมสื่อสารแบรนด์ผ่านอินฟลูเอนเซอร์ และบล็อกเกอร์ที่เข้ามารีวิวสินค้าเพื่อดึงดูดลูกค้าเป้าหมาย

ขณะที่ “มนต์นภา ฉายาวิจิตรศิลป์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท บิวติเพล็กซ์ จำกัด ผู้บริหาร “เมโกะ คลินิก” ยอมรับว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้น รวมถึงการประกาศปิดห้างสรรพสินค้าเพื่อป้องกันและลดการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบกับรายได้ของเมโกะ คลินิกเช่นกัน โดยสาขาของเมโกะ คลินิก 6 แห่ง ต้องปิดให้บริการชั่วคราว อาทิ จตุจักร เซ็นทรัลเวิลด์ ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต พระราม 2 ทองหล่อ เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า จากนี้ต้องปรับแผนธุรกิจระยะสั้น

เริ่มจากนำผลิตภัณฑ์ที่กำลังได้รับความนิยม เช่น วิตามินซี แผ่นกรองหน้ากากอนามัย และชุดทำความสะอาดเจลแอลกอฮอล์มาขายในแพลตฟอร์มเฟซบุ๊กเพจของตัวเอง เพื่อทดแทนรายได้ ที่หายไปแต่ก็ไม่มากนักเมื่อเทียบกับช่วงปกติ นอกจากนี้ บริษัทก็ตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น เช่น ค่าโฆษณา เป็นต้น

เบื้องต้นคาดว่าสถานการณ์นี้อาจจะกระทบลากยาวไปประมาณ 6 เดือนจนถึง 1 ปี เพราะตอนนี้คนทั่วไปมีความตื่นกลัวโควิด-19 มาก และไม่อยากใช้จ่ายในสิ่งที่ยังไม่จำเป็น และต้องใช้เวลาให้การปรับตัวใช้ชีวิตอยู่กับโควิดได้

พร้อมกันนี้เมโกะ คลินิกยังจัดแคมเปญโปรโมชั่น “สวยสู้โควิด-19” ลดราคาจองทำศัลยกรรมโดยเฉลี่ยมีการลดราคาจากปกติตั้งแต่ 10,000-15,000 บาท อาทิ เสริม/แก้จมูก ลดราคา 30% จากปกติราคาเริ่มต้น 3 หมื่นบาท, ตาสองชั้น ลดราคา 20% จากราคาเริ่มต้น 45,000 บาท, ปากกระจับ ลดราคา 20% จากราคา 12,900 บาท ตามด้วยเสริมคาง ลด 30% จากราคา 30,000 บาท และเลเซอร์ขนทุกบริเวณ ลด 50% แคมเปญนี้ยิงยาวไปจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2563 และสามารถนัดหมายเข้ามาใช้บริการได้ทันทีเมื่อร้านเปิดให้บริการ จนถึง 31 สิงหาคม

ขณะเดียวกัน เมโกะ คลินิกยังเตรียมความพร้อมที่จะเปิดให้บริการได้ทันทีเมื่อภาครัฐประกาศปลดล็อก โดยเน้นเรื่องความสะอาดเป็นสำคัญ เช่น พนักงานต้องใส่หน้ากากอนามัย มีการคัดกรองลูกค้าก่อนเข้ารับบริการ การเว้นระยะห่าง (social distancing) และทำความสะอาดทุกครั้งที่มีลูกค้าเข้าใช้บริการ ส่วนลูกค้าวอล์กอินเมโกะ คลินิก ได้ร่วมมือกับคลินิกเสริมความงามที่อยู่ในพื้นที่เดียวกัน ส่งหนังสือไปขอความสนับสนุนจากห้างสรรพสินค้าเพื่อขอพื้นที่หน้าร้านจัดตั้งจุดคัดกรองลูกค้าก่อนเข้ารับบริการ

นอกจากนี้ ล่าสุดห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ได้กำหนดไกด์ไลน์มาตรการความปลอดภัยสำหรับคลินิกและสถาบันความสวยความงามก่อนเปิดให้บริการจริง ได้แก่ 1.จัดให้มีการบันทึกข้อมูลผู้ใช้บริการ และใช้ระบบการจองคิวล่วงหน้า 2.จัดให้มีเวลาการนัดหมาย 3.วัดอุณหภูมิ สอบถามประวัติการเดินทางเพื่อประเมินความเสี่ยงก่อนให้บริการ 4.ให้บริการที่ใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง 5.อุปกรณ์ต้องฆ่าเชื้อด้วยเครื่องรังสียูวี 6.พนักงานที่ปฏิบัติงาน ต้องสวมถุงมือยางขณะปฏิบัติหน้าที่ และทิ้งทันทีหลังให้บริการ 7.งดการสนทนาขณะให้บริการ 8.งดเว้นบริการนวด และหัตถการบางประเภท 9.งดบริการที่ต้องใช้อุปกรณ์ร่วมกันที่ไม่สามารถทำความสะอาดได้ เช่น อุปกรณ์แต่งหน้า และ 10.ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศ และอบโอโซนฆ่าเชื้อโรคภายในร้านทุกสัปดาห์

หากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย และผู้ประกอบการคลินิกความงามทำตามไกด์ไลน์เรื่องความสะอาดความปลอดภัยอย่างเข้มงวด อีกไม่นานเกินรอคงได้กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งแน่