สหพัฒน์เบรกแผนลงทุนใหญ่ โยกงบลุยออนไลน์-โลจิสติกส์

ปรับแผน - สหพัฒน์ เบรกการลงทุนใหญ่ โยกเม็ดเงินเสริมทัพออนไลน์ รับตลาดอุปโภคบริโภค และอีคอมเมิร์ซเติบโต

สินค้าอุปโภค-บริโภคโตสวนกระแสโควิด-19 “สหพัฒน์” ปรับแผนลงทุนใหม่ เบรกโครงการใหญ่ โยกงบฯบุกออนไลน์ เดินหน้าปรับเพิ่มพื้นที่คลังสินค้า-ลงทุนระบบเซิร์ฟเวอร์-โลจิสติกส์รองรับอีคอมเมิร์ซ ลุยตั้งทีม “นิวนอร์มอล” ศึกษาโอกาสใหม่ทางธุรกิจให้เครือสหพัฒน์ ก่อนเดินหน้าส่งโปรโมชั่นกระตุ้นยอดมาม่าคัพ ลดเหลือ 10 บาท ปลุกทุกช่องทางขาย

นายเวทิต โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคและบริโภค เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจและกำลังซื้อ แต่ในทางกลับกัน ผู้บริโภคยังจับจ่ายใช้สอยกลุ่มสินค้าอุปโภคและบริโภคที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ในเครือสหพัฒน์ อาทิ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาม่า ผงซักฟอก ยาสีฟัน และผลิตภัณฑ์เด็ก มียอดขายเติบโตขึ้นทุกช่องทาง ทั้งโมเดิร์นเทรด เทรดิชั่นนอลเทรด และช่องทางออนไลน์ที่เติบโตขึ้นต่อเนื่อง ดังนั้น บริษัทต้องวางแผนการทำงานวันต่อวัน ทั้งการพัฒนาสินค้าให้ตรงความต้องการของลูกค้าเป้าหมาย

สำหรับแผนการดำเนินงานของสหพัฒน์จากนี้ไป จะชะลอการลงทุนโครงการใหญ่ออกไปก่อน ส่วนการลงทุนสร้างแวร์เฮาส์ คลังสินค้า ระบบโลจิสติกส์ ในอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ยังเป็นไปตามแผนเดิมเพื่อสร้างความคุ้มค่าต่อไปในระยะยาว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับเพิ่มพื้นที่ คาดว่าการก่อสร้างจะเสร็จภายในสิ้นปี 2563

ตลอดจนการเพิ่มน้ำหนักช่องทางขายออนไลน์ เริ่มจากการเพิ่มระบบเซิร์ฟเวอร์ ช่วยให้สามารถบริหารจัดการระบบทั้งหมดได้จากส่วนกลางเพียงจุดเดียว ตลอดจนการย้ายคลังสินค้าอีคอมเมิร์ซ (e-Commerce) จากเดิมที่อยู่พระราม 3 ซึ่งเป็นคลังขนาดเล็ก ทำให้ต้องย้ายสินค้าไปจัดเก็บไว้คลังใหญ่ที่ร่มเกล้า เขตมีนบุรี และให้ความสำคัญระบบโลจิสติกส์ จากเดิมบริษัทจะจัดส่งสินค้าไปยังศูนย์กระจายสินค้าหรือคลัง แต่ปัจจุบันคลังสินค้าแต่ละแห่งของลูกค้าค่อนข้างแน่น ทำให้ต้องเพิ่มหน่วยรถหลายร้อยคันเข้าไปกระจายส่งสินค้าไปยังช่องทางขาย ให้ทันต่อความต้องการผู้บริโภค

ล่าสุด ได้จัดแคมเปญร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ ลดราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาม่าชนิดคัพทุกรสชาติ จากราคา 13 บาท เหลือ 10 บาท ตั้งแต่วันนี้-31 พฤษภาคม 2563 ที่เซเว่นอีเลฟเว่น แม็คโคร เทสโก้ โลตัส บิ๊กซี ท็อปส์ มาร์เก็ต และร้านค้าปลีกทั่วประเทศ

ถือเป็นครั้งแรกของมาม่าคัพที่มีการลดราคา ตลอดจนการเพิ่มกำลังการผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาม่าเพิ่มขึ้น 30% เพื่อสอดรับกับภาพรวมตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง และมีมูลค่ากว่า 1.9 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นชนิดซอง 48% และชนิดถ้วย 52% โดยปัจจุบันมาม่ายังครองความเป็นผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่งกว่า 55% ในส่วนของแบรนด์มาม่า มียอดขายในไตรมาส 1 ปี 2563 เติบโตขึ้น 8% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2562 ที่มีอัตราการเติบโตเพียง 6%

นอกจากนี้บริษัทจะทุ่มงบประมาณ 25% ของยอดขาย เพื่อปรับปรุงเครื่องจักร รวมถึงเดินหน้าจัดกิจกรรมการตลาดรูปแบบใหม่ เช่น นำสินค้าเป็นตัวกลางสื่อสารช่วยสังคม สร้างการรับรู้ผ่านช่องทางสื่อโฆษณา โทรทัศน์ และจัดทำโปรโมชั่นร่วมกับโมเดิร์นเทรด ทั้งการจัดพื้นที่สำหรับรสชาติที่ขายดี เพื่อกระตุ้นยอดขายและเป็นทางเลือกให้ผู้บริโภค

นายเวทิตกล่าวต่อไปว่า สิ่งสำคัญที่ต้องทำหลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ภาพรวมจะเข้าสู่ภาวะปกติ แต่จะเห็นนิวนอร์มอล (new normal) ของพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งการสั่งสินค้าในช่องทางออนไลน์ ที่ตอบโจทย์ทั้งความสะดวกรวดเร็ว ทำให้บริษัทจัดตั้งทีมงานชื่อนิวนอร์มอลขึ้นมาเพื่อศึกษาแนวทางและโอกาสการเติบโตของธุรกิจในยุคนี้ โดยมีทั้งคนรุ่นใหม่และคนรุ่นเก่าที่มีประสบการณ์ เพื่อสร้างการเติบโตให้กับสหพัฒน์และบริษัทในเครือต่อไป