หนุ่มเมืองจันท์ : โชคดีที่เคยโชคร้าย

คอลัมน์ Market-think
โดย สรกล อดุลยานนท์

คนที่เคยเผชิญกับวิกฤตลอยตัวค่าเงินบาทปี 2540

หลายคนบอกว่า “โชคร้าย”

อยู่ดี ๆ เป็นหนี้เพิ่มขึ้น 3 เท่าตัวแค่ข้ามคืน

วันนั้นเขาเหนื่อยมากว่าจะกอบกู้ธุรกิจให้กลับมา

ทุกคนได้บทเรียนจากวันนั้น เป็นบทเรียนที่จำไม่ลืม

คนที่เคยผ่านวิกฤตปี 2540 ส่วนใหญ่จะรู้เลยว่าอย่ากู้เงินเกินตัว

ให้เล่นตามหน้าตัก

บางบริษัทถึงขั้นไม่กู้เงินอีกเลย มีเท่าไรใช้เท่านั้น

บางบริษัทยังกู้เงินขยายงานอยู่ แต่ระวังมากกว่าเดิม

เมื่อเจอวิกฤตไวรัสโควิด-19 หลายคนขอบคุณ “โชคร้าย” เมื่อปี”40

เขากลายเป็นคน “โชคดี” เพราะมีบทเรียนมาก่อน ทำให้ระมัดระวังในการใช้จ่ายเงิน

และได้เรียนรู้แบบ “เล่นจริง เจ็บจริง” ว่า วิกฤตแบบนี้ควรจะทำอะไรก่อน

1-2-3-4

อย่าแปลกใจที่ “แสนสิริ” จะออกแคมเปญ “อยู่ฟรี 2 ปี” เพื่อระบายสต๊อกโกยเงินสดตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน

กลุ่มไมเนอร์ระดมเงินจากตลาดทั้งเพิ่มทุน ออกหุ้นกู้ 25,000 ล้านบาท ทั้งที่มีกระแสเงินสดในมือไม่ต่ำกว่า 50,000 ล้านบาท

ฯลฯ

คนที่ผ่านวิกฤตปี 2540 รู้ว่า

“เงินสด” คือ “พระเจ้า” อย่างแท้จริงในช่วงเวลานี้

อย่าคิดหวังพึ่งแบงก์เป็นอันขาด

เพราะไม่รู้ว่าถึงเวลาที่มีปัญหา แบงก์จะปล่อยกู้ให้หรือเปล่า

เอาเงินสดมาตุนไว้ในกระเป๋าก่อนดีที่สุด

ใครเริ่มก่อนได้เปรียบ เพราะตลาดยังมีเงินอยู่

และคนยังงง ๆ

ถ้าไม่ซื้อตอนนี้กลัวพลาด

คนที่ไม่มีประสบการณ์เมื่อปี”40 จะคิดเยอะ กว่าจะตัดสินใจอาจจะช้าไป

และช่วงนั้นเงินในตลาดอาจร่อยหรอ

หรือคนแห่ขายของแบบโละสต๊อกเยอะมาก

ดีมานด์น้อย ซัพพลายก็มาก

แบบนี้จะเหนื่อย

“เวลา” มี “ราคา” ครับ

ในขณะเดียวกัน ผมได้ข่าวว่าบริษัทใหญ่หลายแห่งที่มี “เงินสด” จากการระดมทุนในช่วงเวลาไม่นานนัก

เงินในกระเป๋าเพียบ

เขาเริ่มปรับแผนใหม่

โครงการต่าง ๆ ที่เคยคิดว่าจะลงทุนใหม่ จะพับไว้ก่อน

แต่เริ่มมองหาธุรกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม ดี ๆ ที่มีปัญหา

บางแบรนด์กำลังเติบโต แต่มาสะดุดเพราะโควิด

สายป่านไม่ยาว

เจอกระตุกกระแสเงินสดนิดเดียวซวนเซเลย

ถ้าในเวลาปกติคงยากที่จะคุย

แต่วันนี้คุยง่ายขึ้น

อย่างน้อยการเสนอซื้อหรือร่วมทุนในเวลานี้ ไม่ใช่ “คำหยาบคาย”

แต่เหมือนเป็น “น้ำใจ”

เพราะตอนนี้ ใครที่มี “เงินสด”

การลงทุนใหม่ คือ “ความเสี่ยง”

เพราะไม่รู้ว่าลงทุนไปแล้ว จะขายได้หรือเปล่า

แต่ถ้าเปลี่ยนเป็น “ซื้อ” กิจการที่มีอยู่แล้ว

มีแบรนด์ มีลูกค้า

พิสูจน์ตัวเองเรียบร้อยแล้ว

แบบนี้ความเสี่ยงต่ำกว่าลงทุนใหม่

เพราะที่ผ่านมาเราเห็นแล้วว่ากิจการนี้ไปได้หรือไม่ได้

ที่เขาสะดุดตอนนี้เพราะสายป่านสั้น

ถ้ายืดลมหายใจให้เขา พอเศรษฐกิจฟื้น ธุรกิจนี้ไปได้แน่นอน

แบบนี้น่าลงทุน

ผมได้ยินข่าวเรื่องค้าปลีกขนาดใหญ่บางราย หรือธุรกิจร้านอาหารขนาดใหญ่ ฯลฯ คิดเรื่องนี้อยู่

ส่วนใหญ่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ

ตอนนี้เริ่มมีแย็บ ๆ กับบางแห่งบ้างแล้ว

หรือบางรายที่ระดมเงิน เก็บกระสุนดินดำไว้เยอะ ๆ

ตอนแรกอาจคิดแบบป้องกันตัวเอง

แต่ถ้าพักหนึ่งรู้สึกว่าใช้กระสุนแค่ครึ่งเดียวก็พอ

กระสุนอีกครึ่งหนึ่งก็จะเปลี่ยนมาเป็นการซื้อธุรกิจที่ดี แต่มีปัญหา

เราคงได้เห็นกันในช่วงวิกฤตนี้

เพราะคนที่เคยผ่านวิกฤตมาก่อน พอมองออกว่าหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น

คนที่ “โชคร้าย” ในวันก่อน

กลายเป็นคนที่ “โชคดี” ในวันนี้