โฆษณากระทบหนักรอบ 13 ปี

นายอารอน ริกบี้ กรรมการผู้จัดการ บริษัท นีลเส็น มีเดีย ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า การระบาดของโรคโควิด-19 สร้างผลกระทบกับอุตสาหกรรมสื่อที่รุนแรงและรวดเร็วกว่าครั้งไหน ๆ และอาจต้องใช้เวลาประมาณ 1 ปี กว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวเต็มที่

โดยผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโฆษณานั้น สามารถเห็นได้จากภาพรวมการใช้งบฯซื้อสื่อโฆษณาในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมาซึ่งติดลบถึง 25% นับว่ารุนแรงเป็นอันดับ 2 รองจากการเสด็จสวรรคตของรัชกาลที่ 9 ที่การใช้งบฯช่วงไตรมาส 4 ปี 2559 ติดลบ 28% และการใช้งบฯทั้งปีติดลบ 10% ส่วนช่วงอื่น ๆ อย่างวิกฤตเศรษฐกิจปี 2551 นั้นติดลบ 5% ส่วนงบฯทั้งปีติดลบ 2% ในขณะที่อุทกภัยปี 2554 ติดลบ 3% แต่งบฯทั้งปียังเติบโต

อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคไม่ได้รับสื่อน้อยลง หรือหยุดบริโภคสินค้า เพียงแต่การตัดสินใจซับซ้อนขึ้น และการเข้าถึงสื่อเปลี่ยนไป ทำให้นักการตลาดและผู้ผลิตโฆษณาต้องปรับกลยุทธ์และสื่อที่ใช้

เทรนด์โฆษณาช่วง “โควิด”

ทั้งนี้เทรนด์ของงานโฆษณาในช่วงโควิดสามารถแบ่งได้เป็น 3 แนวทางหลัก ๆ คือ “การรณรงค์เพื่อการกุศล” ทั้งบริจาคช่วยเหลือ หรือย้ำถึงการช่วยเหลือผู้บริโภคในช่วงวิกฤต “การช่วยเหลือผู้ทำงานในแนวหน้า” เช่นเจ้าของสินค้าบริจาค-ส่งมอบสินค้าที่จำเป็นให้กับพนักงานของตนหรือผู้เกี่ยวข้องกับการต่อสู้โรคระบาด “การตอกย้ำข้อความ” เป็นการย้ำเตือนการเว้นระยะห่างทางสังคม หรือการกักตัวอยู่บ้านด้วยการปรับแต่งโลโก้ หรือสโลแกนของแบรนด์

ด้วยเหตุนี้จึงยังมีกลุ่มอุตสาหกรรมที่ใช้เม็ดเงินโฆษณา โดยกลุ่มที่เติบโตสูงสุด 5 อันดับแรกในเดือน ม.ค.-เม.ย.คือ กลุ่มการศึกษาใช้งบฯเพิ่มขึ้น 75% ตามด้วยกลุ่มวัสดุก่อสร้างและเครื่องจักรเพิ่มขึ้น 35% กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าและคอมพิวเตอร์เพิ่ม 17% กลุ่มยาเพิ่ม 13% และกลุ่มสินค้าในครัวเรือนเพิ่มขึ้น 9%

ส่วนกลุ่มที่ปรับตัวลดลงสูงสุด 5 อันดับคือ กลุ่มยานยนต์ลดลง 20% กลุ่มอาหารและเครื่องดื่มลดลง 13% กลุ่มสื่อและการตลาด ลดลง 5% กลุ่มการเงินลดลง 3% เช่นเดียวกับกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคลและเครื่องสำอางที่ใช้เม็ดเงินน้อยลง 3%