ช็อปโดยไม่มีอะไรกั้น “สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต” ปรับแผนเจาะนักช็อปไทย100%

“สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต” ปรับโหมดธุรกิจรับโควิด เจาะนักช็อปชาวไทย 100% เร่งสร้างอะแวร์เนสผ่านออนไลน์ ประชาสัมพันธ์โครงการ จัดเต็มโปรดักส์ 200 แบรนด์ดัง รับทราฟฟิค 1 หมื่นคน/วัน

นายไมเคิลถัง กรรมการผู้จัดการ บริษัทสยามพิวรรธน์ ไซม่อน จำกัดกล่าวว่า ด้วยสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปจากโควิด-19 บริษัทได้ปรับแผนการทำตลาดใหม่ โดยหันมาเน้นทาร์เก็ตลูกค้าในประเทศ 100% และมีทราฟฟิคประมาณ 10,000 คนต่อวัน

จากนั้นหากมีการเปิดน่านฟ้า ให้นักท่องเที่ยวเข้ามา อาจขยับสัดส่วนเป็นคนไทย 80% นักท่องเที่ยวต่างชาติ 20% จากเดิมก่อนมีการแพร่ระบาดของโควิด เคยวางทาร์เก็ตของลูกค้าเป็นคนไทย 60% นักท่องเที่ยวต่างชาติ 40%

โดยช่วงแรก จะเน้นการสร้างแบรนด์อะแวร์เนสของเอาท์เล็ต และไซม่อน กรุ๊ป ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ร่วมกับการนำแบรนด์ต่างๆ ที่เป็นที่ต้องการสำหรับนักช็อปเข้ามาตอบโจทย์ที่หลากหลายกว่า 200 แบรนด์ ซึ่งประกอบไปด้วยเป็นลักเซอรี่แบรนด์ 10% อินเตอร์แบรนด์ 70-80% และอาหารอีก 10% โดยทั้งหมดนี้แบรนด์ที่เอ็กซ์คลูซีฟกับโครงการจำนวน 60 แบรนด์

อาทิ Burberry, Balenciaga, Bally, Breitling, CK, Furla, Hugo Boss, Montblanc, Salvatore Ferragamo, DKNY, 3.1 Phillip Lim, Alexander Wang, Black Barrett by Neil Barrett, Diesel, Marni, P.S. Paul Smith, Proenza Schouler, Stella McCartney, DKNY, See by Chloé, Joseph, Porsche Design ฯลฯ

ซึ่งขณะนี้แบรนด์ต่างๆมีการเปิดให้บริการแล้ว 65% และจะมีแบรนด์ใหม่ๆ เข้ามาเปิดเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่องจนครบ 80% ในสิ้นปี และเป็น 90-100% ภายในปีหน้า พร้อมกับส่วนลดประจำทุกวันที่ 35-70%

สำหรับพื้นที่ของโครงการทั้งหมดมีทั้งสิ้น 150 ไร่ โดยเฟสแรกใช้ไปแล้ว 50 ไร่ งบการลงทุน 4,000ล้านบาท