เฮงเค็ลไทยรุกขยายธุรกิจรอบทิศ

นายอีริค อีเดลแมน ประธาน บริษัท เฮงเค็ล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์กาว ล็อคไทท์, ผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผม ชวาร์สคอฟ ฯลฯ กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่และมีจำนวนชนชั้นกลางเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยที่จะช่วยกระตุ้นการเติบโตให้กับหลายอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ ความงาม อิเลคทรอนิกส์ อาหารและเครื่องดื่ม และเครื่องใช้ภายในบ้าน เพื่อรับกับโอกาสเหล่านี้ เฮงเค็ลในฐานะผู้นำในตลาดเทคโนโลยีกาวและผลิตภัณฑ์สำหรับผม จึงจะเดินหน้าตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค โดยจะเดินหน้าตามวิสัยทัศน์ Henkel 2020+ เพื่อสร้างการเติบโตในธุรกิจเทคโนโลยีกาวและธุรกิจเส้นผมอย่างยั่งยืนในไทยซึ่งถือเป็นตลาดที่มีความสำคัญในภูมิภาค ทั้งการให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เร่งพัฒนาด้านดิจิตอล ยกระดับความคล่องตัวในการดำเนินงาน รวมทั้งให้ความสำคัญกับพนักงานซึ่งถือเป็นทรัพยากรที่สำคัญที่สุดของบริษัท

สำหรับธุรกิจกาว เฮงเค็ลใช้กลยุทธ์นำเสนอโซลูชั่นประสิทธิภาพสูง เช่น บรรจุภัณฑ์อาหารที่พัฒนาให้มีมาตรฐานความปลอดภัยสูงขึ้น และเทคโนโลยีกาวประสิทธิภาพสูงสำหรับการผลิตเฟอร์นิเจอร์ รวมทั้งการปรับปรุงการผลิตสินค้าสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยมุ่งเน้นประสิทธิภาพในการลดใช้พลังงานและลดของเสีย โดยที่ผ่านมาเฮงเค็ลได้ควบรวมกิจการทั่วโลกของดาเร็กซ์ แพคเกจจิ้ง เทคโนโลยี ซึ่งรวมไปถึงโรงงานผลิตสินค้าที่นิคมอุตสาหกรรมบางปู เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าซึ่งเป็นผู้ผลิตอาหาร เครื่องดื่ม และกระป๋องสเปรย์ได้เพิ่มมากขึ้น

ด้านธุรกิจค้าปลีกด้านเส้นผม จะเน้นนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่นำเทรนด์ในแต่ละช่วงเวลา เช่น ชวาร์สคอฟ เฟรชไลท์ มิลค์กี้ และ เฟรชไลท์ โฟม ที่เปิดตัวมาก่อนหน้านี้ รวมทั้งชวาร์สคอฟคัลเลอร์ สเปเชี่ยลลิสต์ ที่มีเทคโนโลยีโอเมก้าเพล็กซ์ช่วยป้องกันเส้นผมเสียหลังทำสีและช่วยให้เส้นผมมีสุขภาพดีขึ้นในเวลาเดียวกัน ขณะที่ธุรกิจบิวตี้แคร์สำหรับช่างผมมืออาชีพ จะเดินหน้าสร้างคอมมิวนิตี้ช่างผมระดับโลกในประเทศไทย โดยในแต่ละปี สถาบันชวาร์สคอฟ เอเอสเค อะคาเดมี (Schwarzkopf ASK Academy) เป็นศูนย์กลางของภูมิภาคที่จัดฝึกอบรมช่างผมมืออาชีพกว่า 2,000 คน จากทั้งในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชา ลาว และพม่า