ร้านอาหารญี่ปุ่นเครือโออิชิผ่านการตรวจรับรองมาตรฐานทุกร้าน-ทุกสาขา

นางนงนุช บูรณะเศรษฐกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 18 ปีของการดำเนินธุรกิจบริการ ภัตตาคาร/ร้านอาหารอาหารญี่ปุ่น โออิชิ กรุ๊ป มีแนวนโยบายและแนวปฏิบัติในการประกันคุณภาพทั้งด้านสินค้าและบริการอย่างเข้มงวด ทั้งยังเล็งเห็นถึงความสำคัญและความจำเป็นอย่างยิ่งในเรื่องของระบบประกันคุณภาพ จึงได้นำ “ระบบประกันคุณภาพ” (Quality assurance system) ระบบมาตรฐาน GMP – HACCP – ISO 9001:2015 มาใช้กำกับดูแลกิจการ และการดำเนินงานของภัตตาคาร/ร้านอาหารญี่ปุ่นในเครือโออิชิ (1) โออิชิ แกรนด์ (2) โออิชิ อีทเทอเรียม (3) โออิชิ บุฟเฟต์ (4) นิกุยะ (5) ชาบูชิ (6) โออิชิ ราเมน (7) คาคาชิ และ (8) โออิชิ เดลิเวอรี่ 1773 รวมจำนวนสาขา 244 แห่ง โดยเน้นเรื่องสุขลักษณะและความปลอดภัยของอาหารตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ซึ่งผลจากการนำมาใช้อย่างเคร่งครัด ทำให้ร้านผ่านการตรวจรับรองระบบการจัดการคุณภาพ-สุขลักษณะและความปลอดภัยของอาหารสากลเชิงบูรณาการ ตั้งแต่ระบบมาตรฐาน ISO 9001:2008 เมื่อปี พ.ศ. 2551 เป็นต้นมา และยังคงรักษาระบบมาตรฐานดังกล่าว อีกทั้งพัฒนาอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอจนกระทั่งการปรับเปลี่ยนของระบบ ISO 9001 ขึ้นเป็นเวอร์ชั่น 2015

และเพื่อเป็นการยืนยันเรื่องคุณภาพ ความปลอดภัยของสินค้าและการให้บริการ จึงได้ให้ฝ่ายประกันคุณภาพดำเนินการเพื่อขอการรับรองระบบคุณภาพจากองค์กรชั้นนำของโลกทางด้านการตรวจสอบ การทดสอบ และการรับรองระบบซึ่งดำเนินการโดย บริษัท เอสจีเอส (ประเทศไทย) จำกัด และได้ผ่านการตรวจรับรองระบบคุณภาพในระดับภัตตาคาร/ร้านอาหาร ครอบคลุม 3 ระบบ ได้แก่ GMP – HACCP – ISO 9001:2015 ในขอบข่ายเนื้อหา “การบริการในภัตตาคารและร้านอาหารครอบคลุมอาหารสไตล์ญี่ปุ่น (บุฟเฟต์, ชาบู, ก๋วยเตี๋ยวสไตล์ญี่ปุ่น, ชุดอาหาร, ปิ้งย่าง และบริการจัดส่งอาหาร)” โดยเป็นรายแรกของประเทศไทยและภูมิภาคทวีปเอเชีย

ด้านนายไพศาล อ่าวสถาพร รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจอาหาร บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โออิชิเป็นเครือร้านอาหารรายแรก ๆ ที่สามารถผลิตและให้บริการผลิตภัณฑ์สินค้าที่มีคุณภาพดี ถูกสุขลักษณะ และให้ความปลอดภัยแก่ผู้บริโภคตามมาตรฐานสากลสอดคล้องกับนโยบายเชิงบูรณาการธุรกิจร้านอาหารของโออิชิ กรุ๊ป ที่มุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพ สุขลักษณะและความปลอดภัยของอาหาร เพื่อตอบสนองความพึงพอใจ และคงไว้ซึ่งความเชื่อมั่นสูงสุดแก่ลูกค้า ด้วยระบบการจัดการ และการปฏิบัติงานตามมาตรฐานสากลอย่างมีประสิทธิผล และมีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง การผ่านการตรวจรับรองระบบคุณภาพเหล่านี้ถือเป็นมาตรฐานที่ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในการทำงานอย่างมีระบบและเป็นมาตรฐานเพื่อเป็นหลักปฏิบัติที่ดีในการผลิต เพื่อส่งมอบคุณภาพของอาหาร วัตถุดิบ และบริการที่ดีให้กับลูกค้า