PowerBuy x B2S ปั้นโมเดลใหม่ดันยอดโตดับเบิลดิจิต

โฉมใหม่ - เพาเวอร์บาย X บีทูเอส แฟลกชิพสโตร์ มีพื้นที่ 6,000 ตร.ม. เป็นศูนย์รวมสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ หนังสือ อุปกรณ์เครื่องเขียน มากกว่า 5 หมื่นรายการ

“ซีโอแอล” เพิ่มโฟกัสโอทูโอ เกาะเทรนด์อีคอมเมิร์ซบูม ดึงลูกค้าออนไลน์เข้าร้านออฟไลน์ ทุ่ม 100 ล้านปั้นสาขาโมเดลใหม่ “เพาเวอร์บายxบีทูเอส แฟลกชิปสโตร์” ขนาด 6 พัน ตร.ม. ยึดทำเลทองเซ็นทรัลเวิลด์ พร้อมระดมทัพสินค้า-กิจกรรม ทั้งคลิกแอนด์คอลเล็กต์ เวิร์กช็อป แข่งเกม ฯลฯ จูงใจลูกค้าสร้างยอดขาย มั่นใจกลยุทธ์ใหม่หนุนยอดขายโต 20-30%

นายโลร็องต์ โปซ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีโอแอล จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารออฟฟิศเมท, บีทูเอสและธุรกิจอีบุ๊ก แมพ คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า ปัจจุบันอีคอมเมิร์ซได้กลายเป็นช่องทางสำคัญของวงการค้าปลีกเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยการระบาดของโควิด-19 เป็นตัวเร่งให้ผู้บริโภคหันมาซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าในช่องทางนี้มากขึ้น โดยช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา ยอดขายออนไลน์ของบริษัทเติบโตก้าวกระโดดถึง 3 ดิจิต และปัจจุบันยังมีสัดส่วนที่สูงและมีศักยภาพที่จะเติบโตได้มากขึ้น เพื่อสร้างความได้เปรียบและรองรับกับสภาพตลาด-กำลังซื้อที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ จากนี้ไปบริษัทจะเน้นกลยุทธ์โอทูโอ (online to offline) หรือการใช้ออนไลน์เพื่อสร้างโอกาสขายให้กับออฟไลน์เป็นแนวทางหลักในการทำตลาด และการลงทุน อาศัยการต่อยอดทรัพยากรที่มีอยู่ทั้งเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ, แชตแอนด์ช็อป และบริการต่าง ๆ เพื่อดึงลูกค้ามาที่สาขา อาทิ คลิกแอนด์คอลเล็กต์ หรือการเลือกรับสินค้าที่สาขา, รับสินค้าด่วนใน 1 ชั่วโมง ฯลฯ รวมไปถึงสาขาที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ

ล่าสุดบริษัทได้ทุ่มงบฯ 100 ล้านบาท ควบรวมและรีโนเวตพื้นที่ร้านบีทูเอส และเพาเวอร์บาย สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 4 เข้าด้วยกันเป็น “เพาเวอร์บาย x บีทูเอส แฟลกชิปสโตร์” ขนาดพื้นที่ 6 พัน ตร.ม. เป็นแฟลกชิปสโตร์ที่เป็นศูนย์รวมสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ หนังสือ อุปกรณ์เครื่องเขียน มากกว่า 5 หมื่นรายการ และการควบรวมนี้ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารจัดการพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่สำหรับจัดอีเวนต์ ซึ่งจะจัดทุกเดือนในธีม “The perfect match for all passionate lifestyle” เช่น เวิร์กช็อปทำอาหาร, การสาธิตสินค้า, กิจกรรมศิลปะ แข่งขันเกม และอื่น ๆ

รวมถึงเพิ่มหมวดสินค้าใหม่ ๆ รองรับเทรนด์ของตลาด ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฮม หนังสือการ์ตูน แก็ดเจต โดยจะมีการแบ่งโซนสินค้าออกเป็น 12 โซน อาทิ smart home living รวมสินค้าสมาร์ทโฮม gaming arena สำหรับอุปกรณ์เกมทั้งคอมพิวเตอร์และคอนโซล creative leisure รองรับกลุ่มผู้สร้างงานศิลปะ เป็นต้น สำหรับในช่วงเปิดสาขาจะสร้างการรับรู้ด้วยแคมเปญราคาและชิงรางวัล โดยรับสิทธิ์ลุ้นแผ่นภาพทองคำต้นไม้มงคลทั้งแปด เมื่อซื้อสินค้าครบ 1,000 บาท แจกรางวัลทุกวัน วันละ 20 รางวัล ตั้งแต่ 18 มิถุนายน-7 กรกฎาคมนี้

ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ซีโอแอล กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม เนื่องจากขณะนี้ยังไม่สามารถคาดการณ์สภาพตลาดและกำลังซื้อได้อย่างชัดเจน บริษัทจึงมีการทบทวนแผนการขยายสาขาใหม่ในช่วงครึ่งปีหลัง หลังจากไตรมาสแรกเปิดสาขาล่าสุดที่มาร์เก็ตวิลเลจ สุวรรณภูมิ แต่เชื่อว่าการลงทุนและปรับกลยุทธ์ จะช่วยให้รายได้ปีนี้เติบโตอย่างน้อย 2 ดิจิต หรือเติบโต 20-30% จากไตรมาสแรกที่มีรายได้รวมลดลง 6.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือ 2,749 ล้านบาท ซึ่งได้รับผลกระทบจากมาตรการการสกัดโควิด-19 ทั้งการปิดสาขาชั่วคราวและการชะลอการใช้จ่ายของผู้บริโภค ทำให้บริษัทต้องปรับกลยุทธ์ด้วยการหันมาเน้นการขายสินค้าไพรเวตแบรนด์ผ่านออนไลน์แทน พร้อมรัดเข็มขัดบริหารค่าใช้จ่าย และทำให้กำไรลดลง 19.1% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว หรือประมาณ 213 ล้านบาท

“ไตรมาสแรกที่ผ่านมา สำหรับบีทูเอสมีรายได้ 803 ล้านบาท ลดลง 21.8% อย่างไรก็ตาม สินค้ากลุ่มไลฟ์สไตล์และสื่อพัฒนาการเรียนรู้ มีสัดส่วนเพิ่มจาก 26% เป็น 29% ของรายได้ ขณะที่ออฟฟิศเมท มียอดขายผ่านช่องทางที่ไม่ใช่หน้าร้าน เช่น ศูนย์บริการทางโทรศัพท์และออนไลน์ 949 ล้านบาท เติบโต 5.9% สวนทางกับยอดขายผ่านหน้าร้านที่มี 847 ล้านบาท หรือลดลง 13.2% โดยยอดขายออนไลน์เติบโตต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปี ซึ่งเฉพาะช่องทางนี้มีการเติบโตถึง 22.9% เนื่องจากการมีช่องทางหลากหลาย ทั้งศูนย์บริการโทรศัพท์ เว็บไซต์ ไปจนถึงแอปพลิเคชั่น เป็นไปในทิศทางเดียวกับแมพ คอร์ปอเรชั่น ธุรกิจแพลตฟอร์มจำหน่ายอีบุ๊ก หรือหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ ที่มียอดขาย 231 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 62.5% จากเทรนด์เวิร์กฟรอมโฮม รวมถึงความนิยมหนังสือนิยายไทย และนิยายแปลไทย” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ซีโอแอล กล่าว