เครื่องดื่ม 1.55 แสนล้านครึ่งปีแรกหืดจับ ลุ้นคลายล็อก-โครงการภาครัฐปลุกโมเมนตัมเศรษฐกิจ กำลังซื้อ “ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค” ทุ่ม 200 ล้านลอนช์แคมเปญใหญ่ “มิรินด้า” เดินหน้าปรับภาพลักษณ์ ส่งสินค้าใหม่เจาะ Gen Z ดันยอดขายโตเท่าตัวฝ่าโควิด
นายสมชัย เกตุชัยโกศล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัดกล่าวว่า จากผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้น ทำให้ช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาตลาดเครื่องดื่มในภาพรวม (liquid refreshment beverage) มูลค่า 155,000 ล้านบาท หดตัวลง 7% เนื่องจากการล็อกดาวน์ทำให้ช่องทางของร้านอาหารไม่สามารถเปิดให้บริการได้ ทุกแคทิกอรี่ติดลบเหมือนกันหมด แต่อย่างไรก็ตาม เซ็กเมนต์ของตลาดน้ำอัดลมมูลค่า 56,000 ล้านบาท ติดลบ 2.5% น้อยกว่าตลาดภาพรวม เนื่องจากมีปัจจัยอย่างสภาพอากาศที่ร้อนในช่วงซัมเมอร์มาช่วยพยุง
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
- ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล ตรวจผลรางวัล งวด 16 เมษายน 2567
- หวยงวด 16 เมษายน ถ่ายทอดสด ตรวจผลรางวัล ผลสลากกินแบ่งฯ วันนี้ (16 เม.ย. 67)
อย่างไรก็ตาม มองว่าสถานการณ์ครึ่งปีหลังจะดีขึ้นจากการคลายล็อกให้ธุรกิจต่าง ๆ เริ่มกลับมาดำเนินการได้อีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร การท่องเที่ยว ผับ บาร์ ฯลฯ ซึ่งจะเอื้อให้เศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น แต่ก็ไม่สามารถทำให้ตลาดกลับมาเติบโตได้ แต่จะหดตัวมากเท่าไหร่ยังต้องจับตาดูสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด
ในส่วนของบริษัทเองก็เริ่มกลับมาทำแคมเปญการตลาดอีกครั้ง โดยการทุ่มงบฯ 200 ล้านบาทปรับภาพลักษณ์ครั้งใหญ่ของแบรนด์มิรินด้า เป็นไปตามโกลบอลคอนเซ็ปต์ “Mirinda Mix Up Your World” รีเฟรชแบรนด์ทั้งแพ็กเกจจิ้ง การทำตลาด ทาร์เก็ต ให้สนุก แปลกใหม่ ตรงกับความต้องการของกลุ่มวัยรุ่นที่เป็น Gen Z (15-24 ปี) โดยเฉพาะ เนื่องจากกลุ่มดังกล่าวมีการบริโภคน้ำอัดลมค่อนข้างสูง
โดยแบรนด์จะเข้าไปเอ็นเกจกับผู้บริโภคกลุ่มนี้ผ่านช่องทางออนไลน์อย่างครอบคลุมและตรงจุดมากขึ้น โดยเฉพาะโซเชียลมีเดีย เช่น เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ทวิตเตอร์ ยูทูบ ติ๊กต๊อก ฯลฯ ผ่านงบฯกว่า 60% ในการใช้สื่อทั้งหมด รวมถึงทัชพอยต์ต่าง ๆ ที่กลุ่มเหล่านี้จะมองเห็นและเลือกซื้อสินค้า ไม่ว่าจะเป็นสื่อนอกบ้าน ร้านค้าปลีกประเภทต่าง ๆ ซูเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ ฯลฯ
ตลอดจนการสร้างแบรนด์พอร์ตโฟลิโอที่แข็งแกร่ง ทั้งในรสชาติที่เป็นแกนหลัก อย่างน้ำสตรอว์เบอรี่ ส้ม กรีนครีม และรสชาติที่เป็นนวัตกรรม เช่น มิรินด้า มิกซ์เบอรี่ และแตงโม ที่เพิ่งวางตลาดไปเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ตามด้วยกิจกรรมทดลองชิม แจกตัวอย่างสินค้า 1.5 ล้านเสิร์ฟ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงกันยายน เพื่อให้ผู้บริโภคทั่วประเทศได้สัมผัสกับสินค้าโดยตรง
“เราเชื่อมั่นว่าด้วยผลิตภัณฑ์ กลยุทธ์การตลาด และการสื่อสารที่ครอบคลุมกับรูปแบบและความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย จะทำให้เครื่องดื่มมิรินด้าช่วยสร้างสีสัน และสามารถเป็น brand for me ที่ครองใจวัยรุ่น Gen Z ได้”
นายสมชัยระบุเพิ่มเติมว่า แม้จะมีสถานการณ์โควิดเข้ามาตั้งแต่ช่วงต้นปี แต่มิรินด้ายังมีการเติบโตที่ดีถึง 9% เนื่องจากช่วงต้นปีมีการเปิดตัวมิรินด้า กรีนครีม ตามด้วยการปรับดีไซน์แพ็กเกจจิ้งทั้งหมดใหม่ ตลอดจนการทำทีวีซีที่ลิงก์กับเรื่องราวที่คนรุ่นใหม่ให้ความสนใจ
จึงคาดว่าหลังจากการทุ่มงบฯทำการตลาดอย่างรอบด้านในครั้งนี้ จะช่วยผลักดันยอดขายเครื่องดื่มมิรินด้าในปีนี้ให้เติบโตจากปีที่ผ่านมาได้เท่าตัว หรืออยู่ที่ 18-20% และขยับมาร์เก็ตแชร์จากเบอร์ 3 เป็นเบอร์ 2 ได้ภายในปีหน้า