คอลัมน์ Marketthink
สรกล อดุลยานนท์
คิดเรื่องนี้มานานแล้ว แต่ไม่กล้าพูด
เพราะตอนช่วงที่เกิดโควิด-19 ใหม่ ๆ อารมณ์คนค่อนข้างเปราะบางมาก
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
การที่จะพูดถึง “ข้อดี” ของ “โควิด-19” เป็นจังหวะเวลาที่ไม่เหมาะสม
เหมือนกับไม่สนใจความเดือดร้อนของคนทั่วไป
เพราะคนส่วนใหญ่ลำบากถึงขนาดไม่มีข้าวกิน
ต้องมาต่อคิวเป็นชั่วโมงเพื่อรับข้าว 1 กล่อง
แต่วันนี้คงพอจะพูดได้แล้ว
“โควิด-19” ทำให้คนเดินทางน้อยลง
มลภาวะที่เป็นเรื่องใหญ่ของสังคมไทยก็ลดน้อยลงด้วย
ค่า PM 2.5 ที่เป็นเรื่องใหญ่ของ “คนกรุง”
พอคนอยู่บ้าน ไม่มีใครเดินทางไปไหน
นอกจากการจราจรที่เคยติดขัดก็สะดวกสบายขึ้น
ควันพิษจากรถก็ลดลง
เราสามารถมองเห็นท้องฟ้าชัดกว่าเดิม ไม่มีฝุ่นควันบดบังสายตา
วัดค่าฝุ่น PM 2.5 ก็ลดลงมาก
ชายหาดหรือป่าเขาที่เคยมีนัก
ท่องเที่ยวเต็มไปหมด ไม่เคยมีวันหยุด
อยู่ดี ๆ ก็มีวันหยุดขึ้นมา ยาวนานถึง 2-3 เดือน
ทะเลได้พักผ่อน
ต้นไม้ได้แผ่กิ่งก้านอย่างสบายใจ
สัตว์ป่าที่เขาใหญ่ได้ออกมานั่งเล่นบนถนน
ปะการังใต้ทะเลไม่มีใครรบกวน
ปลาที่เคยหนีห่างจากชายหาดก็กลับมาอีกครั้ง
นี่คือ สิ่งที่เราได้เห็นหลังจากรัฐบาลได้ผ่อนคลายให้คนออกมาใช้ชีวิตเหมือนเดิม
ที่ผ่านมาเรารณรงค์เรื่องการท่องเที่ยว
มีนักท่องเที่ยวทั้งต่างชาติและคนไทยเดินทางไปตามแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติต่าง ๆ มากมาย
ไม่เคยมีช่วงเวลาไหนที่แหล่งท่องเที่ยว
เหล่านี้ได้พักเพื่อฟื้นฟูธรรมชาติให้กลับคืนมา
ทุกเวลาเป็นเงินเป็นทอง
แหล่งท่องเที่ยวทุกแห่งเหมือนโรงพิมพ์แบงก์
มีไม่กี่แห่งที่มีการพักบ้าง เช่น ภูกระดึง ที่ไม่ให้เที่ยวช่วงหน้าฝน
แต่ “โควิด-19” น่าจะทำให้เราได้ฉุกคิดถึงอะไรบางอย่าง
“คำถาม” ที่ค้างคาใจมานานว่าถ้าปล่อยให้แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติได้พักฟื้นบ้าง
มันสวยงามขึ้นกว่าเดิมมากแค่ไหน
“โควิด-19” ให้ “คำตอบ” ที่ชัดเจนมาก
วันนี้ ในวันที่นักท่องเที่ยวยังไม่กลับมา เราน่าจะมีการทบทวนเรื่องนี้สักนิดไหมครับ
แปร “วิกฤติ” ให้เป็น “โอกาส”
ถ้าเห็นว่าธรรมชาติวันนี้สวยงามกว่าวันก่อน
เพราะได้พักผ่อน
เราควรคิดถึงเรื่องการท่องเที่ยวที่ยืนยาว ใช้ประโยชน์จากธรรมชาติที่งดงามของประเทศให้นานที่สุดดีไหม
ให้ทะเลสวยอย่างที่ควรจะสวย
ให้ชายหาดขาวและสะอาดเท่าที่ธรรมชาติมอบให้
ให้ต้นไม้ในอุทยานแห่งชาติทั้งหลายได้มีเวลาฟื้นตัว
สัตว์ป่าได้ใช้ชีวิตแบบไม่มีมนุษย์รบกวนบ้าง
รีบคิดและรีบทำก่อนที่นักท่องเที่ยวจะกลับมาอีกครั้ง
สมมติว่าถ้าเราจะปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวไปเกาะหรือชายหาดแต่ละแห่งสักปีละ 1 เดือน
สลับกันปิด เพื่อให้มีชายหาดอื่นๆให้นักท่องเที่ยวไปเที่ยวได้
ปิดป่า ปิดอุทยาน เป็นประจำทุกปี
ในเชิงธุรกิจ ของดี-ของสวย และเวลาไปเที่ยวก็เหลือแค่ 11 เดือนจาก 12 เดือน
เราขายราคาแพงขึ้นได้
และโรงพิมพ์แบงก์เมื่อได้พักเครื่อง
เราก็จะหากินได้ยาวนานกว่าเดิม
ถ้ารัฐบาลว่างจากการปรับคณะรัฐมนตรีแล้ว ลองทบทวนเรื่องนี้สักครั้ง
ผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่จะสนับสนุน
อย่าให้ชายหาดสวย ๆ เป็นแค่ภาพในอดีต
เมื่อเราสามารถฟื้นฟูกลับคืนมาและรักษามันไว้นาน ๆ ได้
เราก็ควรทำ
น่าคิดนะครับ