หนุ่มเมืองจันท์ : หมุนให้รอบตัว

บทความ โดย หนุ่มเมืองจันท์
คอลัมน์ Market-think
สรกล อดุลยานนท์

ช่วงนี้มี 2 เรื่องที่อยากเล่าให้ฟัง

เรื่องแรก คือ ผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ของธนาคารพาณิชย์

เห็นตัวเลขกำไรที่ลดลงแล้วบอกตรง ๆ ว่า “หนาวมาก”

หนาวยิ่งกว่าลำปางอีก

ตัวเลขกำไรที่ลดลงไม่เท่าไร เพราะจริง ๆ กำไรยังดีอยู่ ส่วนใหญ่กำไรเพิ่มขึ้นด้วย

แต่ที่ตัวเลขกำไรลดลงระดับ 40-70% มาจากแบงก์ตั้งสำรองหนี้สูญไว้

เป็นการขาดทุนทางบัญชี

คาดการณ์ไว้ล่วงหน้าว่าอาจจะเกิด “หนี้เสีย” จำนวนเท่านี้

แต่ยิ่งสำรองมากเท่าไร ก็ทายได้ว่า “หนี้เสีย” จะมากเท่านั้น

แบงก์อาจตั้งสำรองเกินจริงไว้บ้าง แต่ถ้า “หนี้เสีย” จริงสัก 70-80% ก็หนักแล้ว

“หนี้เสีย” นั้นมีความหมายว่า ภาคธุรกิจที่กู้เงินจากแบงก์สถานการณ์ย่ำแย่

ไม่มีเงินส่งแบงก์

หรือบางแห่งอาจจะเลิกกิจการเลย

นี่คือสัญญาณเตือนภัยทางเศรษฐกิจที่ชัดเจนที่สุด

เรื่องที่สอง เป็นกลยุทธ์การตลาดของ “แสนสิริ” ในช่วงวิกฤตโควิด-19

แคมเปญลดราคา และให้อยู่ฟรี 2 ปี

แรงมากก…

ต้องยอมรับว่า นี่คือบทเรียนที่ “เศรษฐา ทวีสิน” ได้จากช่วงวิกฤตปี 2540

เขารู้ว่าถ้าเกิดวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่เมื่อไร

“เงินสด” สำคัญที่สุด

และต้องรีบทำเร็ว เพราะช่วงแรก ๆ คนยังมีเงินอยู่

ยังงง ๆ กับ “โควิด”

ใครบุกก่อนได้เปรียบ

กลยุทธ์ลดราคาอย่างแรงครั้งนี้เพื่อเรียกเงินสดเข้าบริษัท

บ้านบางหลังที่อยู่ท้ายซอย ขายยาก ก็พร้อมจะขายขาดทุน

บางหลังก็ยอมกำไรนิดเดียว

ที่น่าสนใจคือ แคมเปญเรื่องให้อยู่ฟรี 2 ปี

“แสนสิริ” ยอมผ่อนทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย 2 ปีแรกให้

แคมเปญนี้แรงมาก เพราะโดนใจคนที่อยากได้บ้าน

เครดิตก็ดี แต่กลัวความไม่แน่นอนในช่วง 2 ปี

ซื้อบ้านหรือคอนโดฯ ถือเป็นหนี้ก้อนใหญ่มาก

ดังนั้นเมื่อ “แสนสิริ” มารับผิดชอบการผ่อนหนี้และดอกในช่วง 2 ปีแรก

เขาก็รู้สึกปลอดภัย

เพราะเชื่อว่าวิกฤตครั้งนี้คงอยู่ไม่เกิน 2 ปี

เชื่อไหมครับว่า ครึ่งปีแรก “แสนสิริ” ทำยอดขายได้สูงถึง 34,000 ล้านบาท

โอนแล้ว 25,000 ล้านบาท

สูงขึ้นกว่าปีที่แล้ว 152%

สูงเป็นประวัติศาสตร์ของ “แสนสิริ” เลย

เหมือนเป็นตัวอย่างว่า ภายใต้ “วิกฤต” ก็มี “โอกาส”

ถ้ากล้าคิด และกล้าตัดสินใจ

แต่ที่ผมชอบที่สุดคือ กลยุทธ์การหมุนรอบตัวเองหาลูกค้าใหม่

“ลูกค้า” กลุ่มใหญ่ของ “เศรษฐา” ครั้งนี้เป็นคนที่อยู่ใกล้ตัวครับ

นั่นคือ พันธมิตรและคู่ค้าของ “แสนสิริ”

ช่วงที่ผ่านมา “แสนสิริ” ซื้อของหรือบริการจากเขามาเยอะแล้ว

ครั้งนี้ขอให้ช่วยซื้อบ้านหรือคอนโดฯ จาก “แสนสิริ” บ้าง

เรื่องนี้ขายกันง่าย ๆ

“ผมถามว่า ถ้าคุณได้เงินผมไปเยอะขนาดนี้ จะเป็นการขอที่มากไปมั้ย

ถ้าจะให้คุณช่วยมาซื้อคอนโดฯ ผม สักยูนิต”

ลองคิดในมุม “คู่ค้า” สิครับ

“แสนสิริ” เป็นลูกค้ารายใหญ่เอ่ยปากแบบนี้

ถ้าไม่ช่วยซื้อก็ใจดำไปหน่อย

มุมหนึ่ง เหมือนกับการซื้อประกัน

เพราะถ้าไม่ซื้อ ไม่ช่วยกันตอนนี้

“แสนสิริ” ก็มีสิทธิ์ที่จะเลือกทำการค้ากับคนอื่นที่มี “น้ำใจ” กับเขา

แต่ถ้าซื้อ เขาก็ค้าขายกับเราต่อไป

เป็นกลยุทธ์แปร “คู่ค้า” เป็น “ทุน” ของ “เศรษฐา”

ผลปรากฏว่าขายดีมาก

ลองทายดูสิครับว่า เขาขายได้เท่าไร

2,000 กว่าล้านบาทครับ

ถือเป็น “ตัวอย่าง” หนึ่งที่น่าสนใจ

ลองหมุนรอบตัวเองดูสิครับ


บางที “ลูกค้า” รายใหม่อาจอยู่ใกล้ตัวคุณ