สยามพิวรรธน์เปิดโมเดลใหม่ “ไอคอนคราฟต์” หนุน 500 แบรนด์ไทย

เก๋ - ไอคอนคราฟต์ เปิดพื้นที่ให้ช่างฝีมือไทยจาก 77 จังหวัดทั่วประเทศ มานำเสนอผลงานจากภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการรายย่อยและชุมชน

“สยามพิวรรธน์” ปั้นโมเดลใหม่ “ไอคอนคราฟต์” หนุนช่างฝีมือไทย-นักออกแบบ ดันภูมิปัญญาท้องถิ่น 77 จังหวัดทั่วประเทศ รวมกว่า 500 แบรนด์ ส่งต่อเอกลักษณ์ไทย สร้างมูลค่าเพิ่ม ต่อยอดสู่เวทีโลก หวังสร้างระบบนิเวศค้าปลีกแบบยั่งยืน พร้อมจับมือ ธ.กสิกรไทยสนับสนุนเงินทุน องค์ความรู้ ช่องทางจำหน่ายออนไลน์ รับนิวนอร์มอลผู้บริโภค

นางอุสรา ยงปิยะกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามพิวรรธน์ รีเทล โฮลดิ้ง จำกัดระบุว่า สถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ได้กระตุ้นจิตสำนึกให้คนทั่วโลกตระหนักถึงความสำคัญในแนวทางการดำรงชีวิตเพื่อความยั่งยืนอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น บริษัทจึงได้เปิดตัว “ไอคอนคราฟต์” พื้นที่ที่รวมช่างฝีมือไทยจาก 77 จังหวัดทั่วประเทศ ที่มีผลงานออกแบบบนพื้นฐานความเป็นไทย ความคิดสร้างสรรค์ และภูมิปัญญาท้องถิ่น ให้ได้แสดงศักยภาพเพื่อสร้างระบบนิเวศของธุรกิจค้าปลีก (retail ecosystem) ร่วมกันระหว่างผู้บริโภค ผู้ประกอบการร้านค้า หรือกลุ่มผู้ค้ารายย่อย ชุมชนและสังคม โดยเชื่อว่าวิกฤตการณ์ในครั้งนี้จะเป็นจุดสำคัญที่ก่อให้เกิดการร่วมแรงร่วมใจของคนไทยที่จะช่วยเหลือสนับสนุนคนไทยด้วยกันเอง

ปัจจุบันไอคอนคราฟต์มีด้วยกัน 2 สาขา ได้แก่ ไอคอนสยาม ชั้น 4 และชั้น 5 ภายใต้พื้นที่ 2,500 ตร.ม. และสาขาล่าสุดที่สยามดิสคัฟเวอรี่ชั้น 3 ภายใต้พื้นที่ 1,000 ตร.ม. มีการนำเสนอภายใต้คอนเซ็ปต์ “The creative inspiration platform for Thai craftsmen, to love, enjoy and be proud of modern Thai-ness” รวมกว่า 500 แบรนด์ ครอบคลุมทั้งหมด 4 ด้าน อาทิ 1.การส่งต่อความภูมิใจของงานคราฟต์ไทยให้คนทั่วโลก จากสินค้าของดีไซเนอร์รุ่นใหม่ และองค์ความรู้จากอดีตที่ออกมาเป็นผลงานแบบร่วมสมัย เข้าถึงได้ง่าย ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ทั้งไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ

2.การสนับสนุนและทำงานร่วมกับชุมชนคราฟต์ รวมถึงส่งเสริมบุคคลพิเศษ ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส ให้แสดงความสามารถหรือนำผลิตภัณฑ์มาจำหน่าย 3.ความคิดสร้างสรรค์ของช่างศิลป์ฝีมือเก่งที่พร้อมส่งต่อเทคนิคคราฟต์ และจุดไฟให้นักออกแบบรุ่นใหม่นำไปต่อยอดงานทำมือ เพื่อบอกเล่าเอกลักษณ์ไทยในบริบทที่แตกต่าง และ 4.ส่งต่อแรงบันดาลใจจากช่างคราฟต์ไทยด้วยกิจกรรมเวิร์กช็อป เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนได้ลองทำงานคราฟต์ด้วยตนเอง และเข้าถึงงานฝีมือที่ใช้เทคนิคโบราณมาประยุกต์ให้เป็นผลงานร่วมสมัย โดยสินค้าภายในไอคอนคราฟต์มีทั้งหมดกว่า 40,000 ไอเท็ม

“ที่ไอคอนสยามจะมีพื้นที่พิเศษเพื่อสนับสนุนและให้โอกาสกับผู้พิการ ผู้ทุพพลภาพ เด็กพิเศษ และผู้ด้อยโอกาส ได้นำผลิตภัณฑ์ที่ได้ผลิตขึ้นมาเผยแพร่ให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง และวางจำหน่ายโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้นในโซน “Made By Beautiful People” ส่วนที่สยามดิสคัฟเวอรี่เน้นสินค้าที่ล้ำสมัยตอบรับกับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าวันสยามซึ่งมีคนรุ่นใหม่เป็นกลุ่มลูกค้าหลัก อาทิ แบรนด์ชวนหลงเซรามิค, แบรนด์ Keziah, แบรนด์ Sam-phat, แบรนด์ Zhowcase และแบรนด์กาแฟ Graph Coffee ฯลฯ”

นอกจากนี้ บริษัทยังจัดหาพันธมิตรจากสถาบันการเงินต่าง ๆ มาให้ความรู้เรื่องการออมและการลงทุน ให้เรียนรู้จากประสบการณ์จริงของการค้าผ่านการวิเคราะห์ การจัดการข้อมูลเป็นองค์ความรู้ที่สร้างโอกาส สร้างรายได้ให้ช่างฝีมือ และสร้างอาชีพให้ชุมชนเข้มแข็ง พร้อมสร้างกระบวนการในการเรียนรู้การทำธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์

นายสุรัตน์ ลีลาทวีวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวในฐานะพาร์ตเนอร์ที่ร่วมสนับสนุนงานคราฟต์ของไทยว่า ธนาคารกสิการไทยได้เข้าไปสนับสนุนให้กับผู้ประกอบการไทย 3 ด้านคือ 1.การสนับสนุนด้านเงินทุน เพื่อให้ผู้ประกอบการมีเงินทุนหมุนเวียนในการทำธุรกิจ 2.การสนับสนุนด้านองค์ความรู้โดยเฉพาะในเรื่องบัญชีการเงิน การบริหารสภาพคล่อง 3.การสนับสนุนด้านช่องทางการจัดจำหน่าย เพื่อสร้างโอกาสในการขายและการเข้าถึงลูกค้าที่มีกำลังซื้อผ่าน K+ Market ตลาดออนไลน์บนแอป K PLUS เป็นช่องทางการขายที่รับวิถีใหม่ในยุค new normal