พิซซ่าเปิดศึกชิงเค้กหมื่นล้าน “พิซซ่าคอมปะนี” ลุยครบเครื่องย้ำแชมป์

พิซซ่าหมื่นล้านแข่งขันเดือด โควิดหนุนแคมเปญ 1 แถม 1 เกลื่อนตลาด “เดอะพิซซ่า คอมปะนี” ลุยแบบครบเครื่อง ประกาศเข็นหน้าใหม่ เน้นสด อร่อย ราคาสบายกระป๋า ควบโปรฯแรง ล่าสุดลอนช์นิวยอร์กพิซซ่า XXL 18 นิ้ว ดึงลูกค้านั่งทานในร้าน เล็งปรับสเกลสาขา-ปิดสาขาขาดทุน เดินหน้าเพิ่มน้ำหนัก 1112 ดีลิเวอรี่เพิ่มความสะดวก พร้อมทุ่มงบฯเร่งทำสื่อออนไลน์เจาะกลุ่มเป้าหมาย

นายภาณุศักดิ์ ซื่อสัตย์บุญ ผู้จัดการทั่วไป เดอะพิซซ่า คอมปะนี บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ถึงภาพรวมของตลาดพิซซ่าในช่วงที่ผ่านมาว่า จากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้น ตลอดจนการที่ภาครัฐออกมาตรการล็อกดาวน์ ปิดศูนย์การค้า เพื่อลดการแพร่ระบาด ส่งผล

ให้ร้านเดอะพิซซ่า คอมปะนี ได้รับผลกระทบในระดับหนึ่ง โดยต้องปิดการให้บริการไปทั้งสิ้นประมาณ 30 สาขา จากจำนวนสาขาที่มีอยู่ประมาณ 426 สาขา ขณะเดียวกันก็ได้หันมาเน้นการซื้อกลับบ้านและดีลิเวอรี่ เพื่อสอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภค ซึ่งถือว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เห็นได้จากความถี่ในการสั่ง ทั้งช่องทางของแอปพลิเคชั่นและคอลเซ็นเตอร์ 1112 เดอะพิซซ่า คอมปะนี และการสั่งผ่านเว็บไซต์ 1112 ดีลิเวอรี่ ทำให้ยอดขายช่วงเดือนมีนาคม-มิถุนายน เดอะพิซซ่า คอมปะนี มีการเติบโตเป็นเท่าตัวเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา

“ช่วงโควิดช่องทางดีลิเวอรี่สามารถทำรายได้มาทดแทนรายได้ที่หายไปจากหน้าร้านได้ แต่ในแง่ต้นทุนก็สูงขึ้น จากการขยายโปรโมชั่นซื้อ 1 แถม 1 ออกไปอีก 1 เดือน และบริการแบบฟรีดีลิเวอรี่ไม่คิดค่าส่ง เช่นเดียวกับภาพรวมตลาดพิซซ่าที่มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 10,000 ล้านบาท ที่มีการเติบโตขึ้นในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะตัวเลขจากช่องทางขายดีลิเวอรี่ที่เป็นตัวขับเคลื่อนตลาด” นายภาณุศักดิ์กล่าวและว่าตลาดรวมพิซซ่าแบ่งออกเป็น 2 พาร์ต

ช่วงโควิดตลาดโตขึ้น เพราะเราโตขึ้นคงทำให้ตลาดโตขึ้นด้วย เราเป็นเบอร์ 1 ในตลาด แต่หลังวิกฤตโควิด ช่วงนี้เริ่มเหนื่อยเพราะดีลิเวอรี่ตกลง คนกลับมาห้างไม่เหมือนเดิม ทราฟฟิกยังไม่กลับมา การกลับมารับประทานในร้านก็ยังอยู่ในระดับ 50-80% ยังไม่เต็มร้อย คนส่วนใหญ่จะระมัดระวังการจับจ่ายจากปัญหาเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ลดลง รวมทั้งพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป เช่น เลือกทานอาหารเซ็กเมนต์อื่น ๆ แทน เช่น ร้านสตรีตฟู้ด รวมถึงช่องทางการสั่งดีลิเวอรี่เริ่มลดลง เพราะคนเริ่มออกมาใช้ชีวิตนอกบ้าน และอีกด้านจะมีแพลตฟอร์มออนไลน์-ดีลิเวอรี่อาหารประเภทอื่น ๆ ที่เข้ามาแย่งตลาด

ตลาดพิซซ่าแข่งเดือด

นายภาณุศักดิ์กล่าวว่า ขณะนี้ตลาดพิซซ่าแม้จะมีผู้ประกอบการอยู่ไม่กี่ค่าย ได้แก่ เดอะพิซซ่า คอมปะนี, พิซซ่าฮัท และโดมิโน่ แต่ตลาดนี้ก็เป็นตลาดที่มีการแข่งขันค่อนข้างสูง โดยส่วนใหญ่จะแข่งขันกันในแง่ของโปรโมชั่น ราคาถูก เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า แต่ทุกรายก็ยังเหนื่อย เพราะยอดขายกลับมาไม่เหมือนเดิม ตลอดจนปัจจัยทางเศรษฐกิจและกำลังซื้อ ผู้คนต้องระมัดระวังในการจับจ่าย รวมถึงตลาดนักท่องเที่ยวยังไม่กลับมา ส่งผลกระทบกับสาขาที่อยู่ในแหล่งท่องเที่ยว ยอดขายลดลงอย่างมาก ทุกค่ายจะต้องงัดโปรโมชั่นต่าง ๆ ออกมาไดรฟ์ตลาดโดยเฉพาะช่วงโควิด

โดยแต่ละค่ายเน้นการ ซื้อ 1 แถม 1 ค่อนข้างมาก เพื่อเป็นการออฟเฟอร์แวลู เพราะผู้บริโภคยังต้องการโปรโมชั่น และต้องการในเรื่องของราคาถูก หากสังเกตจะเห็นได้ว่า นอกจากตลาดจะมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ออกมาในตลาดอย่างต่อเนื่องแล้ว ยังมีการจัดโปรโมชั่นในลักษณะ ซื้อ 1 แถม 1 และบริการส่งดีลิเวอรี่ฟรี เพื่อดึงดูดความต้องการของผู้บริโภคอยู่เป็นระยะ ๆ

บุกหนักหวังขับเคลื่อนตลาด

นายภาณุศักดิ์กล่าวถึงทิศทางการดำเนินงานในครึ่งปีหลังนี้ว่า จากนี้ไปจะเน้นกลยุทธ์ marketing และ innovation โดยจะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ เน้นความสด อร่อย ราคาเข้าถึงง่าย ควบคู่กับการจัดโปรโมชั่นเพื่อขับเคลื่อนให้ตลาดกลับมาคึกคัก และช่วยเพิ่มความถี่ในการเข้าร้าน 2.5 ครั้งต่อเดือน จากเดิม 1 ครั้งต่อเดือน มีค่าใช้จ่ายประมาณ 500-600 บาทต่อบิล ล่าสุดลอนช์เมนูใหม่ นิวยอร์ก พิซซ่า XXL 18 นิ้ว เพื่อดึงลูกค้าให้กลับมานั่งรับประทานภายในร้าน ที่มาพร้อมราคาพิเศษ 399 บาท จากปกติ 569 บาท

โดยเดอะพิซซ่า คอมปะนี จะมีการจัดแคมเปญโปรโมชั่นมากขึ้น รวมทั้งมีการออกอินโนเวชั่นใหม่ ๆ เช่น นิวยอร์กพิซซ่า ที่ทำตลาดในตอนนี้ จากก่อนหน้ามีครัวซองต์พิซซ่า พิซซ่าขอบชีสไก่ระเบิด เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อเป็นการขับเคลื่อนตลาด

“เป็นมิกซ์ของเรา พิซซ่า 149 บาทก็มี ตัวถูก ๆ ก็ต้องมีให้เลือก บางช่วงทำโปรฯแรงมาก เช่น เริ่มต้น 129 บาท ขณะเดียวกันก็ใช้อินโนเวชั่นในการขับเคลื่อนตลาดเพื่อดึงดูดลูกค้า ส่วนตัวนิวยอร์กพิซซ่าที่ทำคือตั้งใจทำเพื่อดึงคนมานั่งทานที่ร้าน เพราะไซซ์ 18 นิ้ว มีเฉพาะที่ร้านเท่านั้น ซึ่งก็ช่วยให้ตัวเลขการนั่งรับประทานในร้านเริ่มดีขึ้น”

แตะเบรกสาขา-ลุยดีลิเวอรี่

นายภาณุศักดิ์ย้ำว่า สำหรับแผนการขยายสาขาเพิ่มขณะนี้อาจจะต้องชะลอไว้ก่อน เนื่องจากปัจจุบัน เดอะพิซซ่า คอมปะนี มีจำนวนสาขาที่ค่อนข้างครอบคลุมทุกพื้นที่แล้ว โดยที่ผ่านมาการขยายสาขาร้านเดอะพิซซ่า คอมปะนี แบ่งเป็น 3 รูปแบบ ได้แก่ สาขา full service restaurant ตามด้วยรูปแบบ delco สำหรับรองรับบริการดีลิเวอรี่ เน้นเปิดตามอาคารพาณิชย์ และรูปแบบ delco มีที่นั่งรับประทาน เน้นขยายเข้าไปตามคอมมิวนิตี้มอลล์ เพื่อตอบโจทย์วิถีชีวิตของผู้บริโภคในยุคดิจิทัลที่เร่งรีบและต้องการความสะดวกรวดเร็วมากขึ้น

“ตอนนี้ถือโอกาสปรับขนาด สเกล ว่าสาขาไหนที่อยู่ได้ เลี้ยงตัวเองได้บ้าง ถ้าอยู่ไม่ได้ บางทีในห้างก็ต้องปิด และถือโอกาสมองร้านบางร้าน ใหญ่เกินไปก็อาจจะลด ขึ้นอยู่ในแต่ละทำเล ควบคู่กับการทำการตลาดสื่อสารแบรนด์ โฟกัสไปที่ออนไลน์ดิจิทัล ส่วนสื่อทางทีวีอาจยังใช้อยู่บ้าง แต่ลดลงเพราะปัจจุบันช่องทางการรับสื่อของคนเปลี่ยนไปทางออนไลน์ ดังนั้นจึงต้องปรับตัวตามไปด้วย”

ขณะเดียวกันบริษัทจะใช้คอลเซ็นเตอร์ 1112 เดอะพิซซ่า คอมปะนี เป็นตัวบุกเบิกในการขายดีลิเวอรี่ โดยปัจจุบันเดอะพิซซ่า คอมปะนี ถือเป็นรายได้หลักในเครือไมเนอร์ฟู้ด โดยปีที่ผ่านมาได้เปิดตัวแอปพลิเคชั่น 1112 ดีลิเวอรี่ รวมแบรนด์ร้านอาหารในเครือไมเนอร์ อาทิ เดอะพิซซ่า คอมปะนี, ซิซเล่อร์, สเวนเซ่นส์, แดรี่ควีน, เบอร์เกอร์คิง, เดอะคอฟฟี่ คลับ เข้ามาอยู่ในแอปเดียวเพื่อเพิ่มความสะดวก รวมถึงการทำลอยัลตี้โปรแกรม สะสมแต้มแลกของรางวัลร่วมกัน โดยเปิดให้บริการดีลิเวอรี่ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล จากนั้นจึงจะขยายไปยังหัวเมืองใหญ่อย่าง ภูเก็ต เชียงใหม่ พัทยา และนครราชสีมา แล้วค่อยขยายไปให้ครบทุกภาค ล่าสุดได้ปรับโฉมโลโก้ใหม่ให้ชัดเจน และทันสมัยให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ใหม่ ๆ ในยุคปัจจุบัน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ล่าสุดพิซซ่า 3 ค่ายใหญ่ในตลาด มีความเคลื่อนไหวในการทำตลาดอย่างคึกคัก เริ่มจากเดอะพิซซ่า คอมปะนี ล่าสุดจัดแคมเปญท้าวัดพิซซ่าไซซ์ยักษ์เส้นผ่านศูนย์กลาง 18 นิ้ว เพียงถ่ายรูปนิวยอร์กพิซซ่าคู่กับสายวัด 18 นิ้ว โพสต์ลงบนเฟซบุ๊กพร้อมตั้งค่าเป็นสาธารณะ แล้วแคปรูปมาแปะที่ใต้โพสต์กิจกรรม ลุ้นสิทธิ์รับ AirPods จำนวน 5 รางวัล (หมดแคมเปญ 23 กันยายนนี้)

เช่นเดียวกับพิซซ่าฮัท จากยัม เรสเทอรองตส์ ที่ปัจจุบันบริหารงานโดยมาสเตอร์แฟรนไชซี พีเอช แคปปิตอล บริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) และพีเอ็ม แคปปิตอล ของตระกูลมหากิจศิริ ได้ทยอยส่งโปรโมชั่นออกมาเป็นระยะ ๆ


ล่าสุดส่งพิซซ่ารวมหน้าฮิต ซื้อ 1 แถม 1 ถาดกลาง ราคา 399 บาท จากราคาปกติ 798 บาท ยิงยาวถึง 21 ตุลาคมนี้ตามด้วยโดมิโน่ พิซซ่า แบรนด์พิซซ่าจานด่วนสัญชาติอเมริกัน บริหารงานโดยบริษัท วาว แฟคเตอร์ จำกัด (มหาชน) ส่งโปรโมชั่นทุกหน้า ทุกถาด ไซซ์ใหญ่ 12 นิ้ว ราคา 199 บาท จากราคาปกติเริ่มต้น 435 บาท เฉพาะวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ยิงยาวตลอดทั้งปี