ไลฟส์มูฟวิ่งบุกจักรยานพับ ทาบขายแบรนด์ดังไต้หวัน

“ไลฟส์ มูฟวิ่ง” มั่นใจดีมานด์จักรยาน “ไฟฟ้า-พับ” เดินหน้าเจรจาแบรนด์ดังจากไต้หวันหวังเป็นตัวแทนนำเข้าจักรยานพับ ชูจุดขายราคาจับต้องง่าย 6 พัน-1.5 หมื่นบาท ด้านจักรยานไฟฟ้าผนึกพันธมิตรขยายบริการหลังการขายทั่วประเทศ พร้อมศึกษาโอกาสรับดีมานด์ลูกค้าองค์กรหลังหลายธุรกิจหันสนใจยานยนต์ไฟฟ้าหวังช่วยลดค่าขนส่ง มั่นใจปีนี้ทะลุ 5,000 คันตามเป้า

นายธานัท ธรรมพรหมกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไลฟส์ มูฟวิ่ง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายจักรยานไฟฟ้าแบรนด์อีเอ็ม (EM) และจักรยานเด็กแบรนด์รอยัลเบบี้ (Royalbaby) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปัจจุบันตลาดจักรยานของไทยแม้จะไม่หวือหวาเท่าหลายปีก่อน แต่ยังมีดีมานด์ในหลายเซ็กเมนต์ทั้งจักรยานไฟฟ้า ซึ่งได้อานิสงส์จากกระแสโปรโมตยานยนต์ไฟฟ้าที่ปรากฏบนสื่อต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง รวมถึงดีมานด์จากกลุ่มครอบครัว โดยเฉพาะกลุ่มพ่อ-แม่วัยกลางคน จากทุกระดับรายได้ ที่ต้องการใช้เดินทางระยะใกล้ ๆ เช่น รับ-ส่งบุตรหลาน ซื้อของกินของใช้ในละแวกบ้าน ไปจนถึงภาคธุรกิจที่ต้องการใช้งานสำหรับการขนส่งสินค้าเพื่อลดต้นทุนด้านพลังงาน

ขณะเดียวกัน จักรยานพับ และจักรยานเด็ก เป็นอีก 2 เซ็กเมนต์ที่มีดีมานด์และโอกาสทำตลาดเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะจักรยานพับตลาดยังมีช่องว่างด้านราคาสินค้า เพราะจักรยานพับระดับแบรนด์เนมที่มีวางขายในตลาดขณะนี้ส่วนใหญ่มีราคาสูงหลายหมื่นบาทจนบริโภคจับต้องได้ยาก สะท้อนจากยอดขายของบริษัทในช่วง 7 เดือนแรกที่เพิ่มขึ้น 30% ทั้งจักรยานไฟฟ้าและจักรยานเด็ก

นายธานัทกล่าวว่า เพื่อรับดีมานด์และต่อยอดการเติบโต บริษัทจึงเตรียมเปิดไลน์อัพจักรยานพับ เพื่อเสริมพอร์ตโฟลิโอสินค้าที่เดิมมีจักรยานไฟฟ้าและจักรยานเด็กอยู่แล้ว ด้วยการนำแบรนด์ “โอยามา” (Oyama) จากประเทศไต้หวัน อายุกว่า 54 ปี มีจุดเด่นด้านนวัตกรรมจักรยานพับหลายประเภททั้งจักรยานไฟฟ้า, จักรยานธรรมดา, จักรยานแม่บ้าน, จักรยานเด็ก และระดับราคาจับต้องได้ ซึ่งที่ผ่านมายังไม่เคยมีบริษัทไทยนำเข้ามาทำตลาดมาก่อน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาคาดว่าจะสามารถเริ่มทำตลาด-วางขายหน้าร้านค้าทั้ง Moving Shop ที่เป็นของบริษัทเอง 3 สาขา และสาขาพันธมิตรใน Homepro และดีลเลอร์ในปีหน้า โดยวางระดับราคาสินค้าที่ประมาณ 6 พัน-1.5 หมื่นบาท

สำหรับจักรยานไฟฟ้าจะเดินหน้าย้ำจุดแข็งด้านการบริการหลังการขาย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อ เพราะสินค้ามีราคาสูงระดับหมื่นบาทขึ้นไป พร้อมรับมือสินค้าจีนที่ทะลักเข้ามาในตลาดอย่างต่อเนื่อง พร้อมด้วยจุดขายด้านราคา แต่มีจุดอ่อนด้านคุณภาพสินค้า และไม่มีบริการหลังการขาย โดยเดินหน้าจับมือกับทีมช่างของโฮมโปร ซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ และมีสาขากระจายทั่วประเทศ มาช่วยขยายพื้นที่ให้บริการหลังการขายให้ครอบคลุมพื้นที่ต่าง ๆ ของประเทศจากปัจจุบันที่มีศูนย์บริการอยู่ใน กทม. และหัวเมืองใหญ่

กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไลฟส์ มูฟวิ่ง กล่าวว่า ขณะเดียวกันเพิ่มความเข้มข้นในการทำตลาดเพื่อรองรับดีมานด์จากลูกค้าองค์กรทั้งผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และรัฐวิสาหกิจที่ต่างต้องการใช้จักรยาน-ยานยนต์ไฟฟ้าในการขนส่งสินค้าเพื่อลดต้นทุนค่าเชื้อเพลิง โดยอยู่ระหว่างเจรจากับเชนค้าส่งแม็คโคร ซึ่งเป็นหนึ่งในช่องทางขายของบริษัทและมีฐานลูกค้าหลักเป็นผู้ประกอบการค้าปลีก-ร้านอาหาร เพื่อนำรถไฟฟ้าสำหรับส่งของเข้าไปวางขาย นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างเจรจากับรัฐวิสาหกิจ และเอกชนหลายรายเพื่อขายสินค้าให้ในแบบ B2B โดยบริษัทเองมีสินค้ารุ่นเฉพาะสำหรับงานด้านนี้อยู่ ซึ่งจะมีระยะทำการไกล และความเร็วสูงกว่ารุ่นทั่วไปจนใกล้เคียงมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า พร้อมอัพเกรดสินค้าทุกรุ่นให้เป็นแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนตามเทรนด์ของตลาด จากปัจจุบันที่ยังใช้แบตเตอรี่ตะกั่วกรดอีก 2 รุ่น โดยจะไม่มีการปรับขึ้นราคาสินค้า แต่จะลดสัดส่วนกำไรลงแทน เช่นเดียวกับรุ่นอื่น ๆ ที่ทยอยปรับไปก่อนหน้านี้ ส่วนจักรยานเด็กเน้นโปรโมตผ่านทางโซเชียลเน็ตเวิร์กชูจุดเด่นด้านสีสันและการรับประกันตัวถังนาน 5 ปี

ไปในทิศทางเดียวกับกลยุทธ์การตลาดที่ใช้งบฯเท่ากับปีที่แล้ว แต่โยกเม็ดเงินไปทางออนไลน์มากขึ้น ทั้งการโพสต์ให้ข้อมูลสินค้า-โปรโมชั่นบนโซเชียลเน็ตเวิร์ก และการใช้อินฟลูเอนเซอร์ พร้อมเน้นย้ำการรับประกันตัวถัง 5 ปี มอเตอร์ไฟฟ้า 3 ปี แบตเตอรี่-ระบบไฟฟ้า 1 ปี และบริการหลังการขายจากสาขาต่าง ๆ รวมกว่า 80 สาขา

พร้อมโปรโมชั่นกระตุ้นการตัดสินใจ อาทิ ลดราคาจักรยานขาไถ จักรยานเด็ก สกู๊ตเตอร์เด็กสูงสุด 50% เฉพาะสาขาแฟชั่นไอส์แลนด์, พาราไดซ์ พาร์ค, มาร์เก็ตวิลเลจ และสุวรรณภูมิ หลังจากก่อนหน้านี้เข้าร่วมโปรโมชั่น 9 เดือน 9 ของลาซาด้าให้ส่วนลดสูงสุด 47% เป็นต้น มั่นใจว่าการปรับตัวด้านต่าง ๆ เหล่านี้จะช่วยให้บริษัทสามารถมียอดขายถึง 5,000 คัน เพิ่มขึ้นจากยอด 2,000 คันของปี 2562 ตามเป้าที่วางไว้