“ศรีจันทร์” แตกแบรนด์ใหม่ เริ่ม 39 บาทดึงกำลังซื้อวัยรุ่น

เครื่องสำอางวัยรุ่นโตแรง “ศรีจันทร์” แตกแบรนด์ “ศศิ” รับเด็กรุ่นใหม่ต้องสวยเป๊ะก่อนลงโซเชียล ระดมทุกแคทิกอรี่ ตา คิ้ว แก้ม ปาก เริ่มต้นเบา ๆ 39 บาท ก่อนจับมือดีไซเนอร์ดังอาซาว่า เข็นลิมิเต็ดคอลเล็กชั่นเขย่าตลาดปลายปี พร้อมแตกไลน์สินค้ากลุ่มผู้ชายเพิ่ม คาดสิ้นปีโกยยอดขาย 500 ล้าน

นายรวิศ หาญอุตสาหะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีจันทร์สหโอสถ จำกัด กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ตลาดเครื่องสำอางในภาพรวมยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันกลุ่มที่มีการเติบโตเร็วที่สุด คือกลุ่มเครื่องสำอางสำหรับวัยรุ่น นักเรียน นักศึกษา เนื่องจากกระแสของโซเชียลมีเดียได้กระตุ้นให้คนต้องดูดีตลอดเวลา เพื่อถ่ายรูปลงในช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ เช่น เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ฯลฯ แม้ในกลุ่มดังกล่าวมีกฎของโรงเรียนห้ามแต่งหน้า เด็กก็ยังคงหาวิธีแต่งแบบไม่ให้อาจารย์รู้ว่าแต่ง และเด็กยุคใหม่เองก็มีความรู้เรื่องการใช้เครื่องสำอางเป็นอย่างดี เช่น การลงไพรมเมอร์เพื่อเตรียมผิวก่อนแต่งหน้า การใช้แป้งปรับสีผิว เป็นต้น

เพื่อรับกับโอกาสดังกล่าวบริษัทจึงได้แตกแบรนด์ใหม่ “ศศิ” เพื่อขยายฐานเด็กวัยรุ่นโดยเฉพาะ โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 39 บาท ไปจนถึง 100 บาท อาทิ แป้ง ที่เขียนคิ้ว ลิป อายแชโดว์ ครีมกันแดด ฯลฯ โดยใช้ช่องทางร่วมกับแบรนด์ศรีจันทร์ และช่องทางออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ www.srichand.com ซึ่งจะวางจำหน่ายครบทั้งคอลเล็กชั่นภายในเดือนพฤศจิกายนนี้

“เรายังคงคุณภาพของสินค้าเอาไว้ แต่มาปรับลดต้นทุนในเรื่องแพ็กเกจจิ้งลง และทำไซซ์ให้เหมาะสมกับการพกพา เพื่อให้ราคาไม่เกิน 100 บาทต่อชิ้น สอดคล้องกับกำลังซื้อของกลุ่มเป้าหมาย ส่วนการทำตลาดนอกจากออนไลน์ก็จะเน้นการเข้าไปทำกิจกรรมโรดโชว์ในโรงเรียน หรือมหาวิทยาลัย เพื่อให้กลุ่มดังกล่าวได้สัมผัสกับสินค้า เกิดการทดลองใช้ และรับรู้ในตัวแบรนด์”

นอกจากนี้ ในส่วนของแบรนด์ศรีจันทร์ยังเตรียมออกคอลเล็กชั่นพิเศษ เพื่อสร้างสีสันและกระตุ้นตลาดในช่วงปลายปี โดยจับมือกับอาซาว่าแบรนด์ดีไซเนอร์ไทย มาร่วมออกแบบและพัฒนาสินค้า Srichand X Asava “คัลเลอร์ ออฟ ไทยแลนด์ ลิมิเต็ดอิดิชั่น” อาทิ บรัชออน อายแชโดว์ ฯลฯ

ส่วนซับแบรนด์ศรีจันทร์ฟอร์เมน เครื่องสำอางสำหรับผู้ชายที่แตกไลน์มาทำเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ปัจจุบันมีสินค้า 1 รายการ คือ แป้งควบคุมความมัน เร็ว ๆ นี้เตรียมที่จะเพิ่มสินค้าชนิดอื่นเข้ามา โดยโฟกัสไปที่กลุ่ม Men”s Grooming เช่น แว็กซ์ตกแต่งทรงผม และเจลสำหรับโกนหนวด เพื่อรับกับช่องว่างของตลาดที่ยังมีผู้เล่นจำนวนน้อย และพฤติกรรมของผู้ชายยุคใหม่หันมาใส่ใจดูแลตัวเองกันมากขึ้น

สำหรับภาพรวมของบริษัทในปีนี้คาดว่าจะมียอดขายไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท เติบโตจากปีที่แล้วที่มียอดขายอยู่ที่ 300 ล้านบาท