เจ้าสัวทีโอเอ เขย่าตลาดนม ซื้อฮอกไกโดมิลค์ ปูพรมแฟรนไชส์

“TOA” ทุ่มซื้อกิจการฮอกไกโดมิลก์ เปิดเกมรุก พัฒนาโปรดักต์นม ชูจุดขายความสด อร่อย เจาะตลาดพรีเมี่ยม เตรียมเติมพอร์ตเครื่องดื่มเฮลตี้โปรดักต์ เกาะเทรนด์สุขภาพ ประกาศปีหน้าเตรียมขายแฟรนไชส์ ปูพรมสถานีบริการน้ำมัน ปตท.-โรงพยาบาล เน้นกรุงเทพฯหัวเมืองหลักต่างจังหวัด พร้อมกระจายสินค้ารุกซูเปอร์มาร์เก็ตพรีเมี่ยม เพิ่มน้ำหนักดีลิเวอรี่ เร่งทำการตลาดออนไลน์ ออฟไลน์ ปลุกตลาดใหม่

นอกจากตระกูลตั้งคารวคุณ เจ้าของสีทีโอเอจะรุกธุรกิจร้านสะดวกซื้อแล้ว ในปีที่ผ่านมายังได้เข้าไปร่วมทุนเปิดร้านค้าปลีกรูปแบบดิสเคานต์สโตร์สัญชาติญี่ปุ่น ดอง กิโฮเต้ และล่าสุดได้ซุ่มเข้ามาลงทุนในตลาดเครื่องดื่มนม ฮอกไกโดมิลค์ พร้อมลุยสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น

“ทีโอเอ” บุกตลาดนม

นางสาวกัญญ์วรา กิรติเสวี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เชอร์วู้ด คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทในเครือทีโอเอเพนท์ ผู้บริหารผลิตภัณฑ์นมพร้อมดื่ม อาหารและเครื่องดื่ม ภายใต้แบรนด์ “ฮอกไกโด” ที่ผลิตและจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ก่อนหน้านี้ ฮอกไกโดดำเนินธุรกิจในรูปแบบของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ในนามบริษัท ฮอกไกโด โมริโมโตะ จำกัด แต่เมื่อช่วงเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา บริษัท เชอร์วู้ด คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เคหะภัณฑ์ที่ใช้ในบ้านเรือน บริษัทที่อยู่ในเครือ บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เข้ามาซื้อกิจการ และจัดตั้งเป็นชื่อบริษัท ฮอกไกโด ฟู้ด แอนด์ เบฟเวอเรจ จำกัด และบริษัท ฮอกไกโด อินเตอร์เนชั่นแนล แฟรนไชส์ จำกัด

“การเข้าซื้อกิจการดังกล่าว เนื่องจากประธาน ทีโอเอ (ประจักษ์ ตั้งคารวคุณ) มีความสนใจลงทุนเกี่ยวกับธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม และมองเห็นศักยภาพของแบรนด์ฮอกไกโดมิลค์ และมีเป้าหมายสร้างการเติบโตด้วยการขยายสาขาให้ครอบคลุมมากขึ้น รวมทั้งได้มีการปรับนโยบายการทำงาน ด้วยการนำความเชี่ยวชาญการทำตลาดของบริษัทแม่เข้ามาปรับใช้ ทั้งช่องทางขาย และการทำตลาด” นางสาวกัญญ์วรากล่าว

รวมทั้งได้มีการพัฒนาและเพิ่มโปรดักต์ใหม่ ๆ เข้ามาจำหน่ายมากขึ้น จากเดิมที่ฮอกไกโด มีเฉพาะนมพาสเจอไรซ์ พร้อมดื่ม และนมอัดเม็ด แต่ปัจจุบันก็มีโปรดักต์ที่หลากหลายมากขึ้น อาทิ โยเกิร์ต ไอศกรีม เมนูชงอะลาคาร์ต เป็นต้น

เปิดเกมรุกขายแฟรนไชส์

นางสาวกัญญ์วรากล่าวต่อไปว่า สำหรับยุทธศาสตร์และและทิศทางการดำเนินงานในช่วงจากนี้ไปจะเดินหน้าขยายสาขาในรูปแบบแฟรนไชส์ เบื้องต้นตั้งเป้าหมายไว้ 100 สาขา จะเป็นร้านไซซ์เล็กที่ลงทุนไม่สูง ด้วยการเปิดโอกาสให้สำหรับผู้ที่อยากลงทุนสร้างอาชีพ ทั้งที่มีพื้นที่มาเองและไม่มีพื้นที่ ซึ่งขณะนี้ได้มีการวางแผนและเตรียมการทั้งระบบการให้บริการหน้าร้านและระบบหลังบ้าน อุปกรณ์ และการอบรมการขาย เพื่อควบคุมคุณภาพและมาตรฐานของร้านให้เป็นในทางเดียวกัน โดยจะเริ่มขายในปี 2564 เน้นเปิดในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดที่เป็นหัวเมืองหลัก ๆ และต่อไปอาจจะมีการลงทุนสร้างจุดกระจายสินค้าในต่างจังหวัด เพื่อรองรับการเปิดสาขาที่มากขึ้นในต่างจังหวัด

ขณะเดียวกันก็จะมุ่งเพิ่มไลน์โปรดักต์ให้มากขึ้น โดยจะโฟกัสไปที่นมสดฮอกไกโด นมพาสเจอไรซ์ ที่ผลิตจากโนว์ฮาวญี่ปุ่น ใช้อุณหภูมิรักษาคุณภาพของนมและรสชาติ ซึ่งได้วัตถุดิบนมมาจากฟาร์มในเมืองไทย และในอนาคตมีนโยบายจะพัฒนาเพื่อต่อยอดไปยังกลุ่มเฮลตี้โปรดักต์ และอีกกลุ่มหนึ่งที่ไปได้คือเทรนด์สุขภาพที่ไม่ใช่น้ำตาลสูง

ตอนนี้มีทีม R&D ที่กำลังพัฒนาสินค้าใหม่ ๆ ตามช่วงเทศกาลการขาย ก็จะทำให้ยอดขายดีขึ้น และให้ลูกค้ามีวาไรตี้และสีสันมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม สำหรับช่วงเวลาที่เหลืออยู่อีก 2 เดือนก็จะสิ้นปี เบื้องต้นบริษัทจะเดินหน้าลงทุนเปิดร้านนมฮอกไกโดมิลค์ต่อเนื่อง เช่น ล่าสุดได้เปิดสาขาที่วีพลาซ่าโรงพยาบาลวิภาวดี และเร็ว ๆ นี้ เตรียมเปิดที่สถานีบริการน้ำมัน ปตท.บางนา ปัจจุบันมีสาขารวมประมาณ 17 สาขา รวมถึงสาขาที่เป็นคีออสก์ ในลักษณะของตู้ใส่เครื่องดื่มนม จำหน่ายเฉพาะซื้อกลับบ้าน เน้นเปิดในศูนย์การค้าซูเปอร์มาร์เก็ต ส่วนอีกหนึ่งโมเดล คือ การเปิดร้านสแตนด์อะโลน และมีโปรดักต์หลากหลายกลุ่ม ได้แก่ นมสด ไอศกรีม โยเกิร์ต นมอัดเม็ด และมีเมนูชงอะลาคาร์ต มีที่นั่งตั้งแต่ 5-12 ที่นั่ง เน้นเปิดในสถานีบริการน้ำมัน ปตท.และโรงพยาบาลเป็นหลัก

เล็งลงนมยูเอชทีเจาะตลาดแมส

นางสาวกัญญ์วราระบุว่า ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ฮอกไกโดไม่ได้มีการขยายสาขาเพิ่มมากนัก เนื่องจากมีเรื่องของโควิด-19 เกิดขึ้น และทำให้จุดขายที่มีอยู่ในศูนย์การค้าได้รับผลกระทบอย่างหนัก และต้องปรับตัว ด้วยการเพิ่มช่องทางขายดีลิเวอรี่ที่เป็นการร่วมกับแพลตฟอร์มต่าง ๆ เข้ามาเสริม แต่ก็ยังเป็นสัดส่วนที่ไม่มากนักเมื่อเทียบกับการขายหน้าร้านปกติ ส่วนร้านหรือสาขาที่เปิดในปั๊มน้ำมัน โรงพยาบาล ตัวเลขออกมาค่อนข้างดี จึงมองว่าจากนี้ไปจึงจะมุ่งสร้างการเติบโตด้วยโมเดลนี้ และอีกโจทย์ที่สำคัญ ในตลาดนมพร้อมดื่ม คือ จะทำอย่างไรให้คอนซูเมอร์สนใจและตัดสินใจซื้อ ดังนั้น เป้าหมายของบริษัทจึงไม่ได้อยู่แค่นมพาสเจอไรซ์ สเต็ปถัดไปอาจจะเข้าไปอยู่ในตลาดนมยูเอชที เจาะเข้าไปในตลาดแมส

ปัจจุบันภาพรวมตลาดนมพาสเจอไรซ์มีแนวโน้มเติบโตขึ้น ซึ่งมีมูลค่าอยู่ราว ๆ 8,000 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ นมกล่อง นมขวด และนมถุง ส่วนตลาดนมยูเอชทีอาจจะลดลงเล็กน้อย เนื่องจากผู้ประกอบการทั้งรายเล็ก-รายใหญ่ ในตลาดนมพาสเจอไรซ์มีการเคลื่อนไหวในตลาดมากขึ้น ทั้งการลอนช์โปรดักต์ใหม่ที่หลากหลาย โดยเฉพาะนมทางเลือกเพื่อสุขภาพ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคให้ครบทุกเซ็กเมนต์ เช่นเดียวกับนมฮอกไกโด ปัจจุบันมีฐานลูกค้าประจำ โดยเฉพาะวัยเด็กและวัยรุ่น มีจุดขายนมพาสเจอไรซ์ ชูความสด อร่อย เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมี่ยม

“ครึ่งปีแรก ฮอกไกโดมียอดขายเติบโตเล็กน้อย ประมาณ 2-3 % ซึ่งได้รับผลกระทบหนักในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่เมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลายยอดขายเริ่มกลับมาดีขึ้น เพราะนมยังเป็นสินค้าที่มีฐานลูกค้าที่ดื่มประจำ”

เพิ่มโปรดักต์-เพิ่มช่องทางขาย

นางสาวกัญญ์วรากล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมขยายธุรกิจด้วยการนำนมสดฮอกไกโดเข้าไปวางขายในซูเปอร์มาร์เก็ตพรีเมี่ยม เช่น ยูเอฟเอ็ม ฟูจิ, วิลล่า มาร์เก็ต และแม็กซ์ แวลู โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการติดต่อและคาดว่าปีหน้าจะเริ่มวางขายได้ และนอกจากกลุ่มสินค้านม แล้วยังมองว่าจากนี้อาจจะพัฒนาต่อยอดไปยังกลุ่มเฮลตี้โปรดักต์ และอีกกลุ่มหนึ่งที่ไปได้คือเทรนด์สุขภาพที่ไม่ใช่น้ำตาลสูง

ตอนนี้มีทีม R&D ที่กำลังพัฒนาสินค้าใหม่ ๆ ตามช่วงเทศกาลการขาย ก็จะทำให้ยอดขายดีขึ้น และให้ลูกค้ามีวาไรตี้และสีสันมากขึ้น

ด้านการทำตลาด ปัจจุบันได้จัดแคมเปญและโปรโมชั่น สื่อสารแบรนด์ผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหลัก ซึ่งในปีหน้าหลังจากขยายสาขาเพิ่มขึ้น จะเพิ่มน้ำหนักในการทำตลาด ทั้งสื่อออนไลน์และออฟไลน์ทุกช่องทาง เพื่อกระจายการเข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้าง จุดสำคัญของการแข่งขันในตลาดนมยังเป็นเรื่องของการกระจายสินค้า การโฆษณายํ้าให้ผู้บริโภครู้จักและจดจำยี่ห้อ รวมทั้งการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อตัวสินค้า

อีกทั้งในช่วงเทศกาลขายที่ตรงกับช่วงไฮซีซั่นของประเทศญี่ปุ่น จะมีการลอนช์ นมรสชาติแอปเปิลฟูจิ และซากุระ เป็นตัวชูโรงในการขายตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ล่าสุดได้เปิดตัวนมไวตาบีน เข้ามาสร้างโอกาสขายในเทศกาลกินเจ ราคาขวดละ 28 บาท มีโปรโมชั่น 4 ขวด 100 บาท เพื่อรองรับผู้บริโภคที่กินเจและกลุ่มที่ชื่นชอบนมถั่วเหลือง