ค่ายทีวีปรับแผน หลังต้นทุนพาแนล “แอลซีดี-แอลอีดีทีวี” พุ่ง 10-15% คาดเริ่มมีผล พ.ย.-ธ.ค.นี้ ผลพวงโควิด-19 ทำโรงงานพาแนลสะดุด สวนทางดีมานด์โน้ตบุ๊ก-แท็บเลตพุ่ง ค่ายเกาหลี ญี่ปุ่น จีน กัดฟันสู้ ยอมแบกต้นทุน ประกาศตรึงราคา หันโฟกัสการทำตลาดทีวีจอใหญ่-โอแอลอีดี ที่มีมาร์จิ้นสูงมาชดเชย
ตั้งแต่ไตรมาส 3 ที่ผ่านมา พาแนล หรือหน้าจอ ส่วนประกอบสำคัญของทีวี จอคอมพิวเตอร์-แท็บเลต มีระดับราคาที่ปรับตัวสูงขึ้น 10-15% จากดีมานด์อุปกรณ์ที่มีหน้าจอทั้งคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก แท็บเลต และทีวีพุ่งสูงขึ้น หลังผู้คนทั่วโลกหาซื้อเพื่อใช้ทำงาน-เรียนจากบ้านรวมถึงเพื่อความบันเทิงระหว่างล็อกดาวน์ สวนทางกับการผลิตที่ลดลง โดยเฉพาะซัมซุง-แอลจีที่ประกาศลดกำลังผลิตหน้าจอแอลซีดีของตนลง และเตรียมปิดสายการผลิตในสิ้นปี 2563 นี้ อย่างไรก็ตาม แม้ต้นทุนจะสูงขึ้น แต่ด้วยสภาพตลาดรวมของทีวีที่ราคาสินค้าปรับลดลงต่อเนื่องมาตลอด บีบให้ค่ายทีวีต้องเร่งหาทางบริหารจัดการต้นทุนเพื่อตรึงราคาสินค้าเอาไว้
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- กีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เสียชีวิต อายุ 56 ปี
แหล่งข่าวระดับสูงจากวงการเครื่องใช้ไฟฟ้าเปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ราคาหน้าจอแอลซีดีที่พุ่งสูงขึ้นนี้ เป็นผลจากผู้ผลิตหน้าจอแอลซีดีสัญชาติเกาหลี ทั้งซัมซุง ดิสเพลย์ และแอลจี ดิสเพลย์ ต่างลดกำลังผลิตและเตรียมปิดสายการผลิตหน้าจอแอลซีดีทั้งหมดหรือบางส่วนลงในปีนี้ เนื่องจากตลอดหลายปีที่ผ่านมา ตลาดมีการแข่งขันเรื่องราคาสูง โดยเฉพาะกับผู้ผลิตสัญชาติจีน ทำให้ราคาตกลงต่อเนื่องจนไม่คุ้มค่าในการผลิต แต่การระบาดของโควิด-19 ในปีนี้ ทำให้โรงงานในจีนหลายแห่งหยุดการผลิต
ขณะที่การทำงาน-เรียนจากบ้าน ทำให้ดีมานด์การใช้งานอุปกรณ์ที่มีหน้าจอแอลซีดีพุ่งสูงขึ้น ทั้งคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก แท็บเลต และทีวี จึงเกิดภาวะพาแนลขาดแคลน และราคาพุ่งสูงขึ้นตั้งแต่ช่วงกลางปีเป็นต้นมา
ไฮเซ่นส์ฯลุยพรีเมี่ยม-มาร์จิ้นสูง
นายฉันท์ชาย พันธุฟัก ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ไฮเซ่นส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายทีวีแบรนด์ไฮเซ่นส์ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่าปัจจุบันราคาพาแนล หรือหน้าจอ ปรับตัวสูงขึ้นประมาณ 10-15% เป็นผลจากดีมานด์ที่สูงขึ้นทั่วโลก โดยผลของต้นทุนที่สูงขึ้นนี้จะเริ่มส่งผลกับราคาขายของแอลซีดี-แอลอีดีทีวี ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคมนี้ ที่สินค้าลอตใหม่จะเริ่มทยอยออกสู่ตลาด ส่วนราคาจะขยับมากน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับการเตรียมรับของแต่ละรายและสภาพการแข่งขันในตลาด
จากแนวโน้มดังกล่าว นอกจากบริษัทจะโฟกัสการทำตลาดสินค้าระดับพรีเมี่ยมซึ่งมีมาร์จิ้นสูงแล้ว ขณะเดียวกันก็จะรักษาระดับราคาสินค้าระดับแมสเอาไว้ โดยเปิดตัวและวางจำหน่ายทีวีรุ่นพรีเมี่ยมเพิ่มอีก 1 ซีรีส์ ขนาด 75-85 นิ้ว จากเดิมที่มีเพียง 1 ซีรีส์ รวมถึงระดมโปรโมตผ่านทางออนไลน์ โดยเฉพาะการใช้อินฟลูเอ็นเซอร์ และรีวิวเวอร์เพื่อสร้างการรับรู้และสร้างความเชื่อมั่น
“ช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ทีวีไซซ์เล็กขนาด 32-42 นิ้ว ราคาต่ำกว่า 4 พันบาทมียอดขายสูงขึ้น 20-30% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจทำให้ผู้บริโภคสนใจสินค้าราคาจับต้องง่ายมากขึ้น”
แอลจีกัดฟันตรึงราคา
นายอำนาจ สิงหจันทร์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายผลิตภัณฑ์หมวดภาพและเสียงเครื่องปรับอากาศและเครื่องฟอกอากาศบริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวในเรื่องนี้ว่า ขณะนี้แม้ว่าราคาพาแนลจะทำให้ต้นทุนการผลิตทีวีสูงขึ้น แต่เนื่องจากสภาพตลาดทีวี ซึ่งราคาสินค้ามีแนวโน้มปรับตัวลงต่อเนื่อง ประกอบกับผู้บริโภคมักจะจดจำราคาสินค้าได้
ดังนั้นการปรับขึ้นราคา นอกจากจะสวนกับแนวโน้มตลาดแล้ว ผู้บริโภคก็จะรับรู้ได้ทันที จึงยากที่จะทำตลาดเพื่อจูงใจ ด้วยเหตุนี้ บริษัทจึงจะพยายามคงราคาแอลซีดีและแอลอีดีทีวีเอาไว้ในระดับเดิม ขณะเดียวกันก็จะเน้นการทำตลาดแอลซีดี-แอลอีดีทีวี ขนาดใหญ่ตั้งแต่ 70 นิ้วขึ้นไปมากขึ้น ตามเทรนด์ปัจจุบันของผู้บริโภคที่นิยมซื้อทีวีขนาด 55 นิ้วขึ้นไปเป็นหลัก
พร้อมกับผลักดันโอแอลอีดีทีวีซึ่งราคามีแนวโน้มลดลง เนื่องจากการผลิตมีอีโคโนมีออฟสเกลดีขึ้น ทำให้ต้นทุนต่อหน่วยลดลง ช่วยให้ราคาสินค้าลดลงมาประมาณ 10-15% โดยได้เปิดตัวโอแอลอีดีทีวีรุ่นใหม่ขนาด 48 นิ้ว ราคา 4.99 หมื่นบาทซึ่งเป็นรุ่นเล็กที่สุดที่บริษัทเคยนำออกมาทำตลาด พร้อมโปรโมชั่นแถมหูฟังเมื่อสั่งซื้อล่วงหน้า และจะมีโปรโมชั่นออกมากระตุ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น แคมเปญวันที่ 11 เดือน 11 ที่จะเข้มข้นกว่าครั้งก่อน ๆ ด้าน “พานาโซนิค” แม้จะไม่ระบุชัดเจนว่าจะมีการปรับราคาสินค้าหรือไม่
นางสาวเพกา มังกรไชยา ผู้จัดการฝ่ายการตลาด กลุ่มผลิตภัณฑ์ภาพและเสียง บริษัท พานาโซนิค ซิว เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวในเรื่องนี้ว่า กลยุทธ์ของพานาโซนิคจากนี้ไปจะเน้นการชูคุณภาพของสินค้า และราคาที่สมเหตุสมผลเป็นหลัก เพื่อสร้างแรงจูงใจผู้บริโภคด้วยความคุ้มค่า พร้อมเตรียมจัดโปรโมชั่นพิเศษในช่วงสิ้นปี อาทิ ผ่อน 0% สูงสุดนาน 24 เดือน และแพ็กเกจชมการแข่งขันฟุตบอลฟรีผ่าน True ID เมื่อซื้อทีวี เป็นต้น
