เจ้าตลาด LED เปลี่ยนมือ! จีนไล่ซื้อโรงงานเกาหลีเพิ่มกำลังผลิต

เจ้าตลาด LED เปลี่ยนมือ !

ปัจจุบันดูเหมือนว่าอุตสาหกรรมผลิตหน้าจอแอลซีดีกำลังตกอยู่ในสภาพ “ใกล้อิ่มตัว” เข้ามาทุกที

เนื่องจากการแข่งขันราคาที่ดุเดือดจากบรรดาผู้ผลิตจำนวนมาก และทำให้สัดส่วนกำไรลดลงจนบางเฉียบ ส่งผลให้ผู้ผลิตพากันถอยออกจากตลาดทั้งซัมซุงและแอลจี ผู้ผลิตรายใหญ่สัญชาติเกาหลี และหันไปโฟกัสหน้าจอโอแอลอีดีแทน ขณะที่ผู้ผลิตสัญชาติจีนก็เริ่มประกาศขายโรงงานของตนเองเช่นกัน

แต่ยังมีผู้ผลิตหลายรายตัดสินใจสวนกระแส อาศัยโอกาสนี้เดินสายกว้านซื้อโรงงานคู่แข่งที่กำลังถอนตัวเพื่อเพิ่มกำลังผลิตแบบเร่งด่วนโดยไม่ต้องเสียเวลาลงทุนสร้างโรงงานใหม่ หวังชิงตำแหน่งผู้เล่นอันดับ 1 ของอุตสาหกรรม

สำนักข่าวนิกเคอิ เอเชียรายงานถึงปรากฏการณ์นี้ว่า ขณะนี้ผู้ผลิตจอแอลซีดีสัญชาติจีนอย่างน้อย 2 ราย พยายามชิงตำแหน่งเจ้าตลาดด้วยการไล่ซื้อโรงงานของคู่แข่ง หนึ่งในนั้น คือ “บีโออี เทคโนโลยี กรุ๊ป” บริษัทเทคโนโลยีสัญชาติจีนที่เดินหน้าทุ่มเงินซื้อโรงงานผลิตหน้าจอแอลซีดีหลายแห่ง อาทิ “ไชน่า อิเล็กทรอนิกส์ คอร์ป” ในมูลค่าประมาณ 1.18 หมื่นล้านหยวนหรือประมาณ 5.43 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทำให้ได้กำลังผลิตเพิ่มขึ้นทันที 20-30%

โดยบีโออีฯระบุว่า การซื้อกิจการนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการก้าวขึ้นเป็นเบอร์ 1 ของอุตสาหกรรมที่ขณะนี้เป็นของแอลจี ยักษ์อิเล็กทรอนิกส์สัญชาติเกาหลี หลังปีที่แล้วบริษัทสามารถขยับขึ้นมาเป็นเบอร์ 2 ได้สำเร็จ พร้อมย้ำว่าจะสามารถโค่นบัลลังก์เบอร์ 1 ได้ในอีกไม่นานแน่นอน

ไปในทิศทางเดียวกับ “ไชน่า สตาร์ ออปโตอิเล็กทรอนิกส์ เทคโนโลยี” ที่เซ็นสัญญาซื้อหุ้นส่วนใหญ่ของโรงงานผลิตจอแอลซีดีในมณฑลเจียงซูต่อจากซัมซุงที่กำลังถอนตัวจากอุตสาหกรรมนี้ด้วยมูลค่า 1.08 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3.27 หมื่นล้านบาท

“โยชิโอะ ทามูระ” ประธานฝ่ายธุรกิจภาคพื้นเอเชียของดิสเพลย์ ซัพพลายเชน คอนซัลแตนต์กล่าวว่า การถอนตัวของผู้ผลิตสัญชาติเกาหลีในครั้งนี้ ทำให้ผู้ผลิตสัญชาติจีนและไต้หวันได้ประโยชน์ไปเต็ม ๆ

ทั้งนี้ สภาพใกล้อิ่มตัวของอุตสาหกรรมผลิตจอแอลซีดีเป็นผลจากการขยายตัวอย่างรวดเร็วในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ซึ่งดีมานด์หน้าจอแอลซีดีพุ่งสูงไปตามการขยายตัวของตลาดทีวีและมือถือ ในขณะที่รัฐบาลจีนทุ่มให้ทุนสนับสนุนจนเกิดผู้ประกอบการหน้าใหม่จำนวนมากขึ้นมารับดีมานด์ดังกล่าว และเกิดการแข่งขันราคากันเอง

แม้ในปีนี้จะมีผู้เล่นหลายรายระบุว่า ยังมีแผนสร้าง-ขยายโรงงาน ส่วนหนึ่งเป็นความพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นจากผลกระทบของโควิด-19 และคาดว่าโรงงานใหม่เกือบทั้งหมดจะเริ่มเดินเครื่องในปี 2565

และจะส่งผลให้ซัพพลายเพิ่มขึ้นไปอีกจนมีการคาดการณ์ว่าภายในปี 2565 โรงงานในจีนจะเป็นผู้ผลิตจอแอลซีดี 70% ของโลก เพิ่มขึ้น 20% จากปี 2562 และสถานะแหล่งผลิตรายใหญ่นี้มาพร้อมกับการแข่งขันราคาที่ทำให้สัดส่วนกำไรลดลงอย่างมาก

ผู้บริหารบริษัทผลิตจอแอลซีดีรายหนึ่งระบุว่า ด้วยสภาพปัจจุบันตลาดนี้ไม่มีช่องว่างเหลือให้แข่งขันแล้วแม้แต่ด้านราคา

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เชื่อว่าปัญหากำลังผลิตลดลงจากการระบาดของโรคโควิด-19 ในปีนี้น่าจะช่วยพยุงราคาของจอแอลซีดีไปได้อีกระยะหนึ่ง สอดคล้องกับความเห็นของแหล่งข่าวในวงการทีวี ซึ่งกล่าวว่าราคาจอแอลอีดีช่วงปลายปี 2563 นี้เพิ่มสูงขึ้น 10-15% เนื่องจากโรงงานหลายแห่งในแดนมังกรกลับมาเดินสายการผลิตไม่ทันกับดีมานด์

ทั้งนี้ อุตสาหกรรมจอโอแอลอีดีอาจไม่ปลอดภัยในการแข่งขันไปได้นานนัก เนื่องจากช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาผู้ผลิตสัญชาติจีนหลายรายเริ่มเรียกร้องให้รัฐบาลหันมาสนับสนุนการผลิตจอชนิดนี้ด้วยเช่นกัน