“ตลาดเบียร์” เดือดส่งท้ายปี! “ช้าง” เตะสกัด “ลีโอNo.8”

เบียร์

ตลาดเบียร์คึกคักรับหน้าขายปลายปี ผลพวงคนคลายกังวลโควิด-19 มีวันหยุดยาวหนุนจับจ่าย-ท่องเที่ยวฟื้นตัว 2 ค่ายใหญ่ ระเบิดศึก หวังโกยยอดโค้งท้าย “ช้าง” เปิดเกมบล็อกตลาดน้องใหม่ “ลีโอ นับเบอร์ 8” ไทยเบฟฯซุ่มส่งเบียร์รสกาแฟปลุกตลาดระลอกใหม่ กรมสรรพสามิตเปิดรายได้ภาษีเบียร์เด้งกลับ 10 เดือนปีงบประมาณติดลบจิ๊บ ๆ ผู้ประกอบการคาดสิ้นปีตลาดรวมโตสวนกระแส-ทุกค่ายกำไรขยับ ผลพวงการแห่รัดเข็มขัด-แตะเบรกทุ่มงบฯ

แม้ว่าผลพวงจากมาตรการล็อกดาวน์เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 จะทำให้ตลาดเบียร์ที่มีมูลค่าตลาดรวมนับแสนล้านบาท ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากมาระยะหนึ่ง แต่หลังจากทางการได้ปลดล็อกและอนุญาตให้ลูกค้าสามารถนั่งดื่มในร้านอาหาร สวนอาหาร ภัตตาคาร ได้ตั้งแต่ช่วงกลางปีที่ผ่านมา ตลาดเบียร์โดยรวมเริ่มค่อย ๆ ฟื้นตัวขึ้นมา ล่าสุด เมื่อเข้าสู่โค้งท้ายปลายปีที่เป็นหน้าขายสำคัญ ตลาดก็มีความคึกคักมากขึ้น และคาดว่าปีนี้ภาพรวมของตลาดอาจจะเติบโตสวนทางกับหลาย ๆ ธุรกิจ

เบียร์โค้งท้ายคึกคัก

แหล่งข่าวระดับสูงจากบริษัท สิงห์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่าย เบียร์สิงห์ เบียร์ลีโอ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ขณะนี้ตลาดเบียร์ในภาพรวมมีทิศทางที่ดีขึ้น โดยเฉพาะในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี ตลาดมีความคึกคักมากขึ้น ซึ่งเป็นการค่อย ๆ ฟื้นตัวขึ้นจากช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคมที่ผ่านมา ที่ทางการประกาศล็อกดาวน์และมีคำสั่งปิดสถานบันเทิงกลางคืน ร้านอาหาร ผับ บาร์ โดยปัจจัยหลัก ๆ มาจาก 2 ประเด็นใหญ่ ๆ คือ ผู้บริโภคเริ่มคลายกังวลในเรื่องโควิด-19 มากขึ้น และกลับมาดำเนินชีวิตและใช้จ่ายตามปกติ รวมถึงการที่รัฐบาลได้ประกาศให้มีวันหยุดยาว-โครงการคนละครึ่ง เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายและการท่องที่ยว

ตลอดปีนี้แม้การเติบโตในภาพรวมของตลาดอาจจะอยู่ในลักษณะที่ทรง ๆ ตัว หรือในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ ตลาดเบียร์อาจจะดีดกลับขึ้นมาเป็นบวกได้เล็กน้อย อาจจะสักราว ๆ 1% แต่เชื่อว่าทุกค่ายจะมีผลกำไรที่มากขึ้น เมื่อเทียบกับตลาดในภาวะปกติที่ผ่าน ๆ ซึ่งทุกค่ายจะมีการใช้งบประมาณทางการตลาดค่อนข้างมาก แต่ปีนี้หลังจากมีโควิด-19 เกิดขึ้น ทุกค่ายได้หันมาให้ความสำคัญกับเรื่องของการลดค่าใช้จ่าย ลดงบฯทางการตลาดลง เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 20-30% ทุกค่าย ดังนั้น แม้ยอดขายจะทรงตัวหรือเติบโตเพียงเล็กน้อย แต่ในแง่มาร์จิ้นก็น่าจะออกมาดีและเป็นที่น่าพอใจ

Advertisement

ขณะที่แหล่งข่าวจากวงการเบียร์อีกรายหนึ่งแสดงความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า ปัจจุบันตลาดเบียร์นี้มีทิศทางที่ดีขึ้น และคาดว่าสิ้นปีนี้ตลาดเบียร์ในภาพรวมจะเติบโตขึ้นเล็กน้อย ซึ่งอาจจะสวนทางกับหลาย ๆ ธุรกิจที่ยังค่อนข้างเหนื่อย สะท้อนจากตัวเลขการจัดเก็บภาษีของกรมสรรพสามิตที่มีทิศทางที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากตัวเลขเริ่มลดลงในเดือนเมษายน และลดลงมากในช่วงเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน จากนั้นในช่วงเดือนกรกฎาคมเป็นต้นมาตัวเลขก็ดีดกลับขึ้นทุกเดือน

สิงห์-ช้าง เปิดศึกส่งท้ายปี

แหล่งข่าวระดับสูงจากบริษัทเบียร์รายหนึ่งเปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า จากบรรยากาศในภาพรวมของตลาดเบียร์ที่ฟื้นตัวดีขึ้นดังกล่าว ส่งผลให้ตลาดมีการแข่งขันสูงขึ้นตามไปด้วย โดยเฉพาะการแข่งขันของ 2 ค่ายใหญ่ สิงห์ (บุญรอดบริวเวอรี่) และ ช้าง (ไทยเบฟเวอเรจ) ที่หลัก ๆ จะเน้นไปที่การจัดคอนเสิร์ต ที่ตระเวนไปตามต่างจังหวัด โดยเฉพาะช่วงเดือนธันวาคมที่จะมีการจัดงานค่อนข้างถี่ และที่สำคัญคือการที่ค่ายสิงห์ได้ลอนช์เบียร์ตัวใหม่ คือ ลีโอ นัมเบอร์ 8 เข้าสู่ตลาด ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และขณะนี้เริ่มกระจายสินค้าเข้าสู่ช่องทางจำหน่ายต่าง ๆ ส่งผลทำให้ตลาดมีการแข่งขันที่สูงขึ้น โดยเฉพาะช่องทางที่เป็นสถาoบันเทิงกลางคืนผับบาร์ หรือออนพรีมิส

“ตอนนี้ค่ายช้างพยายามจะบล็อกตลาดลีโอ นัมเบอร์ 8 ด้วยการเสนอผลตอบแทนให้กับสถานบันเทิงกลางคืน ผับ บาร์ ในกรณีที่ช่องทางนั้น ๆ ไม่นำเบียร์ตัวใหม่เข้าขายในช่วงหน้าขายระยะสั้นนี้ หรือช่วง 1-2 เดือนนี้ โดยจะตอบแทนทั้งในรูปของสินค้าหรือนำคอนเสิร์ตไปลงให้ ซึ่งความเคลื่อนไหวนี้จะมีเห็นในพื้นที่ภาคเหนือค่อนข้างมาก และที่ต้องสกัดด้วยวิธีนี้ก็เพราะช้างไม่มีเบียร์ตัวใหม่เข้ามาทำตลาดในช่วงหน้าขายสำคัญ”

ช้างซุ่มส่งเบียร์รสกาแฟลุย

แหล่งข่าวรายนี้ยังกล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาไทยเบฟฯได้มีการศึกษาและวิจัยเพื่อจะผลิตเบียร์ตัวใหม่เข้ามาทำตลาดเช่นกัน หนึ่งในนั้นก็อาจจะเป็นเบียร์รสกาแฟ ซึ่งที่ผ่านมาในต่างประเทศก็มีการผลิตออกมาทำตลาดบ้างแล้ว เช่น ญี่ปุ่น และคาดว่าหากไม่ติดขัดอะไรเบียร์กาแฟของค่ายไทยเบฟฯก็จะช่วยสร้างสีสันและปลุกตลาดเบียร์ได้เป็นอย่างดี อย่างน้อยไทยเบฟฯก็มีฐานการผลิตและมีการทำการตลาดในหลายประเทศ โดยเฉพาะในอาเซียนที่เป็นตลาดใหญ่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสำรวจพบว่าขณะนี้ค่ายสิงห์ได้ส่งเบียร์ลีโอ นัมเบอร์ 8 เข้าสู่ช่องทางจำหน่ายค่อนข้างคอบคลุม ทั้งยี่ปั๊วซาปั๊ว ค้าปลีกรายใหญ่ ร้านสะดวกซื้อ และร้านค้าปลีกทั่ว ๆ ไป พร้อมกันนี้ยังได้เริ่มติดป้ายไวนิลที่มีข้อความว่า No.8 หมายเลขของคนเข้ม เป็นต้น และร้านค้าหลาย ๆ แห่ง บอกว่าเพิ่งนำมาจำหน่าย และลูกค้าส่วนใหญ่ยังไม่รู้ว่ามีเบียร์ใหม่จำหน่าย ส่วนหนึ่งเนื่องจากบริษัทแม่ยังไม่ได้มีการทำการตลาดและไม่ได้มีการประชาสัมพันธ์มากนัก

อย่างไรก็ตาม นอกจากการเร่งทำตลาดในช่วงโค้งสุดท้ายของ 2 ค่ายใหญ่แล้ว ส่วนค่ายอื่น ๆ ความเคลื่อนไหวไม่มากนัก เช่น ไฮเนเก้น (ไทยเอเชีย แปซิฟิค บริวเวอรี่) ที่มีเพียงการปรับฉลากบนบรรจุภัณฑ์ให้มีขนาดที่ใหญ่และเด่นชัดขึ้น ขณะที่ซานมิเกล ก็นำเอาเบียร์เรดฮอร์สกลับมาทำตลาดใหม่ แต่ก็ไม่ได้มีการทำการตลาด

Advertisement

ภาษีเบียร์เด้งกลับ

รายงานข่าวจากกรมสรรพสามิตเปิดเผยว่า ตัวเลขการเก็บภาษีสรรพสามิตในช่วงเดือนเมษายน หลังจากมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในช่วงปลายเดือนมีนาคม และทางการมีมาตรการล็อกดาวน์ เพื่อลดการแพร่ระบาด กรมสรรพสามิตจัดเก็บภาษีเบียร์ได้ 8,071.19 ล้านบาท ลดลง 13% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา ถัดมาเดือนพฤษภาคม จัดเก็บได้ 1,993.65 ล้านบาท หรือลดลง 99.59% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา และเดือนมิถุนายน จัดเก็บได้เพียง 52.88 ล้านบาท ลดลง 99.20%

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดเริ่มคลี่คลายลง และทางการได้เริ่มประกาศคลายล็อก ส่งผลให้การจัดเก็บภาษีในเดือนกรกฎาคมขยับตัวเพิ่มขึ้น โดยในเดือนกรกฎาคมตัวเลขการจัดเก็บภาษีเบียร์ดีดกลับขึ้นมาเป็น 11,972.77 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 83.94% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา หลังจากที่ร่วงติดต่อกันมา 3 เดือน ส่งผลให้การจัดเก็บภาษี ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2562-กรกฎาคม 2563 หรือ 10 เดือนของปีงบประมาณ ตีตื้นขึ้นมาอยู่ในระดับ 65,131.31 ล้านบาท หรือลดลง 1.72% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา ส่วนอีก 2 เดือนสุดท้ายของปีงบประมาณยังรอการสรุป