ยูนิลีเวอร์ เดินหน้าลงทุนสู้โควิด ชู “ร้านติดดาว” และโครงการ “wall’s man (พี่ติมวอลล์) หนุนการสร้างงาน
วันที่ 14 ธ.ค. 2563 นายโรเบิร์ต แคนเดลิโน ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทยูนิลีเวอร์ประเทศไทยและอาเซียน เปิดเผยว่า ปีนี้นับเป็นปีที่ท้าทายอย่างมากสำหรับทุกภาคส่วน ทั้งสถานการณ์โรคระบาดที่ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ เศรษฐกิจที่ชะลอตัว ความไม่สงบทางการเมือง ซึ่งขณะนี้ แม้หลายบริษัทจะชะลอการลงทุน แต่ยูนิลีเวอร์ยังคงเดินหน้าลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับเทรนด์ผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปหลังโควิด-19
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
- ยูโอบี ย้ำลูกค้าบัตรเครดิตซิตี้ ยังใช้งานได้ปกติ แจงสิ่งควรรู้หลังโอนพอร์ต
โดยจะให้ความสำคัญกับ “ร้านติดดาว” และโครงการ “wall’s man (พี่ติมวอลล์) เพื่อสนับสนุนสร้างงานในช่วงที่หลายคนประสบปัญหาในช่วงการระบาดของโควิด-19
และในโอกาสนี้ บริษัทได้การลดราคาสินค้าหลาย ๆ รายการ เพื่อช่วยแบ่งเบาด้านค่าครองชีพให้ผู้บริโภครวมถึงการบริจาคผลิตภัณฑ์มูลค่า 200 ล้านบาท ได้แก่ เจลทำความสะอาด ผงซักฟอก ผลิตภัณฑ์คนอร์และวอลล์ ชุดตรวจหาเชื้อโควิด และเครื่องช่วยหายใจ
นอกจากนี้ บริษัทยังได้คิดค้นสินค้านวัตกรรมเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องหลายรายการ เช่น น้ำยาทำความสะอาดโปรแมกซ์ฆ่าเชื้อโควิด สินค้าแอนตี้แบค คนอร์ข้าวต้มที่เพิ่มคุณค่าทางอาหาร เป็นต้น
ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทยูนิลีเวอร์ประเทศไทยฯ กล่าวด้วยว่า เพื่อเป็นการร่วมฉลองโอกาสที่ยูนิลีเวอร์จะครบรอบ 88 ปี ของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ด้วยการเดินหน้าแผนงานระยะกลาง-ยาว เพื่อสร้างความยั่งยืนและลดปริมาณการใช้ขยะ โดยมีแผนใช้เงินลงทุนด้านสิ่งแวดล้อม 40 ล้านบาท ในช่วง 10 ปีนับจากนี้ในกองทุนสิ่งแวดล้อม เพื่อสนับสนุนงานด้านสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง
นอกจากนี้ บริษัทยังวางเป้าหมายว่าภายในปี 2573 ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและซักผ้าทั้งหมดของยูนิลีเวอร์ จะเลิกใช้คาร์บอนที่มาจากเชื้อเพลิงฟอสซิล แล้วเปลี่ยนไปใช้คาร์บอนหมุนเวียนหรือที่มาจากการรีไซเคิลแทน
รวมทั้งการมุ่งเปลี่ยนแปลงระบบอาหารทั่วโลก โดยภายในปี 2568 จะลดปริมาณขยะอาหารจากกระบวนการผลิตโดยตรงนับตั้งแต่ที่โรงงานไปจนถึงชั้นวางของในร้านค้าให้ได้ครึ่งหนึ่งทั่วโลก และจะเพิ่มจำนวนผลิตภัณฑ์อาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการที่ดีเป็นสองเท่าตัวทั่วโลก รวมถึงเดินหน้าลดแคลอรี่ ปริมาณเกลือและน้ำตาลในทุกผลิตภัณฑ์ลง ผ่านพันธกิจ “Future Food”