โตชิบา ระดมแคมเปญปั๊มยอด ชิงดีมานด์ “ของขวัญ” ลั่นโต 20% ตามเป้า

“โตชิบา” มั่นใจดีมานด์เครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็กช่วงโค้งท้าย ระดมการตลาดปั้นยอดขายทั้งแคมเปญแชะ-แชร์ชิงโชคขยายการรับรู้แบรนด์ คอนเทนต์ไอเดียของขวัญสร้างดีมานด์ พร้อมจับมือคู่ค้าขยายช่องทางจำหน่ายเจาะชุมชน หวังดันยอดขายเติบโต 20% ตามเป้า

ช่วงโค้งท้ายปีถือเป็นหน้าขายสำคัญของวงการเครื่องใช้ไฟฟ้าในการชิงดีมานด์ของผู้บริโภคที่มองหาเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็กเพื่อเป็นของขวัญ ของจับสลาก หรือของรางวัลให้กับตนเอง ซึ่งโตชิบาเป็นหนึ่งในผู้เล่นหลักของเซ็กเมนต์นี้ จึงต้องเดินหน้าทำตลาดเพื่อรับมือการแข่งขันและสภาพเศรษฐกิจ-กำลังซื้อ ไม่ว่าจะเป็นการจัดแคมเปญไอเดียห่อของขวัญ กิจกรรมลุ้นรางวัล ไปจนถึงการสนับสนุนคู่ค้า และขยายช่องทางจำหน่ายเจาะลึกระดับชุมชน

แนวโน้มดีมานด์ชิ้นเล็กดี

นายบุนยรัตน์ ไตรสิริสมบัติ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์ บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด เปิดเผยทิศทางช่วงโค้งท้ายและกลยุทธ์ปี 2564 กับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปลายปี 2563 นี้เซ็กเมนต์เครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็ก อาทิ หม้อหุงข้าว เตาอบไมโครเวฟ เครื่องทำน้ำอุ่น และเครื่องฟอกอากาศ ฯลฯ เป็นกลุ่มที่จะยังมีดีมานด์สูงไม่แพ้ปีก่อน ๆ เนื่องจากแม้สภาพเศรษฐกิจและกำลังซื้อยังไม่ดีนัก

ขณะเดียวกันก็มีปัจจัยหนุนจากสภาพอากาศเย็น ปัญหาฝุ่น PM 2.5 และเทศกาลให้ของขวัญ นอกจากนี้ยังเชื่อว่าจะมีกำลังซื้อจากกลุ่มราชการ และบางธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 ไม่มากนัก โดยเฉพาะในกรุงเทพฯและหัวเมืองใหญ่

สะท้อนจากดีมานด์ในปีนี้ที่แม้จะน้อยกว่าปีก่อน ๆ แต่ยังมีอยู่ โดยช่วงไตรมาส 4 ตั้งแต่ปลายตุลาคมจนถึงปัจจุบัน (ต้นเดือนธันวาคม) สินค้าชิ้นเล็กและเครื่องทำน้ำอุ่น มียอดขายค่อนข้างดี นับเป็นการฟื้นตัวจากช่วงปลายไตรมาส 3 ที่ดีมานด์ชะลอตัวลง หลังพุ่งสูงในช่วงคลายล็อกดาวน์เฟส 5 เดือนกรกฎาคม-สิงหาคม

นอกจากนี้แม้ปีนี้จะมีกระแสว่าหลายธุรกิจงดจัดงานปีใหม่ในองค์กร ซึ่งอาจกระทบกับการซื้อสินค้าเพื่อจับสลาก-ของรางวัล แต่พบว่ายังมีการซื้อสินค้าอยู่ เนื่องจากบางแห่งปรับรูปแบบเป็นการแจกรางวัลให้กับพนักงานโดยไม่มีการจัดงาน ฝั่งร้านค้ายังมีความเชื่อมั่นดี หลังหลายรายประสบความสำเร็จในการขายออนไลน์ จนสามารถสร้างการเติบโตได้ในปีนี้

“เชื่อว่าความมั่นใจเป็นหนึ่งในความท้าทายหลัก ไม่แพ้เศรษฐกิจ-กำลังซื้อ เพราะทำให้คนที่ยังมีกำลังซื้อไม่กล้าจับจ่าย เห็นได้จากเมื่อมีข่าววัคซีนออกมาช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนการจับจ่ายก็คึกคักขึ้นตามไปด้วย เช่นเดียวกับช่วงหลังจากที่ทางการประกาศคลายล็อก ซึ่งทำให้รู้ว่าจริง ๆ แล้วตลาดยังมีดีมานด์อยู่”

มุ่งชิงดีมานด์ตลาด “ของขวัญ”

ผู้บริหารโตชิบากล่าวต่อไปว่า เพื่อนำดีมานด์เหล่านี้มาสร้างการเติบโตในช่วงท้ายปีให้บรรลุเป้าเติบโต 20% ที่วางไว้ บริษัทจะนำการให้ของขวัญมาใช้เป็นธีมหลักของกลยุทธ์การตลาด เพื่อผลักดันยอดขายของเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็ก โดยไม่จำกัดเฉพาะของขวัญปีใหม่ แต่จะรวมไปถึงของขวัญในวาระอื่น ๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นวันเกิด วันรับปริญญา วันแต่งงาน ขึ้นบ้านใหม่ ฯลฯ

โดยอาศัยความพร้อมของไลน์อัพสินค้า และจุดขายด้านความคุ้มค่าจากระดับราคาและฟังก์ชั่น หลังตลอดปี 2563 นี้ได้ขยายไลน์สินค้าใหม่ไปหลายรายการ อาทิ ไมโครเวฟ เตานึ่ง-อบ เตาปิ้งขนมปัง เป็นต้น พร้อมกับผนึกกำลังระหว่างทีมขายกับโรงงานแบบใกล้ชิดยิ่งขึ้น เพื่อให้ได้สินค้าที่ตอบโจทย์ด้านฟังก์ชั่น ในระดับราคาที่แข่งขันได้ เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ความคุ้มค่ารับกับพฤติกรรมของผู้บริโภค และแข่งขันกับคู่แข่งได้ดีขึ้น

“การปรับราคา-ฟังก์ชั่นของสินค้าให้แข่งขันได้ดีขึ้น ยังช่วยให้ปีนี้บริษัทสามารถขยายช่องทางจำหน่ายได้มากขึ้นตามไปด้วย ทั้งในร้านค้าเทรดิชั่นนอลเทรดและโมเดิร์นเทรด”

พร้อมจัดแคมเปญ “คิดถึงของขวัญ คิดถึงโตชิบา” ต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 4 ปีนี้ไปจนถึงไตรมาสแรกปี 2564 ซึ่งมีไฮไลต์เป็นคอนเทนต์แนะนำไอเดียตกแต่งสินค้าตั้งแต่กลุ่มชิ้นเล็กอย่างหม้อหุงข้าว กระติกน้ำร้อน ไมโครเวฟ ไปจนถึงชิ้นใหญ่อย่างตู้เย็นให้เป็นของขวัญสำหรับโอกาสต่าง ๆ ร่วมกับการเดินสายตกแต่งร้านค้า จุดจำหน่ายและพื้นที่โปรโมชั่นในห้างสรรพสินค้าในธีมการให้ของขวัญ ทำการตลาดเน้นย้ำคุณภาพมาตรฐานญี่ปุ่น และการทำโปรโมชั่นแถมของพรีเมี่ยม ผ่อน 0% นาน 6-10 เดือน ทั้งนี้เพื่อกระตุ้นให้เกิดดีมานด์และการตัดสินใจซื้อ

“ปกติคนไทยคิดถึงของขวัญก็จะเป็นกระเช้า เราจึงพยายามสร้างแนวคิดใหม่ว่าทุกสินค้าสามารถเป็นของขวัญได้ ไม่จำกัดเฉพาะชิ้นเล็ก แม้แต่เครื่องซักผ้าหรือตู้เย็น ก็สามารถใช้เป็นของขวัญขึ้นบ้านใหม่”

หนุนคู่ค้าบุกช่องทางออนไลน์

ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์ บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ กล่าวว่า ส่วนด้านการตลาดบริษัทจะเน้นแนวคิดออนไลน์ทูออฟไลน์ หรือโอทูโอ ที่จะสร้างการรับรู้กับผู้บริโภคบนออนไลน์แล้วไปปิดการขายที่ร้านคู่ค้า โดยช่วยอัพเกรดศักยภาพของคู่ค้าทั่วประเทศ ผ่านการจัดฝึกอบรมผ่านออนไลน์ในเรื่องการทำตลาด-ขายสินค้าออนไลน์ อย่างการไลฟ์สดมาตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคมเป็นต้นมา รวมถึงสนับสนุนคอนเทนต์สำเร็จรูป และข้อมูลสินค้าให้คู่ค้าสามารถนำไปใช้โพสต์-แชร์ได้ทันที เพื่อรับมือกับการหันไปซื้อสินค้าบนออนไลน์ของผู้บริโภค

ขณะเดียวกัน นอกจากออนไลน์แล้ว ยังมุ่งสร้างการรับรู้ด้านฟังก์ชั่นของสินค้า ผ่านกิจกรรมออนกราวนด์ โดยเพิ่มจำนวนกิจกรรมสาธิตสินค้าในทุกรูปแบบและกับทุกกลุ่ม ตั้งแต่จุดจำหน่ายในร้านค้าต่าง ๆ ไปจนถึงตั้งบูทสาธิตในงานประชุมคู่ค้าที่บริษัทจัดขึ้น

โดยช่วงโค้งท้ายนี้มีไฮไลต์เป็นแคมเปญ “ไอ เลิฟ โตชิบา” (I Love Toshiba) ที่จัดเพื่อสร้างการรับรู้ให้กลุ่มตู้เย็น ซึ่งปีนี้และปีหน้าจะเพิ่มไลน์อัพระดับบน-ไฮเอนด์เข้ามาต่อเนื่อง อาทิ รุ่นไซด์บายไซด์ และรุ่นมัลติดอร์ เริ่มจากการติดสื่อโฆษณาบนรถไฟฟ้า 4 ขบวน พร้อมกระตุ้นให้ผู้คนถ่ายรูปและแชร์ ด้วยกิจกรรมลุ้นรางวัลตู้เย็นไซด์บายไซด์ ขนาด 18 คิว เมื่อถ่ายรูปคู่กับตู้เย็นบนรถไฟฟ้า หรือตู้เย็นโตชิบาที่บ้าน และนำไปโพสต์บนเฟซบุ๊กตามกติกาที่กำหนด ตั้งแต่ 11 พฤศจิกายน-31 ธันวาคม 2563

มั่นใจยอดขายโต 20% ตามเป้า

นายบุนยรัตน์เสริมว่า จากนี้บริษัทเดินหน้าขยายช่องทางจำหน่ายในกลุ่มร้านค้าขนาดกลาง-เล็ก หรือซับดีลเลอร์มากขึ้น โดยให้การสนับสนุนอุปกรณ์ตกแต่งและสื่อโฆษณา เช่น สแตนด์ดิสเพลย์ ป้ายต่าง ๆ และร่วมมือกับดีลเลอร์ ทั้งเพื่อเพิ่มยอดขาย และช่วยให้ผู้บริโภคระดับท้องถิ่นได้รู้จัก-คุ้นเคยกับแบรนด์ เนื่องจากพบว่าผู้บริโภคในพื้นที่ให้ความเชื่อมั่นกับร้านค้าเหล่านี้สูงมาก ทั้งจากความคุ้นเคยและบริการหลังการขาย อีกทั้งจากข้อมูลของดีลเลอร์ร้านเหล่านี้ยังดำเนินธุรกิจได้ต่อเนื่อง แม้จะเป็นช่วงระหว่างการระบาดของโรคโควิด-19 จึงถือเป็นช่องทางที่มีศักยภาพในการเข้าถึงผู้บริโภคระดับท้องถิ่น และสร้างยอดขายในระยะยาว

ด้วยกลยุทธ์ต่าง ๆ ดังกล่าว มั่นใจว่าจะช่วยให้ยอดขายของบริษัทในปี 2563 สามารถเติบโตเฉลี่ย 20% ได้ตามที่วางเป้าไว้ โดยมีเครื่องซักผ้าเป็นตัวสร้างรายได้หลัก หลังเปิดตัวสินค้าหลายรายการ อาทิ ฝาบนไซซ์เล็กที่เน้นจับกลุ่มผู้อยู่อาศัยคนเดียวในหอพัก รวมถึงได้แรงหนุนจากฝนที่ตกหนักในปีนี้ รองลงมาคือตู้เย็นรุ่น 2 ประตู ที่ได้รับการตอบรับสูง ช่วยสร้างเม็ดเงินมาเสริมกับรุ่นประตูเดียว