สวย แซบ สไตล์ นิกซ์ ผุดแฟลกชิปสโตร์ มัดใจขาช็อป

ร้อนแรงสุด ๆ สำหรับสมรภูมิการแข่งขันตลาดเครื่องสำอางที่มีแบรนด์ใหม่ ๆ จากต่างประเทศดาหน้าเข้ามาขอชิงส่วนแบ่งตลาดนี้กันอย่างหนาตา

ปัจจัยหลัก ๆ มาจากการขยายตัวของเทคโนโลยีและสื่อออนไลน์ที่กระจายการรับรู้ของเทรนด์ใหม่ ๆ จากต่างประเทศให้เห็นในวงกว้าง

เป็นการเพิ่มทางเลือกให้แก่เหล่าเมกอัพจังกี้ (make up junkie) หรือ คนที่ชื่นชอบการแต่งหน้า ได้ช็อป ได้เลือกลองเครื่องสำอางแบรนด์ใหม่ ๆ จากต่างประเทศมากขึ้น

ซึ่งคนกลุ่มนี้ล้วนต่างมีกำลังซื้อที่ดี มีความถี่ในการซื้อสูง และเปิดรับสิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ

“วิลาสินี ภาณุรัตน์” ผู้จัดการทั่วไปผลิตภัณฑ์นิกซ์ โปรเฟสชั่นแนลเมคอัพ (NYX) กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า พฤติกรรมนักช็อปยุคนี้เปลี่ยนเร็ว เปิดรับสิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ เนื่องจากการขยายตัวของเทคโนโลยี การรับข้อมูลข่าวสารจากสื่อออนไลน์อยู่ตลอดเวลา

ทำให้คนกลุ่มนี้ กล้าลอง และกล้าซื้อเครื่องสำอางแบรนด์ใหม่ ๆ ที่เข้ามาเป็นทางเลือกมากขึ้น

ด้วยปัจจัยเหล่านี้ทำให้ตลาดเครื่องสำอางปีนี้ยังเติบโตท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ส่งผลให้การแข่งขันของตลาดนี้ก็สูงขึ้นไปด้วย

ขณะเดียวกัน เพื่อเพิ่มลูกเล่นใหม่ ๆ เพิ่มประสบการณ์และความสนุกสนานให้แก่การเลือกซื้อสินค้าของเมกอัพจังกี้ ได้เปิดตัว “นิกซ์ โปรเฟสชั่นแนล เมคอัพ แฟลกชิปสโตร์” แห่งแรกในเอเชีย และแห่งที่ 2 ของโลก ที่ สยามสแควร์วัน

หลังจากเปิดตัวแฟลกชิปสโตร์แห่งแรกที่ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา

สำหรับแฟลกชิปสโตร์แห่งนี้ นำเสนอภายใต้แนวคิด “Digitalzed Desitination of Beauty Junkie” ตกแต่งด้วยโทนสีดำ ชมพูโมเดิร์นแบบแอลเอ.ชิก ๆ เสริมลุกให้เปรี้ยวทันสมัย และมีสีสัน

ไฮไลต์ของแฟลกชิปสโตร์แห่งนี้ประกอบด้วย อินเตอร์แอ็กทีฟสกรีน จอภาพสุดว้าวที่สามารถถ่ายรูปคู่กับผลิตภัณฑ์ได้ ตามด้วย ห้องมาสเตอร์คลาส สาวกนิกซ์ สามารถจองคลาสเมกอัพได้

มีสอนถึง 4 คลาส ได้แก่ Love Contour All สอนแก้ไขรูปหน้าก่อนการแต่งหน้า คลาสเขียนคิ้วให้ปัง ติดขนตาปลอมให้เข้ากับใบหน้า และสอนทาอายแชโดว์สุดเก๋

นอกจากนี้ยังมี Virtual reality Zone (VR) ด้วยการนำเทคโนโลยีมาสร้างประสบการณ์การแต่งหน้าเสมือนจริง เหมือนมีช่างแต่งหน้ามาแต่งหน้าให้

อีกไฮไลต์สำคัญ DIY Zone สาว ๆ สามารถเลือกทำ brush customization ได้แบบลิมิเต็ดตามสไตล์ของตัวเอง

“นิกซ์มีฐานลูกค้าค่อนข้างกว้าง เพราะมีความหลากหลายของสินค้าที่มีมากกว่า 2,000 SKU วางราคาสัมผัสได้ โดยมีราคาตั้งแต่ 295-4,000 บาท รองรับกลุ่มลูกค้า ตั้งแต่คนทั่วไปที่ชื่นชอบการแต่งหน้าจนถึงมืออาชีพ คาดว่าการเปิดตัวแฟลกชิปสโตร์แห่งนี้จะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า”

ปัจจุบันนิกซ์แบ่งช่องทางขายเครื่องสำอาง 3 โมเดล ได้แก่ ร้านบูติค ที่มีแบรนด์นิกซ์เพียงแบรนด์เดียว 8 สาขา และปีหน้าจะเปิดอีก 16 สาขา

ตามด้วยช็อปอินช็อปเปิดทั้งในศูนย์การค้า และอีฟแอนด์บอยทุกสาขา และแฟลกชิปสโตร์

“วิลาสินี” บอกว่า สำหรับทิศทางหลัก ๆ ปีหน้านั้น จะเดินหน้าด้วยกลยุทธ์ ซีอาร์เอ็ม (CRM) มอบสิทธิประโยชน์แบบเอ็กซ์คลูซีฟ เพิ่มประสบการณ์ให้แก่ลูกค้า รักษาฐานลูกค้าเก่าและเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ต่อเนื่อง

รวมถึงเตรียมเปิดตัวอีคอมเมิร์ซ ของ นิกซ์ไทยแลนด์ด้วย รองรับพฤติกรรมนักช็อปรุ่นใหม่

จึงไม่แปลกที่ผู้เล่นหน้าเก่าและใหม่ ต่างต้องการมัดใจขาช็อปกลุ่มนี้ให้ได้

ขณะที่ สายแซบตัวแม่อย่าง นิกซ์ แบรนด์เครื่องสำอางจากอเมริกา ก็พร้อมจะช่วงชิงกำลังซื้อจากนักช็อปกลุ่มนี้เช่นกัน