“ไฟท์ฝุ่น” รุกตลาดขจัด PM 2.5 ปูพรมช่องทางขายเล็งส่งออก

“เพนทา อินโนเทค” โดดร่วมวงกำจัดฝุ่นจิ๋ว ส่ง “ไฟท์ฝุ่น” ชูจุดขายช่วยลดพีเอ็ม 2.5 ทำจากสารธรรมชาติ ดักจับฝุ่น-ไม่ฟุ้งในอากาศนาน 7 ชั่วโมง เจาะเทรดิชั่นนอลเทรด-โมเดิร์นเทรด-เชนร้านขายยาใหญ่ พร้อมเดินหน้าทำการตลาดออนไลน์-ออฟไลน์ ตั้งเป้ากลางปี’64 ส่งออกบุกต่างประเทศ

จากปัญหาฝุ่นจิ๋ว พีเอ็ม 2.5 ที่เกิดจากการปล่อยควันของรถยนต์ โรงงานอุตสาหกรรม การเผาวัชพืช-ขยะ ฯลฯ ที่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ และส่งผลกระทบต่อสุขภาพตามมา แต่อีกด้านหนึ่งก็เป็นโอกาสทางการตลาดของสินค้าที่มีคุณสมบัติในการกำจัดฝุ่น ทั้งเครื่องฟอกอากาศ และสเปรย์กำจัดฝุ่น

นางสาวชลิตา มุ่งวิวัฏ ประธานบริหาร บริษัท เพนทา อินโนเทค จำกัด ผู้ขอใช้สิทธิงานวิจัยของคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาผลิตเป็นแบรนด์ “ไฟท์ฝุ่น” (PhytFoon) สเปรย์ลดฝุ่น PM 2.5 เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ผลิตภัณฑ์ไฟท์ฝุ่นเกิดจากการเล็งเห็นโอกาสการเติบโตในตลาดสุขภาพของบริษัท เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ที่ต้องเผชิญมลพิษทางอากาศเกือบตลอดเวลา จากการทำงาน เดินทาง หรือแม้แต่อยู่ที่บ้าน โดยบริษัทร่วมมือกับคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ ผลิตไฟท์ฝุ่น ที่ช่วยลดปริมาณฝุ่น ทำมาจากสารธรรมชาติ ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม สามารถดักจับฝุ่นให้มาเกาะตัวรวมกันและตกลงพื้น ไม่กลับมาฟุ้งในอากาศถึง 7 ชม. จะเริ่มเจาะกลุ่มลูกค้าในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และตามหัวเมืองใหญ่ ๆ ก่อน จากนั้นจะขยายไปสู่กลุ่มลูกค้าต่างจังหวัดต่อไป

ส่วนแนวทางการทำตลาดมีนโยบายจะเน้นทั้งในช่องทางออนไลน์ และออฟไลน์ โดยในส่วนของออนไลน์ ด้วยคอนเทนต์ให้ความรู้เรื่องความอันตรายของฝุ่นจิ๋วและกลไกการทำงานของไฟท์ฝุ่น สร้างความเข้าใจนวัตกรรมสเปรย์กำจัดฝุ่น ผ่านเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม รวมทั้งการสร้างการรับรู้ด้วยการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ผ่านสปอตวิทยุและบิลบอร์ดในย่านที่มีทราฟฟิกสูง ปัจจุบันมีช่องทางขายจากช่องทางหลักทั้งไลน์ เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม รวมทั้ง 24 แค็ตตาล็อกของเซเว่นอีเลฟเว่น, เจดี เซ็นทรัล, ร้านโอสถศาลาของจุฬาฯ และคาดว่าภายในไตรมาส 2 ปี 2564 สามารถกระจายสินค้าไปทุกภูมิภาค ทั้งเทรดิชั่นนอลเทรด ที่จะมีทีมขายเข้าไปประชาสัมพันธ์ตามร้านต่าง ๆ ทั้งค้าส่งและค้าปลีก ส่วนโมเดิร์นเทรดกำลังดำเนินการเจรจากับค้าปลีกรายใหญ่หลายค่าย รวมทั้งเชนร้านขายยาขนาดใหญ่

ขณะเดียวกัน ยังมีแผนแตกไลน์สินค้าเพิ่มเติม ทั้งด้านขนาดไซซ์ขวดจะเพิ่ม 3 ขนาด ได้แก่ 30 มล., 50 มล. และขนาดรีฟีล ในราคาเริ่มต้นหลักสิบ เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกและทำให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้าได้ง่ายขึ้น และเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อน้อย หรือกลุ่มที่ต้องการทดลองสินค้าก่อน ซึ่งจะลอนช์ภายในปี 2564 นี้ จากช่วงแรกที่ผลิตภัณฑ์ไฟท์ฝุ่นมี 2 ขนาด คือ 160 มล. ราคา 389 บาท และ 300 มล. ราคา 599 บาท ปัจจุบันโรงงานมีกำลังการผลิต 1 แสนขวด/เดือน

นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อจะผลิตโปรดักต์ที่เป็นเครื่องพ่นอัตโนมัติ และเครื่องทำควัน ออกมาเพื่อเจาะลูกค้าบีทูบี เช่น โรงแรม โรงเรียน เป็นต้น ในอนาคตอาจพัฒนาสินค้าใหม่เกี่ยวกับฝุ่น ซึ่งสามารถใช้บนร่างกายได้ รวมทั้งมีแผนจะร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า จับคู่ทำแคมเปญการขายสินค้าร่วมกัน ระหว่างเครื่องกรองอากาศกับสเปรย์ไฟท์ฝุ่น เพื่อกระตุ้นยอดขาย

สำหรับการส่งออก เบื้องต้นจะเริ่มจากกลุ่มประเทศที่มีปัญหาเรื่องฝุ่นและมีอุตสาหกรรม และประชากรหนาแน่น เช่น จีน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และกลุ่มประเทศอาเซียน เช่น เวียดนาม เป็นต้น รวมไปถึงประเทศที่มีปัญหาฝุ่นจากภัยธรรมชาติจากไฟป่าและภูเขาไฟ คาดว่าจะส่งออกได้ประมาณกลางปี 2564