ธุรกิจปาดเหงื่อสู้! “โควิด-19” โจมตีซ้ำ มู้ดจับจ่ายร่วง

ห้างสรรพสินค้า

จับกระแสตลาด

ต้องงัดแผนและประสบการณ์ที่เคยใช้เมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคม-เมษายน 2563 ที่ผ่านมา กลับมาใช้อย่างเร่งด่วน สำหรับกลุ่มผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า ร้านค้า ร้านอาหาร โรงหนัง ฯลฯ

หลัง “โควิด-19” กลับมาโจมตีระลอกใหม่เมื่อกลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา และไม่มีท่าทีว่าจะหยุดลงง่าย ๆ สะท้อนจากจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากเลขตัวเดียวเป็นเลขสองหลัก จากหลักสิบขยับขึ้นไปเป็นร้อย จากหลักร้อยต้น ๆ ขยับไปเป็นหลักร้อยปลาย ๆ ล่าสุดไวรัสร้ายกระจายไปในหลาย ๆ จังหวัด มากกว่า 50 จังหวัดแล้ว

ขณะที่ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ต้องออกมาตรการ “เข้ม” มาควบคุม เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ด้วยการจัดระบบและระเบียบ การจำหน่ายอาหาร-เครื่องดื่ม ปิดสถานบริการผับ บาร์ สถานบันเทิง ฟิตเนส/กำหนดเวลาการเปิด-ปิดสถานประกอบการ หรือปิดสถานประกอบการที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด

ห้างโอดมู้ดจับจ่ายร่วง

แหล่งข่าวระดับสูงจากวงการค้าปลีกเปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า โควิด-19 ที่ระบาดรอบใหม่นี้ส่งผลให้ผู้คนตื่นและกังวลมาก เป็นปัจจัยสำคัญที่กระทบกับบรรยากาศและมู้ดการจับจ่ายตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา และต่อเนื่องมาจนถึงเทศกาลปีใหม่ที่มีวันหยุดยาว โดยจากการติดตามสถานการณ์ความเชื่อมั่นผู้บริโภคในช่วงเดือนธันวาคม 2563 ที่ลดลงค่อนข้างมาก จากช่วงเดือนพฤศจิกายน 2563 ความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ลดลงส่งผลให้ทราฟฟิกและการจับจ่ายเริ่มลดลงอย่างมีนัยสำคัญ จากช่วงต้นเดือนธันวาคม ซึ่งช่วงนั้นยังไม่มีการแพร่ระบาดของโควิด

อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการค้าปลีกเองซึ่งได้มีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดมาโดยตลอดตั้งแต่ช่วงกลางเดือนธันวาคม 2563 และได้นำโมเดลธุรกิจที่เคยใช้เมื่อช่วงการระบาดครั้งแรกเมื่อต้นปี 2563 กลับมาใช้อีกครั้งหนึ่ง และมีการปรับประยุกต์ให้ลงตัวมากขึ้น ทั้งแผนการตลาด และการช็อปออนไลน์ ซึ่งทุกค่ายมีความพร้อมอยู่แล้ว

อีกด้านหนึ่งผู้ประกอบการก็มีการปรับการบริหารการจัดการภายใน โดยเฉพาะในส่วนของสำนักงาน ที่นำระบบ work from home กลับมาใช้อีกครั้งหนึ่ง ด้วยการแบ่งพนักงานออกเป็น 2 ทีม ทีมหนึ่งทำงานวันจันทร์-พุธ-ศุกร์ และทีมที่สอง ทำงานวันอังคาร-พฤหัสบดี-เสาร์ เพื่อที่จะให้สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง

“ตอนนี้ทุกคนคาดการณ์ไปในทิศทางเดียวกันว่า สถานการณ์โควิด-19 จะยังไม่จบในเร็ววัน และโควิด-19 จะอยู่กับเราไปอีก 2 เดือน หรือ 3 เดือน ดังนั้นจึงได้มีการเตรียมแผนรองรับไว้ค่อนข้างพร้อม”

ด้าน “วรลักษณ์ ตุลาภรณ์” ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า นอกจากการนำมาตรการป้องกัน การคัดกรอง การตรวจวัดอุณหภูมิ การเว้นระยะห่าง กลับมาใช้อย่างเข้มงวดแล้ว เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น บริษัทได้มีการปรับแผนในส่วนของอีเวนต์ ด้วยการลดสเกลการจัดงานลง และปรับแผนภายในบ้างเล็กน้อย ขณะเดียวกันก็หันมาโฟกัสการจัดโปรโมชั่นทางการตลาดแทนการจัดอีเวนต์ที่มีดารา-นักแสดงร่วมงาน นอกจากนี้ยังมีการนำกลยุทธ์ทางการตลาดแบบ O2O หรือการผสมผสานระหว่างออนไลน์และออฟไลน์กลับมาใช้ รองรับความต้องการของลูกค้า รวมทั้งการทำกิจกรรมออนไลน์, การจัดพื้นที่รับ-ส่งสินค้าที่สั่งซื้อทางออนไลน์ บริการ call to order บริการ drive thru รวมถึง chat & shop

“การระบาดระลอกนี้ ทั้งผู้ประกอบการและประชาชนจะสามารถตั้งรับได้ดีกว่าเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา เพราะมีประสบการณ์มาแล้ว และคาดว่าจะส่งผลเสียหายต่อธุรกิจน้อยลง อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าการระบาดครั้งใหม่นี้กระทบต่อภาพรวมค้าปลีกบ้างเล็กน้อย โดยเฉพาะทำเลในย่านแหล่งท่องเที่ยว จากจำนวนลูกค้าที่หายไปและอาจต่อเนื่องไปอีกสักระยะหนึ่ง”

ร้านอาหารชูดีลิเวอรี่สู้

ด้านความเคลื่อนไหวของร้านอาหารต่าง ๆ ที่เปิดให้บริการในศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จากการสำรวจของผู้สื่อข่าวพบว่า บรรยากาศโดยรวมค่อนข้างเงียบเหงา โดยมีลูกค้าเข้าไปใช้บริการค่อนข้างบางตาและนั่งรับประทานอาหารในร้านต่าง ๆ ไม่มากนัก

แหล่งข่าวในแวดวงธุรกิจร้านอาหารรายใหญ่เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า การแพร่ระบาดของโควิดรอบใหม่นี้ทำให้ผู้คนลดการเดินทางออกจากบ้าน หลาย ๆ บริษัทมีการนำมาตรการ work from home มาใช้ ซึ่งอีกด้านหนึ่งก็ส่งผลกระทบต่อธุรกิจต่าง ๆ รวมถึงร้านอาหารที่อยู่ในศูนย์การค้า ยอดขายลดลงจากทราฟฟิกที่หายไปเกือบ 40-50% ขณะเดียวกัน ร้านค้าต่าง ๆ ได้หันมาเน้นขายผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น รวมถึงการหันมาปรับตัวเพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ เช่น การพยายามลดต้นทุน ลดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ไม่จำเป็น เพราะในภาวะเช่นนี้ต้องเน้นการเก็บเงินสด

“สำหรับธุรกิจร้านอาหาร หลาย ๆ ค่าย เริ่มกลับมาเพิ่มน้ำหนักช่องทางขายดีลิเวอรี่มากขึ้น ทั้งในแพลตฟอร์มของตัวเอง และร่วมกับพาร์ตเนอร์ต่าง ๆ”

สอดคล้องกับความเห็นของ “ประพัฒน์ เสียงจันทร์” ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เจ้าของร้านอาหารซิซซ์เล่อร์, เดอะ พิซซ่า คอมปะนี, แดรี่ ควีน, สเวนเซ่นส์ เป็นต้น ที่ระบุว่า ตอนนี้สิ่งที่กังวลคือ ผู้คนเริ่มกังวลในการใช้ชีวิตประจำวัน และออกมาเดินห้างลดลง กระทบต่อช่องทางขายหน้าร้าน ขณะเดียวกัน อัตราการสั่งอาหารผ่านดีลิเวอรี่เริ่มกลับมาเติบโตขึ้น ซึ่งบริษัทก็ได้ปรับตัวมาให้น้ำหนักกับช่องทางดีลิเวอรี่เพิ่มขึ้น

ล่าสุดจากการสำรวจตลาดร้านอาหารของผู้สื่อข่าวพบว่า ขณะนี้ร้านอาหารรายใหญ่ได้กลับมาปลุกตลาดดีลิเวอรี่อีกครั้งหนึ่ง ด้วยการทยอยจัดโปรโมชั่นต่าง ๆ ออกมา เริ่มจากเซ็น กรุ๊ป นำร้านอาหารตามสั่ง เขียง นำเสนอ 4 เซตเมนูขายดี จำหน่ายในราคาเริ่มต้น 50 บาท จากปกติราคาเริ่มต้น 60 บาท ตามด้วยร้านอาหารญี่ปุ่น เซ็น ส่งชุดเมนูราคาเริ่มต้น 69 บาท โดยร่วมกับแพลตฟอร์มฟู้ดดีลิเวอรี่ทั้งแกร็บ, ไลน์แมน, ฟู้ดแพนด้า และ 1376 call center ยาวไปจนถึงสิ้นเดือนมกราคมนี้ เช่นเดียวกับเอ็มเค เรสโตรองต์ จัดแคมเปญ MK ดีลิเวอรี่ ซื้อเป็ดย่างจานใหญ่ ฟรี เป็ดย่างจานเล็ก เฉพาะจังหวัดสมุทรสาคร สมุทรสงคราม ระยอง ชลบุรี ปทุมธานี อ่างทอง ตาก (ฟรีค่าส่งทันที เมื่อสั่งครบ 300 บาท เฉพาะช่องทาง 1642 หรือ www.mk1642.com) ยิงยาวไปจนถึง 17 มกราคม 2564

ตามด้วยร้านอาหารในเครือไมเนอร์ฟู้ด เริ่มประเดิมจากแบรนด์เดอะ พิซซ่า คัมปะนี พิซซ่า ดิปเปอร์ 4 หน้า ถาดละ 329 บาท จากปกติ 389 บาท ตามด้วยซิซซ์เล่อร์ จัดโปรฯตอบโจทย์คนทำงานที่บ้าน ด้วยเซตขาหมู ราคา 399 บาท จากราคาปกติ 703 บาท ตั้งแต่วันนี้-31 มกราคม 2564

โรงหนัง-ฟิตเนสหั่นราคา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ด้านความเคลื่อนไหวของโรงภาพยนตร์ทั้งฝั่งเมเจอร์และเอสเอฟ นอกจากการออกมาตรการป้องกันโควิดอย่างเข้มข้น ด้วยการเว้นระยะห่างทางสังคม ด้วยการจัดที่นั่งเว้น 2 ที่นั่ง พร้อมขอความร่วมมือลูกค้าใส่หน้ากากอนามัยตลอดการรับชม ขณะเดียวกันยังคงมาตรการวัดอุณหภูมิ และบริการเจลแอลกอฮอล์ทุกส่วน และเพิ่มการดูแลระบบเครื่องปรับอากาศ ไปจนถึงการอบโอโซนและการพ่นยาฆ่าเชื้อ หลังปิดให้บริการทุกวัน ส่วนจุดสัมผัสหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ จะทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคทุก 30 นาที

พร้อมกันนี้ ทั้ง 2 ค่ายยังทำโปรโมชั่นออกมากระตุ้นตลาด ทั้งโปรแกรมหนังดังทั้งไทยและต่างประเทศ เริ่มจากเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ อาทิ อีเรียมซิ่ง, HORIZON LINE นรก..เหินเวหา ลดราคามากกว่า 50% ตลอดโปรแกรมฉาย เหลือเพียง 64-99 บาท จากราคาปกติ 250-270 บาท (ยกเว้น สาขาพารากอน ซีนีเพล็กซ์, ควอเทียร์ ซีเนอาร์ต, ไอคอน ซีเนคอนิค) พร้อมทั้งมีการโปรโมชั่นลดราคาป๊อปคอร์นและเครื่องดื่ม เหลือเพียง 320 บาท จากปกติ 450 บาท แถมฟรีไส้กรอก และสิทธิ์เติมเครื่องดื่มฟรี 1 ครั้ง

ด้านเอสเอฟ ผนึกกำลังพันธมิตรธนาคาร อาทิ ยูโอบี, กรุงเทพ, กรุงศรี เฟิร์สช้อยส์ ออกโปรโมชั่น 1 แถม 1 ดูทุกเรื่องในราคา 88 บาท หรือใช้คะแนนแลกที่นั่ง เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรธนาคารดังกล่าว ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึง 31 มี.ค. 64 หรือ 30 มิ.ย. 64 รวมทั้งการยืดเวลาแพ็กเกจของขวัญ จากเดิมสิ้นสุดปี 2563 ขยายเวลาไปจนถึง ก.พ. 64

ส่วนธุรกิจฟิตเนส “ฟิตเนสเฟิร์สท” หนึ่งในผู้ให้บริการฟิตเนสรายใหญ่ ได้ประกาศแผนรับมือการระบาดของโควิด-19 รอบใหม่ ที่ทำให้ต้องปิดสาขาในกรุงเทพฯ และจังหวัดปทุมธานี ชั่วคราว ด้วยการยกเว้น หรือลดค่าสมาชิกรายเดือนลงกว่าครึ่งของค่าบริการปกติ เนื่องจากเปิดให้บริการได้เพียงบางกิจกรรม เช่น โซนเวต คลาสโยคะ และการเทรนกับครูฝึกส่วนบุคคล

โดยสมาชิกของทั้ง 4 สาขาในจังหวัดนนทบุรี คือ เซ็นทรัล พลาซา แจ้งวัฒนะ และรัตนาธิเบศร์ เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน และเดอะคริสตัล เอสบีราชพฤกษ์ หากต้องการใช้บริการในช่วงนี้จะเสียค่าสมาชิก 799 บาท จากปกติเริ่มต้น 1,390-3,085 บาท เช่นเดียวกับสมาชิกจากสาขาอื่นที่ต้องการเข้าใช้บริการ ส่วนสมาชิกที่ซื้อหรือมีชั่วโมงครูฝึกส่วนบุคคลอยู่แล้วจะได้รับยกเว้นค่ารายเดือน นอกจากนี้ ยังลอนช์แพ็กเกจใหม่ราคา 799 บาท สำหรับสมาชิกใหม่ที่ต้องการใช้บริการเฉพาะ 4 สาขาดังกล่าว และแพ็กเกจเฉพาะคลาสโยคะในราคา 499 บาทต่อครั้งอีกด้วย

นอกจากนี้ สมาชิกในจังหวัดนนทบุรีที่ไม่ต้องการใช้บริการสามารถแจ้งพักอายุสมาชิกได้ฟรี ขณะที่สมาชิกในสาขาอื่น ๆ ที่ปิดชั่วคราวจะได้รับการพักอายุสมาชิกอัตโนมัติ