โควิดกระทบช่องทางขาย “โฟร์โมสต์” รุกหนักดีลิเวอรี่

เศรษฐกิจ-กำลังซื้อแผ่ว ทำตลาดนมพร้อมดื่ม 5 หมื่นล้านชะลอตัว การแข่งขันระอุ “โฟร์โมสต์” ประกาศเดินหน้าลงทุนสร้างความแข็งแกร่ง แบรนด์-ช่องทางจำหน่าย ระดมผลิตภัณฑ์-รสชาติใหม่ พร้อมเพิ่มโฟกัสช่องทางออนไลน์-ดีลิเวอรี่ เน้นโปรฯแรง-ส่งฟรีกระตุ้นตลาด ตั้งเป้ารายได้ 20 ล้านบาทต่อปี

ดร.โอฬาร โชว์วิวัฒนา ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริษัท ฟรีสแลนด์คัมพิน่า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายนมพร้อมดื่ม “โฟร์โมสต์” (Foremost) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้อุตสาหกรรมนมพาณิชย์หรือนมพร้อมดื่มที่มีมูลค่าราว ๆ 50,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตที่ชะลอตัว ซึ่งเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อ รวมถึงคนไทยยังมีอัตราการดื่มนมในปริมาณน้อยมากเฉลี่ยเพียงคนละประมาณ 18 ลิตรต่อคนต่อปี หรือสัปดาห์ละ 2 แก้วเท่านั้น

โดยคาดการณ์ว่าปี 2564 ผู้ประกอบการทั้งรายเล็กและรายใหญ่ที่อยู่ในตลาดจะเดินหน้าผลักดันให้เติบโตได้ระดับหนึ่ง โดยหลัก ๆ จะเป็นการมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์รสชาติใหม่ ๆ ออกสู่ตลาด ควบคู่กับการผลิตคอนเทนต์ในลักษณะของบทความเพื่อสื่อสารให้ผู้บริโภคหันมาดื่มนมมากขึ้น

สำหรับกลยุทธ์และแผนงานในปี 2564 บริษัทมีแผนจะลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์และช่องทางการจัดจำหน่าย ที่ปัจจุบันครอบคลุมร้านค้าทั่วประเทศ และมีหน่วยรถของตัวเองเข้าถึงร้านค้ากว่า 1.2 แสนร้าน ตลอดจนการพัฒนาสินค้า นวัตกรรมรสชาติใหม่ โดยอยู่ระหว่างการเตรียมลงทุนระบบดิจิทัล ดาต้า เพื่อนำมาใช้วิเคราะห์ความต้องการของผู้บริโภคเฉพาะบุคคลมากขึ้น ปัจจุบันโฟร์โมสต์มีสินค้าหลากหลาย ได้แก่ นมยูเอชที นมเปรี้ยว และโยเกิร์ต

ควบคู่กับการทำกิจกรรมทางการตลาดที่จะมุ่งสื่อสารการตลาดแบบ 360 องศา และอาจจะนำพรีเซ็นเตอร์เข้ามาช่วยสื่อสารแบรนด์ พร้อมจัดโปรโมชั่นกระตุ้นกำลังซื้อ เน้นสื่อสารผ่านออนไลน์เป็นหลัก จากเดิมจะเน้นโฆษณาทางทีวี รวมถึงการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายในร้านค้าไฮเปอร์มาร์เก็ตทั่วประเทศ เพื่อมุ่งให้กลุ่มเป้าหมายได้เกิดประสบการณ์ตรงกับผลิตภัณฑ์ รวมทั้งมีแผนจะเน้นการเพิ่มน้ำหนักช่องทางขายดีลิเวอรี่มากขึ้น ขณะนี้ได้นำสินค้าเข้าไปขายในแพลตฟอร์มลาซาด้า ช้อปปี้ และเจดี เซ็นทรัล รวมถึงเฟชบุ๊กเพจ Foremost Thailand

จากนี้จะทยอยเพิ่มช่องทางขายออนไลน์ขึ้น และยังมีการจัดโปรโมชั่นอยู่เป็นระยะ ๆ เช่น นมโฟร์โมสต์ ลดราคาสูงถึง 50% เก็บคูปองการสั่งลดเพิ่มอีก 300 บาท และมีบริการส่งฟรีเมื่อสั่งซื้อครบ 99 บาทขึ้นไป

ดร.โอฬารกล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ บริษัทยังเดินหน้าสนับสนุนโครงการพัฒนาโคนมและคุณภาพน้ำนมผ่านกิจกรรม “เกษตรกรพบเกษตรกร” เพื่อถ่ายทอดความรู้ความเชี่ยวชาญจากเกษตรกรโคนมชาวเนเธอร์แลนด์ เป็นการสร้างความพร้อมเกษตรกรโคนมไทยให้มีศักยภาพและพัฒนานมให้มีคุณภาพและมีราคาที่แข่งขันได้ในตลาดโลก ล่าสุดมีเกษตรกรเข้าร่วมกว่า 14,000 ราย

อย่างไรก็ตาม โฟร์โมสต์ตั้งเป้ารายได้เพิ่มขึ้นทุก ๆ ปี และมั่นใจว่าภายในสิ้นปีนี้จะสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากปัจจัยสนับสนุนในด้านต่าง ๆ ทั้งการทำการตลาดผ่านสื่อโฆษณาทุกช่องทาง การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายตลอดทั้งปี ทั้งนี้ ในปัจจุบันผลิตภัณฑ์นมภายใต้แบรนด์โฟร์โมสต์ประกอบไปด้วยนมหลากหลายชนิด ที่มุ่งตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ทั้งนมยูเอชที และนมพาสเจอไรซ์ ที่จะสามารถไดรฟ์ตลาดให้เติบโตขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทครองส่วนแบ่งตลาดนมพร้อมดื่มยูเอชทีมากกว่า 50%

ดร.โอฬารกล่าวในตอนท้ายว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้นรอบ 2 ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของบริษัทที่ต้องเพิ่มระบบความเข้มงวด เรื่องมาตรการความปลอดภัย คุณภาพ และมาตรฐาน ทั้งในส่วนของโรงงาน ซัพพลายเชน และพนักงาน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภค อีกทั้งยังต้องปรับตัวตามพฤติกรรมลูกค้า หลังจาก 5 จังหวัด สมุทรสาคร ระยอง ชลบุรี จันทบุรี และตราด ได้กลายเป็นพื้นที่ควบคุมขั้นสูงสุด โดยเริ่มมองเห็นการเปลี่ยนแปลงของช่องทางขายในแต่ละจังหวัดนั้น ๆ เนื่องจากผู้คนเดินทางออกจากบ้านลดลง

ทำให้อัตราการบริโภคสินค้าและการจับจ่ายลดลงตามไปด้วย แต่ในทางกลับกันช่องทางขายออนไลน์ดีลิเวอรี่ได้รับการตอบรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ยังต้องเผชิญกับการแข่งขันในทุก ๆ ช่องทางขาย โดยปัจจุบันผลิตภัณฑ์นมพร้อมดื่มจะขายดีในช่องทางโมเดิร์นเทรด และหลัง ๆ มาช่องทางขายอีคอมเมิร์ซกำลังได้รับความนิยม เนื่องจากสะดวกและตอบโจทย์ผู้บริโภคในการจัดส่ง โดยเจ้าของแบรนด์จะเน้นแข่งขันในแง่ของการพัฒนาโปรดักต์ นวัตกรรม และแพ็กเกจจิ้งที่แปลกใหม่ ออกมาสร้างสีสันให้กับตลาด