เปิด 6 แนวทาง ทางรอดธุรกิจช่วงวิกฤตโควิด “กรุ๊ปเอ็ม” แนะนักการตลาด

กรุ๊ปเอ็ม.

กรุ๊ปเอ็ม แนะ 6 แนวทาง ทางรอดธุรกิจ ชี้นักการตลาดควรเร่งขยายช่องทางขาย ยิงโฆษณาเจาะกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน ใช้ดาต้าให้คุ้มค่า เตรียมแผนสำรอง ติดตามสถานการณ์แบบเรียลไทม์

วันที่ 23 มกราคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการกลับมาแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ เมื่อช่วงเดือนธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา แม้จะยังไม่หยุดกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่าง ๆ แต่ก็ยังส่งผลกระทบต่อภาพรวมธุรกิจในวงกว้าง

ล่าสุด บริษัท กรุ๊ปเอ็ม (ประเทศไทย) จำกัด กลุ่มมีเดียเอเยนซี่แถวหน้าของประเทศไทย แนะนักการตลาดถึง 6 แนวทาง ทางรอดธุรกิจ ฝ่าวิกฤตโควิด-19 โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1.เร่งขยายช่องทางจัดจำหน่ายออนไลน์ให้เหมาะสมกับธุรกิจ ในช่วงการแพร่ระบาดนั้นผู้บริโภคกว่า 89% ใช้เวลาไปกับการการซื้อของออนไลน์มากขึ้น อีกทั้งเพื่อความอยู่รอด หลายอุตสาหกรรมต่างปรับตัวสร้างช่องทางจำหน่ายบนตลาดออนไลน์ของตัวเอง ส่งผลให้อุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซในภาพรวมปี 2020 สูงขึ้นถึง 35%

ทั้งนี้ จากบทเรียนการระบาดโควิด-19 ระลอกแรก ส่งผลให้ผู้บริโภคไทยคุ้นชินกับการซื้อของทางออนไลน์ไปโดยปริยาย ฉะนั้น จึงเป็นโอกาสสำหรับธุรกิจที่เคยสร้าง eco system การจำหน่ายทางออนไลน์ให้ตนเองไปแล้วได้ลงทุนเพิ่มขึ้น เพื่อต่อยอดการสร้างโอกาสในการขายอย่างมีประสิทธิภาพ

โดยปัจจุบันนักการตลาดควรมองหาแพลตฟอร์มช่องทางขายใหม่ ๆ อาทิ ออนไลน์มาร์เก็ตเพลส ที่ตอบโจทย์กับสินค้า รวมถึงการหาพาร์ตเนอร์ที่สามารถขยายช่องทางเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ ได้ หรืออาจใช้โซเชียลคอมเมิร์ซ โดยร่วมมือกับ Influencer เพื่อสร้างยอดขาย

2.เพิ่มการลงทุนในช่องทางที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างจำเพาะเจาะจง ปัจจุบันผู้บริโภคเสพคอนเทนต์ในหลายแพลตฟอร์มากยิ่งขึ้น ดังนั้นการซื้อสื่อทีละแพลตฟอร์มจึงไม่ตอบสนองการเข้าถึงผู้บริโภคและสร้างความน่าสนใจอย่างทันท่วงที

ทั้งนี้ นักการตลาดควรลงลงทุนเพื่อสื่อสารให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย โดยอาจใช้เทคโนโลยีอย่าง Programmatic ที่มี AI วิเคราะห์ข้อมูลและยิงโฆษณาให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีความสนใจเดียวกันในแพลตฟอร์มที่ต่างกัน ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าและคุ้มค่ากว่าการลงทุนแบบแยกทีละแพลตฟอร์ม

3. Data Driven เลือกใช้กลยุทธ์ที่การันตีผลลัพธ์ ธุรกิจต่าง ๆ มีบทเรียนจากการแพร่ระบาดครั้งที่แล้ว และหันไปพึ่งแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น ทำให้เกิดการแข่งขันอย่างดุเดือดเพื่อแยกลูกค้ากันในแต่ละแพลตฟอร์ม พื้นฐานของการตลาดแบบ Data Driven เป็นแข่งกันว่าใครใช้ Data เก่งกว่ากัน และไม่ได้จำกัดอยู่ที่การยิงโฆษณา แต่เป็นการทำ Promotion การใช้ Performance Marketing และการทำ Personalisation รวมไปถึงการทำ CRM ที่มีประสิทธิภาพเพื่อสร้างโอกาสเพิ่มยอดขาย

สิ่งสำคัญของแบรนด์และนักการตลาดคือการหาพาร์ตเนอร์ที่มีความสามารถในการช่วยแปลง Data ให้กลายเป็นความรู้ที่สามารถสร้างข้อได้เปรียบในการวางแผนกลยุทธ์การขาย เพราะสามารถเลือกทำกลยุทธ์ได้หลายแบบ ทั้งในเรื่องของ ราคา การจัด Promotion การหาลูกค้าเพิ่มจากแพตลฟอร์มใหม่ อีกทั้งแบรนด์ใหญ่ ๆ ยังสามารถสร้างข้อได้เปรียบจากการใช้สื่อที่มี Outcome guaranteed

4.แบรนด์ต้องไม่หยุดสร้าง Brand Awareness แม้การแข่งเรื่องโปรโมชัน ราคา จะรุนแรงขึ้น แต่แบรนด์ใหญ่ต้องไม่ลดการลงทุนสื่อเพื่อสร้างการจดจำ ซึ่งเป็นโอกาสในการเข้าถึงผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเพิ่มความมั่นใจและเชื่อใจในระยะยาว อีกทั้งเป็นการลดโอกาสในการถูกคู่แข่งแย่งผู้บริโภคไปในการแข่งขันเรื่องราคา และโปรโมชันที่เข้มข้นขึ้น

สำหรับแบรนด์หน้าใหม่ ช่วงนี้เป็นโอกาสอันดีที่จะการเข้าถึงผู้บริโภคที่อยู่บ้านและมีเวลารับสื่อมากขึ้น โดยเฉพาะสื่อ offline อย่างโทรทัศน์ หรือการเลือกใช้ Influencer Marketing เพื่อสร้างการจดจำ รวมถึงมีโอกาสสร้างยอดขายมากขึ้นตามไปด้วย

5.ตามติดสถานการณ์แบบเรียลไทม์จากภาครัฐ การติดตามสถานการณ์อย่างรวดเร็วจะทำให้นักการตลาด ปรับตัว และสร้างโอกาสที่เกิดขึ้นจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงได้เร็วยิ่งขึ้น


6.เตรียมแผนไว้รองรับเหตุกาณ์ไม่คาดฝันเสมอ ควรมีแผนสำรองในกรณีฉุกเฉิน รวมถึงมีการทำงานอย่างยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า