“ลองจินส์” แก้เกมนาฬิกาหรูซบ เพิ่มดีกรีเจาะผู้หญิง-ออนไลน์

ตลาดนาฬิกาหรูกร่อย หลังโควิด-19 กระทบงานแฟร์ “ลองจินส์” ไม่ง้อมหกรรมนาฬิกาโลก ซุ่มพัฒนาแพลตฟอร์มจัดงานแฟร์ออนไลน์ ซื้อ-ขายได้ทั่วโลก พร้อมเปิดแผนลุยตลาดเมืองไทย เพิ่มน้ำหนักนาฬิกาผู้หญิง ประกาศชูผ่อน 0% สู้พิษเศรษฐกิจ-กำลังซื้อแผ่ว คนชะลอจับจ่าย เตรียมเปิด official boutique ช่วงไตรมาส 3-4 ตั้งเป้าดันไทยขึ้นท็อป 3 เอเชีย

นายธภัทร กุลสิรินันท์ ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ลองจินส์ ประเทศไทย ในเครือบริษัท เดอะ สวอท์ช กรุ๊ป เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายนาฬิกาหรู “ลองจินส์” เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปีนี้ถือเป็นปีที่ท้าทายในการทำตลาดนาฬิกามาก เนื่องมาจากได้รับปัจจัยลบในหลายด้าน โดยเฉพาะการระบาดของโควิด-19 ที่กำลังกระทบภาพรวมธุรกิจทั่วโลกชะลอตัวลงไป โดยในส่วนของตลาดนาฬิกาหรูที่ไม่สามารถจัดงานแฟร์ หรืองานมหกรรมนาฬิการะดับโลก ที่เป็นช่วงทางสำคัญในการเปิดตัวคอลเล็กชั่นใหม่และขยายฐานลูกค้า ที่งดจัดงานตั้งแต่ปีที่ผ่านมา

โดยในส่วนของลองจินส์เองหลังจากบริษัทแม่ได้มีการแต่งตั้งซีอีโอคนใหม่ มร.แมทธิอาส เบรสชัน (Matthias Breschan) เข้ามาบริหารงานก็มีการปรับนโยบายและแผนการดำเนินงาน โดยจะให้ความสำคัญกับการชูเรื่องราวของแบรนด์ผ่านความโดดเด่นในเรื่องความเก่าของแบรนด์กว่า 180 ปี ถือเป็นอันดับ 3 ของโลก ผ่านการเล่าเรื่องราว 3 ทศวรรษของแบรนด์ในการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมาย ผ่านเรื่องราวมนต์ขลังของแบรนด์ที่มีความเก่าแก่แต่ร่วมสมัย และดีไซน์ที่ตอบโจทย์ลูกค้าในยุคปัจจุบัน รวมทั้งหันมาให้ความสำคัญและมีการทำการตลาดในช่องทางออนไลน์มากขึ้น

โดยได้มีการพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์ของบริษัทเองขึ้นมา เพื่อใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร จัดงานแฟร์ออนไลน์ รวมถึงการซื้อขายสินค้าของแบรนด์ได้ในทั่วโลก โดยไม่ต้องเดินทางไปถึงงานแฟร์หรือหน้าร้าน โดยเตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการภายในปีนี้

นายธภัทรกล่าวต่อไปว่า ส่วนในประเทศ ขณะนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างการจับตาดูสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ซึ่งหากสถานการณ์คลี่คลายลง บริษัทก็จะยังให้ความสำคัญกับช่องทางที่เป็นหน้าร้าน แต่หากสถานการณ์ลากยาว บริษัทก็จะมีการนำแพลตฟอร์มออนไลน์เข้ามาใช้เพื่อรองรับสถานการณ์ด้วย นอกจากนี้ แผนการตลาดในประเทศหลังจากช่วงปลายเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมาได้เปิดตัวคอลเล็กชั่นใหม่ “สปิริต” เป็นนาฬิกาสำหรับนักบิน ในกลุ่มสปอร์ตพรีเมี่ยม ระดับราคาตั้งแต่ 70,000-100,000 บาท

ชูจุดเด่นที่ความร่วมสมัยของแบรนด์ ที่เกี่ยวกับการเล่าเรื่องราวของนักบุกเบิกที่เล่าเรื่องราวที่ใช้แบรนด์มา 50 ปี โดยการสื่อสารการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ และทำ pop up space หรือ “Longines Spirit Pop-up at Central World” ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ไปจนถึงช่วงกลางปีนี้ โดยได้รับกระแสตอบรับจากกลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างดี

นอกจากนี้ยังมีแผนเปิดตัวคอลเล็กชั่นใหม่ที่เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าผู้หญิงมากขึ้น หลังจากช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ลองจินส์ประสบความสำเร็จในเรื่องของนาฬิกาผู้ชายเป็นอย่างมาก จนทำให้หลายคนเข้าใจว่าเป็นแบรนด์นาฬิกาสำหรับผู้ชาย ดังนั้น ในปีนี้จึงมีแผนรุกตลาดนาฬิกาผู้หญิงผ่านดีไซน์ที่หลากหลายเพื่อขยายไปยังลูกค้ากลุ่มดังกล่าว ซึ่งตั้งแต่ปีที่ผ่านมาพอร์ตสินค้าของบริษัทเริ่มจับกลุ่มผู้หญิงมากขึ้น และจากการทำการตลาดเชิงรุกที่เน้นเจาะกลุ่มผู้หญิง บริษัทวางเป้าหมายสัดส่วนยอดขายผู้ชาย 50% และผู้หญิง 50% ในอนาคต จากสิ้นปีนี้ที่คาดว่าสัดส่วนผู้ชายจะอยู่ที่ประมาณ 60% ผู้หญิง 40%

นอกจากนี้ยังมีการจัดแคมเปญโปรโมชั่นร่วมมือกับบัตรเครดิต ผ่อน 0% นาน 6 เดือน และสูงสุด 10 เดือน เพื่อรองรับพฤติกรรมลูกค้าในปัจจุบันที่จับจ่ายน้อยลง คิดมากขึ้น และไม่อยากจ่ายเงินจำนวนมากในครั้งเดียว เนื่องจากยังกังวลเรื่องของเศรษฐกิจและกำลังซื้ออยู่ และชะลอการจับจ่าย ตัดสินใจซื้อสินค้าที่มีราคาแพงมากยากขึ้น โดยหากสังเกตจะเห็นว่าขณะนี้มีหลาย ๆ ค่ายในกลุ่มแบรนด์พรีเมี่ยมเจาะตลาดกลาง-บน เริ่มหันมาจัดแคมเปญเรื่องราคาและการผ่อนจ่ายมากขึ้น พร้อมทั้งแตกไลน์สินค้าใหม่ที่ระดับราคาลดลง คู่ขนานกับสินค้าไฮเอนด์ของแบรนด์

พร้อมกันนี้ยังมีแผนเปิด official boutique โมเดลใหม่แห่งแรกในอาเซียนอีก 1 สาขาในช่วงไตรมาส 3-4 นี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการมองหาโลเกชั่นที่เหมาะสม โดยประเทศไทยถือเป็นประเทศลำดับต้น ๆ ของโลกที่เปิดสาขารูปแบบใหม่ดังกล่าว โดยโมเดลใหม่นี้จะเปิดตัวในสวิตเซอร์แลนด์ในช่วงไตรมาส 3 หลังจากนั้นประเทศไทยก็จะเปิดตัวตาม ปัจจุบันลองจินส์มี 25 สาขาในห้างสรรพสินค้าและการจำหน่ายในช่องทางออนไลน์ Shopee, Lazada

โดยอีก 6 เดือนข้างหน้าบริษัทมีแผนเปิดตัวเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของบริษัท เพื่อรองรับแนวโน้มช็อปปิ้งออนไลน์ที่มีการเติบโตเป็นอย่างมาก โดยปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนยอดขายมาจากออฟไลน์ 95% และออนไลน์ 5% ซึ่งหลังจากมีการโฟกัสการทำตลาดออนไลน์มากขึ้น สัดส่วนยอดขายจากออนไลน์จะเพิ่มเป็น 10% และออฟไลน์ 90%

“ประเทศไทยถือเป็นประเทศหลักที่บริษัทแม่ที่สวิตเซอร์แลนด์ให้ความสำคัญจากศักยภาพของการเติบโตภายในประเทศและการเป็นฮับของภูมิภาคอาเซียน โดยปัจจุบันลองจินส์ประเทศไทยติดท็อป 10 ของลองจินส์ทั่วโลก และเป็นเบอร์ 1 ในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งปีนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบริษัทก็พร้อมลงทุน เนื่องจากมองว่าไทยสามารถก้าวขึ้นสู่ท็อป 3 ของลองจินส์ในเอเชียได้ จากปัจจุบันที่ประเทศจีนเป็นเบอร์ 1”