MBK เติมแม็กเนตดึงคนรุ่นใหม่ คว้า “ดองกิ” แทนโตคิวเล็งต่อสัญญา 20 ปี

ภาพประกอบข่าว MBK

“เอ็มบีเค” รีโนเวตครั้งใหญ่-จัดโซนนิ่งใหม่ ดึงแม็กเนตใหม่ “ดองกิ” ร้านในเครือสหพัฒน์ “ไอ.ซี.ซี.-โอซีซี-ซูรูฮะ” เสียบแทน “โตคิว” พร้อมขนทัพสถาบันกวดวิชา ร้านอาหารดัง ช่วยเพิ่มทราฟฟิก-ขยายฐานกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เผยแผนเตรียมเจรจา สน.ทรัพย์สินจุฬาฯ ต่อสัญญาเช่าอีก 20 ปี

นายสมพล ตรีภพนารถ กรรมการผู้จัดการธุรกิจศูนย์การค้า บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากห้างสรรพสินค้าโตคิวได้ปิดตัวลง บริษัทจะทำการรีโนเวตครั้งใหญ่ในรอบ 36 ปี เพื่อพลิกโฉมสู่ความเป็นศูนย์การค้าเอ็มบีเคยุคใหม่ โดยมีการปรับเปลี่ยน จัดโซนนิ่งและพื้นที่ภายในใหม่ เพื่อให้ง่ายและสะดวกต่อการเดินช็อปปิ้ง รองรับความต้องการได้อย่างตรงจุด โดยจะมีการจัดวางผังร้านค้าใหม่ (store layout) เพิ่มเติมร้านค้าและบริการใหม่ ๆ ทั้งกลุ่มร้านอาหารสำหรับครอบครัวและพบปะสังสรรค์ ร้านจำหน่ายสินค้ากีฬาจากแบรนด์ดังทั่วโลก ร้านเพื่อสุขภาพและความงาม ร้านเครื่องประดับเพชรทอง เพื่อรองรับกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ ทั้งวัยทำงาน นักเรียน นักศึกษา และกลุ่มครอบครัว

นายสมพลกล่าวว่า การรีโนเวตครั้งนี้จะเริ่มจากในส่วนของพื้นที่ห้างโตคิวเดิม โดยชั้น 1 จะจับมือกับเครือสหพัฒน์ทั้งในส่วนของ ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล และ โอซีซี และร้านค้าปลีกยาและความงาม “ซูรูฮะ” ที่จะเปิดตัวโมเดลใหม่ในช่วงกลางปีนี้ ส่วนชั้น 2 จะมีร้าน DON DON DONKI หรือร้านดองกิ มาเปิดแทน บนพื้นที่กว่า 3,000 ตร.ม. และจะเป็นแฟลกชิปสโตร์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และเน้นบริการสินค้าในกลุ่มอาหารเป็นหลัก ส่วนพื้นที่ชั้น 3 อยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรยักษ์ใหญ่ 2 ราย, ชั้น 4 เน้นเปิดเป็นโซนสินค้าไอทีที่เชื่อมในส่วนของศูนย์ MBK กับพื้นที่โตคิวเดิมไว้ด้วยกัน คาดว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงไตรมาส 3 นี้ ประมาณ 80% และจะเปิดเต็ม 100% ในช่วงปลายปี

สำหรับในส่วนของศูนย์การค้าเอ็มบีเค บริเวณชั้น 1 จะเป็นการเปิดพื้นที่ศูนย์อาหารตั้งแต่ฝั่งพญาไทไปจนถึงโรงแรมปทุมวัน โดยจะมีร้านอาหารต่าง ๆ เช่น ร้านอาหารไทย “ป้อน”, ร้านบ้านคุณแม่, ร้านกาแฟทิม ฮอร์ตันส์, ร้านชินคันเซ็น ซูชิ ที่เปิดให้บริการตั้งแต่เช้าจนถึงตี 1 และยังมีแบรนด์ชั้นนำอีกมากมาย ส่วนร้านที่มีอยู่เดิมจะมีการย้ายพื้นที่เพื่อขยายร้านเพื่อพัฒนาร้านรูปแบบใหม่ เช่น ฮองมิน, S&P โมเดลใหม่ ซึ่งขณะนี้มีบางโซนทยอยเปิดให้บริการแล้ว ได้แก่ Learning Hub ศูนย์สถาบันกวดวิชาที่มีกว่า 24 สถาบัน ชั้น 4, 5, 6 โดยทยอยเปิดที่ชั้น 5 ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ อาทิ ออนดีมานด์, ดาว๊องซ์, ซุป เค ฯลฯ ส่วนสถาบันอื่น ๆ ที่อยู่ชั้น 4 และ 6 นั้นจะเริ่มทยอยเปิดในเดือนมีนาคมและเมษายนนี้ นอกจากนี้ยังมีโซนกินดื่มบริเวณชั้น 2 ที่จะเน้นเจาะกลุ่มพนักงานออฟฟิศในย่านได้เพิ่มมากขึ้น

นอกจากนี้ยังมีการปรับสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มด้วย โดยมีลิฟต์แก้วตัวใหม่บริเวณหน้าโตคิว พร้อมทั้งปรับบันไดเลื่อนใหม่ 8 จุด ทั้งหมดนี้ใช้งบฯรวมไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท รวมทั้งจะมีการสร้างสะพานลอยเพื่อเชื่อมเข้าตัวอาคารโดยตรงด้วย


“เราเหลือสัญญาเช่าพื้นที่ 13 ปี และมีแผนจะเจรจากับสำนักทรัพย์สินจุฬาฯ เพื่อต่อสัญญาเช่าอีก 20 ปี เพื่อวางแผนการดำเนินงานระยะยาว หลังจากการปรับโฉมในครั้งนี้ รวมถึงการมีแม็กเนตใหม่ เช่น ดองกิ มั่นใจว่าจะสามารถรองรับความต้องการของคนในย่านรวมถึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติได้เพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันก็จะช่วยขยายกลุ่มลูกค้าให้มีอายุลดลง เนื่องจากมีสถาบันกวดวิชา โคเวิร์กกิ้งสเปซมาเสริม” นายสมพลกล่าว