เซ็นทรัล ไม่หวั่นโควิดกระทบกำไรหด 19% ประกาศแผน 5 ปีลงทุนโครงการใหม่

“เซ็นทรัลพัฒนา” ไม่หวั่นโควิดกระทบกำไรวูบ 19% ประกาศแผนลงทุนระยาว 5 ปี เดินเครื่องโครงการใหม่ทั้งในไทยและอาเซียน พร้อมมองหาโอกาสใหม่ทางธุรกิจในภูมิภาค ขณะที่ศูนย์หลักในไทย ทั้ง เซ็นทรัลพลาซา อยุธยา และ เซ็นทรัลพลาซา ศรีราชา กำหนดเปิดปลายปีนี้แน่นอน

วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เซ็นทรัลพัฒนา หรือ ซีพีเอ็น รายงานผลประกอบการประจำปี 2563 มีรายได้รวม 32,062 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 9,557 ล้านบาท สะท้อนการบริหารงานอย่างมืออาชีพในการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์รับมือกับสถานการณ์โควิด-19 และบริหารจัดการต้นทุนค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง

พร้อมทั้งดูแลร้านค้าผู้เช่าอย่างต่อเนื่อง ทั้งเดินหน้าลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ตามแผนที่วางไว้ โดยโครงการใหม่ที่เตรียมเปิดตัวในปีนี้ ได้แก่ เซ็นทรัลพลาซา อยุธยา และ เซ็นทรัลพลาซา ศรีราชา

นางสาวนภารัตน์ ศรีวรรณวิทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงิน บัญชี และบริหารความเสี่ยงของเซ็นทรัลพัฒนา เปิดเผยว่า ปี 2563 เป็นปีที่ท้าทายในการทำธุรกิจ เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 ที่กระทบเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมเป็นวงกว้าง

ส่งผลให้บริษัทมีรายได้รวม 32,062 ล้านบาท ลดลง 17% และมีกำไรสุทธิ 9,557 ล้านบาท ลดลง 19% จากปีก่อน แม้ว่าผลการดำเนินงานจะมีรายการที่มิได้เกิดขึ้นเป็นประจำและผลกระทบจากมาตรฐานรายงานทางการเงินใหม่ แต่ในภาพรวมนั้นบริษัทได้บริหารจัดการอย่างสุดความสามารถ เพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้นจากโควิด-19

ขณะที่การระบาดของโควิด-19 ระลอกที่โดยรวมแล้วผลกระทบถือว่าไม่มากเท่าการระบาดรอบแรก และปัจจุบันเริ่มเห็นแนวโน้มการฟื้นตัวที่ดีขึ้นในหลายศูนย์การค้า โดยบริษัทได้มีการปรับกลยุทธ์ในการกระจายความเสี่ยงไปในธุรกิจต่าง ๆ อีกทั้งกระตุ้นการจับจ่ายของผู้บริโภคผ่านกิจกรรมทางการตลาดต่าง ๆ และปรับรูปแบบการจัดกิจกรรมอีเว้นท์ในรูปแบบใหม่

เช่น งานเคานต์ดาวน์รูปแบบใหม่ผ่านออนไลน์ และถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ และที่สำคัญปีนี้ยังได้รับเลือกเป็นสมาชิกดัชนีความยั่งยืนระดับโลก DJSI โดยเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายแรกและรายเดียวในประเทศไทยในกลุ่ม DJSI World เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน และ DJSI Emerging Markets เป็นปีที่ 7 ติดต่อกัน

ขณะที่แนวทางการดำเนินธุรกิจในอนาคต ในฐานะภาคเอกชนรายใหญ่ บริษัทยังคงเดินหน้าลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ตามแผนระยะยาวที่วางไว้ เพื่อช่วยขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจไทยให้ยังคงเดินหน้าต่อไป เกิดการจ้างงาน และมีรายได้หมุนเวียนในประเทศ โดยโครงการมิกซ์ยูสที่อยู่ระหว่างการพัฒนา

ได้แก่ เซ็นทรัลพลาซา อยุธยา และเซ็นทรัลพลาซา ศรีราชา (กำหนดเปิดปี 2564) เซ็นทรัลพลาซา จันทบุรี (กำหนดเปิดปี 2565) และโครงการ ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค ที่ร่วมพัฒนากับบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) บนทำเลทอง “ซุปเปอร์คอร์ ซีบีดี” ในกรุงเทพฯ ซึ่งจะทยอยเปิดให้บริการในปี 2566-2567 เป็นต้นไป

สำหรับแผนการลงทุนและเป้าหมายทางธุรกิจในระยะ 5 ปี (ปี 2564-2568) บริษัทได้มีการปรับกลยุทธ์ให้เหมาะกับสถานการณ์ และยังคงเดินหน้าลงทุนอย่างต่อเนื่องในแผนพัฒนาโครงการใหม่ที่ยังไม่ได้ประกาศ ทั้งโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบผสม โครงการที่พักอาศัย รวมถึงแผนการปรับปรุงสินทรัพย์ที่มีอยู่ในปัจจุบันเพื่อเพิ่มมูลค่า ควบคู่กับการศึกษาโอกาสการลงทุนธุรกิจในรูปแบบอื่น การเข้าซื้อกิจการ และการลงทุนในต่างประเทศในแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

อาทิ มาเลเซีย และเวียดนาม รวมถึงศึกษาโอกาสการลงทุนในธุรกิจใหม่ที่มีศักยภาพการเติบโตสูงเพื่อขยายช่องทางในการสร้างรายได้ใหม่ และสอดคล้องกับแผนการเติบโตตามเป้าหมายในอนาคตอย่างมั่นคงและยั่งยืน