อย.เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อการชักชวนให้ปลูกกัญชงในเชิงพาณิชย์ ยันไม่มีบริษัท-เกษตรกรรายใด ยื่นเอกสารขออนุญาตนำเข้าเมล็ดพันธุ์กัญชง
นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีเกษตรกรสนใจปลูกกัญชงเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรมเป็นจำนวนมาก จนมีการรวบรวมเกษตรกรที่ต้องการปลูกกัญชงในหลายจังหวัด
- เรือสิงคโปร์ชนสะพานในสหรัฐ มีประวัติไม่ดีมาก่อน เรารู้อะไรแล้วบ้างตอนนี้ ?
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 1 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
- ออมสิน ฉลองครบวาระ 111 ปี จัดเต็ม สลากออมสินลุ้นรางวัลใหญ่ 111 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม อย.ขอยืนยันว่า ปัจจุบันยังไม่มีบริษัทหรือเกษตรกรรายใด ยื่นขออนุญาตนำเข้าเมล็ดพันธุ์กัญชง เพื่อปลูกหรือขายแต่อย่างใด
“การประชุมคณะกรรมการยาเสพติดให้โทษ เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เป็นเพียงการอนุญาตให้บริษัท จำนวน 7 บริษัท เป็นผู้มีคุณสมบัตินำเข้าเมล็ดพันธุ์ แต่ยังไม่มีใครได้รับอนุญาตให้นำเข้า เนื่องจากการนำเข้าในแต่ละครั้ง ต้องได้รับใบอนุญาตทุกครั้งที่นำเข้าด้วย และยังไม่มีบริษัทได้รับอนุญาตให้ปลูกกัญชง
เนื่องจากการขออนุญาตปลูกกัญชง จะต้องแจ้งที่มาของแหล่งเมล็ดพันธุ์ สายพันธุ์ และจำนวนเมล็ดพันธุ์ ที่จะปลูก รวมถึงเมื่อเก็บผลผลิตได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นปลูกเพื่อเก็บเมล็ดสกัดน้ำมัน หรือปลูกเพื่อเก็บช่อดอกไปสกัดสารสำคัญ จะนำส่งให้โรงงานใดเป็นผู้รับซื้อ ต้องแจ้งให้ครบถ้วน”
ทั้งนี้ อย. มีนโยบายอำนวยความสะดวกแก่ผู้ขอนุญาตนำเข้าเมล็ดพันธุ์ และเกษตรกรขออนุญาตปลูก ตลอดจนผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรม ที่จะนำผลผลิตจากกัญชงไปผลิตสินค้าต่าง ๆ เพื่อให้กัญชงเป็นพืชเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้เกษตรกร แต่ต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายทุกขั้นตอน
อย่างไรก็ดี สำหรับผู้ที่สนใจจะปลูก และทำธุรกิจเกี่ยวกับกัญชง ต้องติดต่อขออนุญาตด้วยตนเอง ไม่สามารถใช้ใบอนุญาตเป็นกลุ่ม เป็นเครือข่าย หรือนำใบอนุญาตของบุคคลอื่นมาสวมได้ เพราะจะต้องระบุพื้นที่ปลูกชัดเจน เปลี่ยนพื้นที่ปลูกไม่ได้ และต้องปลูกตามระยะเวลาที่ขออนุญาต
พร้อมกันนี้ ขอเตือนเกษตรกร ประชาชน ระวังถูกหลอกลวงจากผู้แอบอ้างว่าได้รับอนุญาตนำเข้าเมล็ดพันธุ์ ได้รับอนุญาตปลูก ให้เข้าร่วมเครือข่าย โดยต้องจ่ายเงินค่าเข้าร่วมเครือข่าย
รวมไปถึงผู้ประกอบการผลิตสินค้าต่าง ๆ ที่ต้องการใช้สารสกัดจากกัญชงเป็นส่วนผสมในอาหาร เครื่องดื่ม เครื่องสำอาง และยา ขอให้พิจารณาให้ดี เนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีโรงงานใดได้รับอนุญาตให้สกัดสารสำคัญ
นพ.ไพศาล กล่าวต่อไปว่า หากไม่แน่ใจ ขอให้สอบถามได้ที่ อย. หรือผ่านเว็บไซต์ www.fda.moph.go.th/Pages/HomeP_D2.aspx กดกัญชง รวมทั้งขอให้ผู้ที่สนใจปลูกและประกอบธุรกิจรีบเสนอขออนุญาต พร้อมเสนอแผนการผลิตที่เหมาะสมเข้ามาด้วย เพื่อที่คณะกรรมการจะได้พิจารณาอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ อย.ได้ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมวิชาการเกษตร อยู่ระหว่างจัดทำข้อมูลทางวิชาการการปลูกกัญชงเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม ในประเทศไทยเป็นการศึกษาวิจัยพัฒนาพันธุ์ที่เหมาะสมกับพื้นที่และอากาศ รวมไปถึงรูปแบบการปลูกที่เหมาะสมสำหรับประเทศไทย
นอกจากนี้ กรมวิชาการเกษตรจะพัฒนาสายพันธุ์ที่เหมาะกับประเทศไทย และจัดทำต้นกล้าจำหน่ายให้แก่เกษตรกร ด้วย เพื่อลดความเสี่ยงในการปลูกกัญชงให้แก่เกษตรกร ให้ได้ผลผลิตที่โรงงานต้องการในราคาที่เหมาะสม