“ฟู้ด แฟคเตอร์” ผุดโมเดล “ซานตา เฟ่ อีซี่” เน้นขายเร็ว-คุ้มค่า เด้งรับดีมานด์โต

“ฟู้ด แฟคเตอร์” สยายปีกธุรกิจ หลังเข้าลงทุนร้านซานตา เฟ่ สเต๊ก ประกาศ เปิดตัวโมเดลใหม่ “ซานตา เฟ่ อีซี่” ชูจุดขายเน้นเร็ว-ราคาคุ้มค่า พร้อมทุ่มงบ 100 ล้าน ปูพรมสาขาเกาะสถานีบริการน้ำมัน คอมมูนิตี้มอลล์รับโอกาสตลาดร้านอาหารโตต่อเนื่อง

นายปิติ ภิรมย์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัด (Food Factors) ฉายภาพว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน ตั้งแต่การทำอาหารทานเองที่บ้าน และสั่งซื้อสินค้าผ่านดีลิเวอรี่ ในส่วนของฝั่งผู้ให้บริการเริ่มหายไปจากตลาด เหลือแต่ผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มีสายป่านยาว และจะต้องเร่งปรับตัวอย่างรวดเร็ว

สำหรับ “ฟู้ด แฟคเตอร์” ในปีนี้จะมุ่งพัฒนาในส่วนของการบริการ พนักงานจะต้องแข็งแกร่ง และมีประสิทธิภาพ ตลอดจนการควบคุมคุณภาพอาหารให้เป็นไปในมาตรฐานเดียวกัน

เช่นเดียวกับ การเข้าร่วมลงทุนกับ บริษัท เคที เรสทัวรองท์ฯ ร้านซานตา เฟ่ สเต๊ก ถือเป็นการลงทุนเชิงกลยุทธ์ที่สอดรับกับยุทธศาสตร์หลักของกลุ่มบุญรอดบริวเวอรี่ จากแนวโน้มธุรกิจอาหารในไทยยังมีการเติบโต สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภค ที่วันนี้อาจมีรายรับลดลง ขณะที่รายจ่ายเพิ่มขึ้น โดยผู้บริโภคลุ่มนี้จะมองหาความคุ้มค่า และต้องการความสะดวกรวดเร็วมากขึ้น

ส่งผลให้ธุรกิจเซกเมนต์ร้านอาหารบริการด่วน (QSR) ตลอดจนธุรกิจร้านอาหารดีลิเวอรี่ และสั่งกลับบ้านเติบโตขึ้น โดยเฉพาะร้านอาหารประเภทสเต๊ก ยังคงได้รับความนิยมจากผู้บริโภคต่อเนื่อง จึงเป็นโอกาสและช่องว่างทางการตลาด สำหรับแบรนด์ ซานตา เฟ่ สเต๊ก ที่ต้องปรับตัวและต่อยอดจากธุรกิจเดิม จนแตกไลน์โมเดลร้านรูปแบบใหม่ ภายใต้ชื่อ “SANTA FE’ EASY” (ซานตา เฟ่ อีซี่) ชูจุดขายเน้นความรวดเร็วในราคาเข้าถึงง่าย

ADVERTISMENT

นายปิติ ย้ำว่า วันนี้ถือเป็นอีกก้าว สำหรับของกลุ่มธุรกิจฟู้ด แฟคเตอร์ ที่ได้ซานตาเฟ่ เข้ามาเป็น “จิ๊กซอว์” ชิ้นสำคัญในพอร์ตโฟลิโอ สิ่งสำคัญที่ต้องมองร่วมกัน ได้แก่ การรู้โมเดลที่ชัดเจน ทั้งจุดเด่น และจุดด้อย รวมถึงผลประกอบการ ซึ่งอยู่ในช่วงที่เราต้อง takeoff

ด้าน นายสุรชัย ชาญอนุเดช CEO บริษัท เคที เรสทัวรองท์ จำกัด กล่าวถึงโมเดล ร้านซานตา เฟ่ อีซี่ เปิดให้บริการร้านขนาดเล็ก ชูจุดขาย ความคุ้มค่า เมนูมากกว่า 40 รายการ ทั้งแบบจานเดี่ยว และ แบบเซ็ต มีราคาเข้าถึงง่าย เริ่มต้น 140 บาท ต่อคน ซึ่งโมเดลนี้ จะเน้นเปิดให้บริการในศูนย์การค้าขนาดเล็ก, คอมมูนิตี้มอลล์, สถานีบริการปั๊มน้ำมัน และสำนักงาน ล่าสุดได้เปิดให้บริการไป 2 สาขา สาขาแรกตั้งอยู่ที่ไลฟ์เซ็นเตอร์ อาคารคิวเฮ้าส์ ลุมพินี และสถานีบริการน้ำมัน เดอะเรส แอเรียท์ ปตท.ประชาชื่น

อีกทั้งโมเดลนี้จะช่วยต่อยอดการขยายร้านในรูปแบบแฟรนไชส์ได้ด้วย เนื่องจากรูปแบบร้านที่มีขนาดเล็ก เงินลงทุนต่ำ บริหารจัดการง่าย เมื่อเทียบกับร้านซานตา เฟ่ รูปแบบปกติ ที่เน้นเปิดให้บริการภายในศูนย์การค้าขนาดกลาง และขนาดใหญ่

สำหรับแผนการลงทุนปีนี้ ได้เตรียมงบไว้ราว ๆ 100 ล้านบาท เพื่อใช้ขยายสาขา แบ่งเป็น ร้านซานตา เฟ่ รูปแบบฟูลเซอร์วิส 140 ตารางเมตร จำนวน 9 แห่ง ตามด้วย ร้านซานตา เฟ่ อีซี่ 80-100 ตารางเมตร จำนวน 6 แห่ง และร้านเหม็งนัวนัว จำนวน 5 แห่ง หวังช่วยผลักดันแบรนด์ให้สามารถ เจาะกลุ่มเป้าหมายให้ครอบคลุมตลาดทั่วประเทศ

อย่างไรก็ตาม ภายในปี 2564 บริษัทฯ ต้องการพลิกรายได้กลับคืนมาเติบโต 30% หรือมีรายได้ประมาณ 1,800 ล้านบาท จากปี 2563 รายได้ลดลง 30% ซึ่งปัจจุบันซานตา เฟ่ ดำเนินธุรกิจอาหารมานานกว่า 17 ปี มีสาขาให้บริการกว่า 114 แห่งทั่วประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา จะเห็นภาพของ “บุญรอดบริวเวอรี่” ที่พยายามแตกไลน์ธุรกิจออกไปสู่กลุ่มใหม่ ๆ ที่หลากหลาย (diversify) เพื่อต่อยอดจากธุรกิจเบียร์ โซดา และน้ำดื่ม ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจบรรจุภัณฑ์บางกอกกล๊าส ธุรกิจระดับภูมิภาค (รีจินอล) ภายใต้ สิงห์ เอเชีย โฮลดิ้ง ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยสิงห์เอสเตท ธุรกิจซัพพลายเชน ภายใต้บุญรอด ซัพพลายเชน และธุรกิจอาหาร โดยฟู้ด แฟคเตอร์จากที่เคยพึ่งพิงอยู่แค่เสาหลักเดียว

วันนี้บุญรอดฯ มี 6 เสาหลัก ที่จะเป็นหัวหอกในการสร้างการเติบโตแบบรอบด้าน โดยเฉพาะ “ธุรกิจอาหาร” ที่พร้อมต่อยอดไปสู่การเติบโตใหม่ ๆ ในสปีดที่เร็วกว่าเดิม

ซานตา เฟ่