ถ้านับตามปณิธานของ สัมฤทธิ์ จิราธิวัฒน์ ผู้ก่อตั้งห้างเซ็นทรัล 70 ปีก่อน ที่อยากให้ เซ็นทรัล เป็นศูนย์กลางของคนที่มาใช้ชีวิตร่วมกัน จากจุดนั้นในระดับประเทศ กลายมาสู่ยุคโฉมใหม่ ทรานส์ฟอร์ม ของเซ็นทรัลสู่โมเดลที่เรียกว่า Centrality ในระดับโลก
ซึ่งทุกห้างที่เซ็นทรัลเข้าไปซื้อกิจการหรือร่วมทุนเป็นเจ้าของ ล้วนแต่อยู่ใจกลางเมือง เป็นแลนด์มาร์กของเมืองและรองรับนักท่องเที่ยว นำไปสู่ทิศทางธุรกิจของกลุ่มห้างเซ็นทรัล ที่เรียกว่า Aux Villes Du Monde หรือ Store of the City
ยุวดี จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจห้างสรรพสินค้า บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด ฉายภาพว่า ปีที่ 70 ของห้างเซ็นทรัลกำลังเดินหน้าเปลี่ยนผ่านธุรกิจ (ทรานสฟอร์ม) ครั้งใหญ่ให้สอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป และรองรับการขยายฐานลูกค้าไปกลุ่มมิลเลนเนียล หรือกลุ่มคนรุ่นใหม่เจนวาย และเจนแซด ที่กำลังจะเป็นฐานใหญ่ของตลาดในอนาคต
ปัจจุบันกลุ่มเซ็นทรัลได้ขยายไปทั้งในภูมิภาคและยุโรปเป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้าระดับ Luxury ในเมืองท่องเที่ยว 8 แห่ง ภายใต้ชื่อแบรนด์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นห้างเซ็นทรัล 22 สาขาในประเทศไทย เซน 1 แห่ง และเซ็นทรัล 2 สาขาในอินโดนีเซีย, ห้างโรบินสัน, เซ็นทรัล เอ็มบาสซี
ขณะที่แบรนด์ในยุโรป อาทิ ห้างสรรพสินค้าอิลลุ่ม Illum ในเดนมาร์ก, ห้างสรรพสินค้าอัลสแตร์เฮาส์ Alsterhaus, โอเบอร์โพลลิงเกอร์ Oberpolinger และคาเดเว้ Kadewe ในเยอรมนี และห้างสรรพสินค้า ลา รีนาเซนเต้ La Rinacente ในอิตาลี ซึ่งคอลเล็กชั่นลักเซอรี่นี้ รวมถึง 2 ห้างหลักในเมืองไทย คือ เซ็นทรัลชิดลม และเซ็นทรัล เอ็มบาสซี
ห้างเซ็นทรัลวันนี้ไม่ใช่แค่ห้างสรรพสินค้าระดับประเทศหรือภูมิภาคอีกต่อไป แต่กำลังไปสู่การเป็นผู้นำธุรกิจห้างสรรพสินค้าในระดับโลก ซึ่งปัจจุบันสัดส่วนรายได้ธุรกิจห้างสรรพสินค้ามาจากไทย 60% และ 40% มาจากต่างประเทศที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ถ้ายุโรปเศรษฐกิจกลับมาดีสัดส่วนรายได้ตรงนี้ก็อาจเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต
และก้าวใหม่ของห้างเซ็นทรัลหลังจากนี้ การทำธุรกิจต้องสอดคล้องกับเทรนด์ตลาดค้าปลีกโลกและพฤติกรรมผู้บริโภคปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างต่อเนื่อง รวมถึงความท้าทายใหม่ ๆ ที่มีเข้ามาตลอด ห้างเซ็นทรัลรูปแบบใหม่ จะต้องเป็นเสมือน บ้านหลังที่ 2 ของคนทุกเพศ ทุกวัย ทุกกลุ่ม สร้างประสบการณ์ที่ทำให้ทุกคนที่ก้าวเข้ามารู้สึกเหมือนเป็นคนพิเศษ และต่อยอดลูกค้าที่อยู่กับเซ็นทรัลรุ่นแล้วรุ่นเล่าตลอด 70 ปีที่ผ่านมา
และการเปลี่ยนแปลงแรกที่จะเห็นภาพชัดเจนที่สุด คือ การรีแบรนด์ ปรับเปลี่ยนโลโก้และแบรนด์ของห้างเซ็นทรัลให้มีความทันสมัยและเรียบง่ายมากขึ้น ตั้งแต่ฟอนต์ตัวอักษรของโลโก้ (font) ภาพดอกกุหลาบ ขณะที่การสร้างประสบการณ์ในตลาดต่างประเทศนั้นจะผ่านแอปพลิเคชั่นใหม่ Aux Villes Du Monde (AVDM) เพื่อยกระดับการให้บริการตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป โดยแอปพลิเคชั่นจะสามารถค้นหาข้อมูลท่องเที่ยวของเมืองที่มีสาขาตั้งอยู่ รวมถึงใช้บริการผู้ช่วยส่วนตัวและบริการที่จะอำนวยความสะดวกในด้านต่าง ๆ
ควบคู่กับการเอาจุดแข็งด้านเทคโนโลยีมาสร้างบริการที่รวดเร็ว ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างทันท่วงที ครอบคลุมทุกช่องทางทั้งเว็บไซต์ www.central.co.th และล่าสุดแอปพลิเคชั่น Central โฉมใหม่ให้สามารถตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้ทุกมิติ ทำให้การเชื่อมต่อระหว่างประสบการณ์ช็อปปิ้งในห้างและการช็อปปิ้งออนไลน์ผสานเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน (Omnichannel) ซึ่งจะให้ข้อมูลแบบอินเตอร์แอ็กทีฟ โปรโมชั่นสามารถเลือกได้ตามเพศชายและหญิง เข้าถึงความต้องการเฉพาะบุคคลมากขึ้น พร้อมคอนเทนต์อัพเดตเทรนด์แฟชั่นและไลฟ์สไตล์
เมื่อโจทย์การแข่งขันที่ท้าทายและยากมากขึ้น คู่แข่งรอบด้านและหลากหลายช่องทาง หลากหลายรูปแบบ โฉมใหม่ยุคทรานส์ฟอร์มของห้างเซ็นทรัล …ทำอย่างไรที่ลูกค้าจะนึกถึงเราเป็นคนแรก