ศึกหลอดบีบ นมข้น ตอบเทรนด์ หวาน…สะดวก

นอกจากจะเปิดตัวไลน์สินค้า โปรเฟสชั่นนอลŽ ช่วงชิงตลาดฟู้ดเซอร์วิสที่มีความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์นมข้นหวาน-ข้นจืดต่อเนื่อง ล่าสุด การเพิ่มบรรจุภัณฑ์ให้หลากหลายอย่างการส่งนมข้นหวาน หลอดบีบŽ เข้ามาในตลาด ก็เป็นอีกแนวรบที่ผู้ผลิตใช้รักษาฐานและเพิ่มการบริโภคในครัวเรือน

ทีพอทŽ ค่ายเอฟแอนด์เอ็น แดรี่ส์ เป็นรายแรก ๆ ที่เริ่มปลุกกระแสด้วยการส่งทีพอทข้นหวานหลอดบีบ ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ที่มาพร้อมกับแบรนด์แอมบาสซาเดอร์คนแรกของทีพอท ชาคริต แย้มนามŽ

ขณะที่ พาเลซŽ ของ เดลี่ฟู้ดส์ ก็เปิดตัว พาเลซหลอดบีบŽ ตามมาในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายนปีนี้ ภายใต้คอนเซ็ปต์ หวานไปได้ทุกที่Ž และล่าสุดกับ มะลิŽ แบรนด์ใหญ่ในตลาดที่ไม่พลาดส่ง มะลิหลอดบีบ Mali Easy SqueezeŽ เข้ามาเป็นทางเลือกในตลาดพร้อมปูพรมสินค้าในร้านเซเว่นอีเลฟเว่นทุกสาขาเมื่อกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาเช่นกัน

พินิจ พัวพันธ์Ž รองประธานกรรมการ บริษัท มะลิ กรุ๊ป 1962 จำกัด ผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์นมข้นหวาน-นมข้นจืดตรา มะลิŽ ฉายภาพกับ ประชาชาติธุรกิจŽ ว่า ช่วงที่ผ่านมา การบริโภคนมข้นหวาน-ข้นจืดในครัวเรือนค่อย ๆ ลดน้อยลง จากพฤติกรรมผู้บริโภคที่อยู่เป็นครอบครัวเล็กลง นิยมรับประทานอาหารนอกบ้านมากขึ้น รวมทั้งความต้องการสินค้าที่พอดีกับการใช้งาน

ทำให้นมข้นหวานในลักษณะกระป๋องไม่ตอบโจทย์ของผู้บริโภคยุคใหม่นัก ช่วงที่ผ่านมาผู้ผลิตจึงนำเสนอบรรจุภัณฑ์แบบหลอดบีบเพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคในครัวเรือน ที่ต้องการความสะดวกในการใช้งานและการจัดเก็บ

และหลังจากประเมินตลาดมาระยะหนึ่ง มะลิจึงได้ส่งผลิตภัณฑ์นมข้นหวานในรูปแบบหลอดบีบลงตลาดเข้ามาในตลาด ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้ปริมาณการบริโภคนมข้นหวานในครัวเรือนคงที่มากขึ้น

โดยขณะนี้ได้กระจายสินค้าเข้าในเซเว่นอีเลฟเว่นทุกสาขาแล้ว อยู่ระหว่างศึกษาช่องทางอื่น ๆ ที่เหมาะสมเพิ่มเติม และอีก 1-2 เดือนข้างหน้ามีแผนทำโปรโมชั่นเพื่อสร้างการรับรู้ให้มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม แม้หลอดบีบจะเป็นอีกช่องทางให้แบรนด์มะลิเข้าถึงคนรุ่นใหม่ได้มากขึ้น แต่ก็ต้องติดตามตลาดดูว่า การเติบโตของบรรจุภัณฑ์หลอดบีบจะมีผลต่อแบบกระป๋องมากน้อยเพียงใด เพราะผู้บริหารมะลิกรุ๊ปเชื่อว่าจะมีลูกค้าที่เคยซื้อแบบกระป๋องจำนวนไม่น้อยที่เปลี่ยนมาใช้แบบหลอดเพื่อใช้บริโภคในครัวเรือน

”การเพิ่มบรรจุภัณฑ์สินค้าให้หลากหลายตามความต้องการใช้งานของผู้บริโภคเป็นอีกแนวทางสร้างการเติบโตของมะลิ ซึ่งอนาคตมีแผนพัฒนาบรรจุภัณฑ์สินค้าใหม่ ๆ ออกมาเพิ่มเติมŽ”

สำหรับภาพรวมในช่วงครึ่งปีแรกของตลาดนมข้นหวาน-ข้นจืด 6,000 ล้านบาท ผู้สื่อข่าว ประชาชาติธุรกิจŽ รายงานว่า ตลาดยังคงเติบโตได้จากการขยายตัวของธุรกิจร้านอาหาร-เครื่องดื่ม และการใช้ที่ทำอาหาร-เครื่องดื่มที่หลากหลายมากขึ้นในภาคครัวเรือน

โดยมะลิกรุ๊ป (มะลิ, เบิร์ดวิงส์) เอฟแอนด์เอ็น แดรี่ส์ (ทีพอท, คาร์เนชั่น) และฟรีสแลนด์คัมพิน่า (ฟอลคอน, เรือใบ) ยังคงเป็นผู้เล่นรายใหญ่ในตลาด ที่เดินหน้าทำกิจกรรมการตลาดต่อเนื่องตลอดทั้งปี เร่งสร้างการรับรู้แบรนด์ เพิ่มความแข็งแรงในเรื่องของการกระจายสินค้า เพื่อสร้างการเติบโตในทุกช่องขาย ได้แก่ ลูกค้าทั่วไป (การบริโภคภาคครัวเรือน) และฟู้ดเซอร์วิส (ร้านอาหาร-เครื่องดื่ม และอุตสาหกรรมอาหาร)

โดย ”มะลิ“Ž เดินหน้าสร้างการรับรู้เข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ต่อเนื่อง ผ่านงานอีเวนต์เกี่ยวกับอาหาร สื่อสารผ่านอินฟลูเอนเซอร์บนโลกออนไลน์ ช่วยแนะนำการใช้ผลิตภัณฑ์ของมะลิไปต่อยอดทำอาหารทั้งคาว-หวานหลากหลายเมนู พร้อมเดินสายเปิดคอร์สสอนอาหารในหลายจังหวัดควบคู่กับการสร้างการรับรู้ผลิตภัณฑ์มะลิโปรเฟสชั่นนอลในกลุ่มผู้ประกอบการ

ขณะที่ ”ทีพอท“Ž ที่สื่อสารแนะนำสูตรอาหารที่ใช้ทีพอทเป็นส่วนประกอบควบคู่กับการทำกิจกรรมบนออนไลน์ผ่านแฟนเพจ TEAPOT Happy Society ตลอดจนแคมเปญลดราคา แคมเปญสะสมฉลากทีพอทจากข้างกระป๋องแลกรับค่าโทรศัพท์ถึงสิ้นเดือนสิงหาคมนี้

ด้าน ”ฟอลคอน“Ž ก็เดินหน้าสร้างการรับรู้ผลิตภัณฑ์ ฟอลคอน โปรเฟสชันแนล ผ่านบาริสต้าร้านกาแฟอิสระต่าง ๆ รวมทั้งแนะนำสูตรอาหารผ่านเฟซบุ๊กตลอดจนจัดเวิร์กช็อปสอนทำเบเกอรี่ฟรีด้วย

เมื่อการเติบโตไม่ได้จำกัดที่ช่องทางใดช่องทางหนึ่ง ผู้ผลิตจึงต้องเดินหน้าส่งแคมเปญโดนใจ มีนวัตกรรมสินค้าที่ตอบโจทย์ เพื่อเข้าถึงลูกค้าในทุกโอกาสที่เปิดรออยู่