“อีเวนต์” หมื่นล้าน (ยัง) ไม่ส่างไข้ โควิด ฝากความหวังไว้ที่วัคซีน

คอนเสิร์ต

ผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 รอบใหม่ สถานบันเทิงย่านทองหล่อกลายเป็นตัวแปรอีกอย่างหนึ่งที่ส่งผลกระทบกับหลาย ๆ ธุรกิจ รวมถึงธุรกิจอีเวนต์ที่มีมูลค่ารวมกว่า 1 หมื่นล้านบาท จากก่อนหน้านี้ที่ภาพรวมงานอีเวนต์ที่เริ่มค่อย ๆ ฟื้นตัวกลับมาบ้าง และเป็นการจัดงานภายใต้กรอบของระยะห่างทางสังคม การจำกัดจำนวนคนเข้างาน (4 ตารางเมตรต่อคน) แต่หลังจากวันที่โควิดกลับมาโจมตีรอบล่าสุด ธุรกิจอีเวนต์ก็มีความไม่แน่นอนในโอกาสการฟื้นตัวของธุรกิจอาจต้องล่าช้าออกไป

“เกรียงไกร กาญจนะโภคิน” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) บริษัทอีเวนต์รายใหญ่แสดงความเห็นในเรื่องนี้ว่า “…ถ้ามองระยะสั้น ต้องบอกว่ามันเข้าโลว์ซีซั่นของธุรกิจอีเวนต์พอดี ถ้าจะได้รับผลกระทบคงน้อยหน่อย ถ้ามองเฉพาะอุตสาหกรรมนี้ถือว่าได้รับผลกระทบน้อย เพราะมันไม่มีงานอยู่แล้วก็เลยไม่ได้รุนแรง แต่ถ้ามองระยะยาว คือ อยู่ที่ว่าคอนโทรลได้ดีขนาดไหน สามารถควบคุมได้ดีขนาดไหน”

“แต่ถ้าให้เสนอ คือ พูดง่าย ๆ ว่าควรงดการเดินทาง ควรประกาศเหมือนปีที่แล้ว สงกรานต์ต้องลดการเดินทาง ลดการกระจายเชื้อให้มากที่สุด ไม่งั้นก็จะมีผลกับเรื่องของการแพร่เชื้อมากขึ้น”

ซีอีโออินเด็กซ์ฯบอกว่า ที่ผ่านมาหลังจากมีวัคซีนเข้ามาและเริ่มมีการทยอยฉีดวัคซีน มู้ดเริ่มดีขึ้น และเริ่มปรับตัวดีขึ้นเรื่องการใช้ชีวิต แต่โดยส่วนตัวยังมองว่าควรจะกระจายฉีดวัคซีนได้เร็วกว่านี้ วันนี้วัคซีนที่ได้รับมา 3 แสนโดสถือว่าน้อย จากสิ่งที่เราทยอยได้รับคงต้องฝากและรอความหวังแอสตร้าเซนเนก้าที่จะเริ่มผลิตในเมืองไทยได้

“จริง ๆ แล้วตั้งแต่มีการแพร่ระบาดรอบ 2 เมื่อช่วงปลายปี 2563 ที่ผ่านมา งานต่าง ๆ ก็ถูกเลื่อนไปหมด ถ้าดูตามบุ๊กกิ้งอีเวนต์ที่เป็นเอ็นเตอร์เทนจะเริ่มกลับมาในช่วงประมาณเดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป แต่ ณ เวลานี้ไม่แน่ใจว่าโควิด-19 รอบใหม่นี้จะมีเอฟเฟ็กต์มากน้อยเพียงใด ตอนนี้อาจจะเร็วไปในการตัดสินใจ และอาจจะต้องรอประเมินหลังเทศกาลสงกรานต์”

สำหรับแพลนการจัดงานของอินเด็กซ์ฯเอง “เกรียงไกร” บอกว่า ตอนนี้ยังมีงานเมืองโบราณ ไลท์ เฟส เทศกาลประดับไฟฤดูร้อน (1 เมษายน -2 พฤษภาคม) ที่จังหวัดสมุทรปราการ แม้กิจกรรมนี้จะไม่มีความเสี่ยงในแง่ของการแพร่ระบาด เป็นงานในแอเรียที่กำหนด ไม่เป็นแบบคอนเสิร์ต แต่คงได้รับผลกระทบเพราะคนคงไม่อยากเดินทาง ไม่อยากมีผลกระทบ ส่วนงานอื่น ๆ มองว่าตอนนี้หลายคนก็ชะลอไว้ก่อนเพราะไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้น ช่วงสงกรานต์งานก็ไม่มีอยู่แล้ว ซึ่งทุกคนก็พร้อมที่จะปรับตัว

“ตอนนี้หลาย ๆ คนรอดูสถานการณ์รอบนี้ ซึ่งมันคาดการณ์ไม่ได้เลย หลังสงกรานต์ต้องรอดูอีกที ถ้าเร็วสุดรัฐบาลต้องเร่งฉีดวัคซีน หากมองอย่าง positive สุด ๆ ประเมินว่าจะกลับมาดีขึ้นในช่วงไตรมาส 3 ซึ่งปกติถ้าไม่มีการระบาดรอบ 3 ก็เริ่มส่งสัญญาณบวกแล้ว แต่หลังจากนี้ไม่รู้จะเป็นอย่างไร”

เช่นเดียวกับ “เสริมคุณ คุณาวงศ์” ประธานกรรมการ บริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน) แสดงความเห็นในเรื่องนี้ว่า “การระบาดรอบ 3 ครั้งนี้ถือว่ากระทบกับธุรกิจอีเวนต์ในระดับหนึ่ง แต่เชื่อว่าผู้ประกอบการจะสามารถปรับตัวได้ เพราะก่อนการระบาดก็มีกิจกรรมอีเวนต์อยู่บ้าง เพียงแต่รูปแบบการจัดเน้นไปทางด้านสตรีมมิ่งหรือดิจิทัลอีเวนต์ เช่น การเปิดตัวรถยนต์ เปิดตัวโทรศัพท์มือถือ ฯลฯ ปีที่แล้วอีเวนต์หยุดหมด แต่ปีนี้มาครบทุกแคทิกอรี่ แต่มาในงบประมาณที่น้อยลง และมาในรูปแบบแพลตฟอร์มออนไลน์เป็นหลัก”

พร้อมกันนี้ แม่ทัพใหญ่ ซีเอ็มโอ ยังให้ข้อมูลว่า ที่ผ่านมา ก่อนการระบาดรอบใหม่ก็มีแพลนงานออกมาจำนวนหนึ่งในช่วงพฤษภาคม-มิถุนายน เป็นงานเอ็นเตอร์เทนเมนต์เล็ก ๆ ตอนนี้แม้จะมีการติดเชื้อ แต่อาจจะไม่เบรกอีเวนต์มากนัก คงจะเป็นมาตรการที่มันป้องกันขึ้นกว่าเดิม ส่วนหนึ่งเพราะวันนี้ดูเหมือนว่าคนจะกลัวน้อย สำหรับคอนเสิร์ตใหญ่ ๆ มีแพลนว่าอาจจะเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ concern กันมากในตอนนี้ คือ การอยากให้มีการฉีดวัคซีนในปริมาณที่มากกว่านี้หน่อย ตอนนี้ยังฉีดได้ไม่ถึงล้านคนเลย ซึ่งตรงนี้ก็จะมีผลกับการทำธุรกิจอีเวนต์มาก ตอนนี้ในฝั่งของสปอนเซอร์ก็มีจำนวนหนึ่งที่เริ่มกล้าที่จะใช้งบฯ จากปีที่แล้วที่อีเวนต์ปรับตัวมาสู่ดิจิทัลอีเวนต์

สำหรับบริษัทซีเอ็มโอการเกิดโควิดรอบ 3 นี้ ได้เตรียมการรองรับไว้ในระดับหนึ่ง โดยมีห้องดิจิทัลสตูดิโอให้ลูกค้าเลือก 3 ที่ ซีเอ็มโอ, ยูเนี่ยน มอลล์ ขนาด 2,000 ที่นั่ง และกำลังจะมีที่โรงแรมสยามอินเตอร์คอนติเนนตัล ราชประสงค์ เป็นห้องสตรีมมิ่งใหม่ที่เขาจัดในโรงแรมเพื่อรองรับคนหรือลูกค้าที่อยากจะจัดงาน


คาดว่าในภาพรวมธุรกิจอีเวนต์น่าจะเริ่มฟื้นกลับมาได้ในช่วงไตรมาส 3 และจะชัดเจนขึ้นในไตรมาส 4 อาจจะเท่ากับ 70% ของปีปกติ