โควิดระลอก 3 กระทบธุรกิจอาหารระส่ำหนัก ส.ภัตตาคารไทย แนะร้านอาหารรุกหนักออนไลน์-ดีลิเวอรี่ เปิดทางรอด พร้อมส่งกุนเชียง “กล่องทิพย์” และอสหารกล่อง นำร่องบริการ ตอบโจทย์ทานง่าย รวดเร็ว รับสถานการณ์
วันที่ 24 เมษายน 2564 นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย ให้มุมมองสำหรับธุรกิจร้านอาหารและภัตตาคารว่า ตั้งแต่เกิดโควิด 19 ระลอกแรกยิ่งตอกย้ำว่า งานวิจัยที่มีบริษัทชั้นนำเคยทำไว้เป็นความจริงว่าในไม่ช้าร้านอาหารจะมีขนาดหน้าร้านเล็กลง ผู้คนจะซื้อของขายของกันทางออนไลน์หรือทางอากาศ ร้านอาหารที่เป็น Fine Dining จึงจะอยู่รอด เพราะค่าแรงจะสูงขึ้น แรงงานจะหายากขึ้น
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
ในที่สุดโควิด19 ซึ่งขณะนี้มาถึงระลอก 3 แล้ว ก็สะท้อนให้เห็นว่าธุรกิจอาหารยุคนี้จำหน่ายกันบนอากาศหรือทางออนไลน์ และดีลิเวอรี่มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และร้านอาหารต้องปรับตัวขนานใหญ่ เพื่อให้ดำเนินธุรกิจกันต่อไปได้
โดยก่อนหน้านี้สมาคมภัตตาคารไทยได้เคยเรียกร้องต่อรัฐบาล ให้เห็นใจผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหารและภัตตาคารในเรื่องเวลาเปิดปิดในยุคโควิด 19 เพื่อให้สามารถประคองธุรกิจฝ่าวิกฤตการณ์โควิดไปได้ ซึ่งล่าสุดก็ได้รับการตอบรับที่ให้ร้านอาหารสามารถนั่งได้ถึง 21.00 น.
แต่อย่างไรก็ดีจากสถานการณ์การระบาดที่มีผู้ติดเชื้อจำนวนมากขึ้น ทำให้สถานการณ์ไม่แน่นอน ซึ่งอาจจะส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจอาหารให้ไม่สามารถดำเนินงานได้เต็มรูปแบบมากนัก หลายแบรนด์จึงหันมาปรับตัวให้บริการดีลิเวอรี่ และรูปแบบพร้อมทานที่สะดวก จัดส่งง่าย และมีความปลอดภัยมากขึ้น
ดังนั้นนางฐนิวรรณ กุลมงคล ในอีกฐานะหนึ่งคือ เจ้าของแบรนด์อาหาร “กล่องทิพย์” จึงได้มีการเตรียมความพร้อมให้แก่แบรนด้วยการนำกุนเชียงหมูภายใต้แบรนด์กล่องทิพย์ลงตลาด โดด้วยความร่วมมือกับนายสมพล ถ้ำน้อย เจ้าของบริษัท โชคนิพลหมูป่า ผลิตกุนเชียงหมูที่ออกมารุกตลาดรองรับความต้องการในช่วงนี้มากขึ้น
“ กุนเชียงกล่องทิพย์พร้อมแล้วที่จะลงสนามตลาดกุนเชียงที่มีมูลค่าต่อปีสูงถึง 6 พันล้านบาท แม้จะมีคู่แข่งจำนวนมาก และหลายรายเป็นเจ้าตลาดรายใหญ่ แต่เรามั่นใจในคุณภาพสินค้าและช่องทางต่างๆ ที่จะขยายต่อไปในอนาคต”
ในอนาคตแบรนด์กล่องทิพย์และโรงงาน โชคนิพลหมูป่า พร้อมที่จะนำสินค้าตัวอื่นๆ ลงสนามไปสู่ผู้บริโภคและเจ้าของร้านอาหาร โดยจะเป็นความร่วมมือในการนำนวัตกรรมต่างๆ ที่มี มาผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคและร้านอาหารให้มากที่สุด โดยสินค้าตัวต่อไปเช่นหมูชาชู ขาหมูเยอรมัน ขาหมูพะโล้ หมูหัน ลูกชิ้นหมู ฯลฯ
ในระยะแรกของการทำตลาดกุนเชียงกล่องทิพย์ จะเน้นการเจาะกลุ่มตลาดร้านอาหาร รวมถึงการเจาะตรงถึงผู้บริโภค ทั้งการขายปลีกและขายผ่านเอเย่นต์ ซึ่งหากสนใจเป็นเอเย่นต์ของกุนเชียงกล่องทิพย์หรือหากร้านอาหารที่สนใจสั่งกุนเชียงเป็นจำนวนมาก และในส่วนของขายปลีก เพื่อรองรับยุค Dilivery โดยได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังได้ทำอาหารกล่องสำหรับงานประชุมสัมมนา รวมถึงสำนักงานต่างๆ ที่ต้องการอาหารไทยชาววังในบรรจุภัณฑ์สวยงาม อร่อย ปรุงสุกใหม่ ในระดับราคาไม่แพง