สรยุทธ มั่นใจแฟนข่าวรอคอย คืนจอเล่าข่าว 1 พ.ค.

สรยุทธ์แย้มข่าวดีกลับมาเล่าข่าว

“สรยุทธ” โพสต์เฟซบุ๊กยาวครั้งแรกหลังได้รับการพักโทษ มั่นใจแฟนข่าวอยากให้กลับไปทำรายการ เล่าข่าวให้ฟังทุกวัน 

วันที่ 28 เมษายน 2564 นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ที่ปรึกษาด้านข่าว สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว เล่าถึงวันที่ถูกจำคุก รับโทษในเรือนจำ ยอมรับการตื่นขึ้นมาแล้วไม่ได้ทำงานข่าวเป็นทุกข์ที่สุด วันแรกที่ได้รับการพักโทษถึงกับร้องไห้ เชื่อแฟนข่าวอยากให้กลับไปทำรายการ นั่งเล่าข่าวทุกวัน ข้อความทั้งหมดมีดังนี้

วันที่ผมถูกจำคุก รับโทษตามคำพิพากษา ผมนึกถึงประโยค อยู่ให้เป็น เย็นให้พอ รอให้ได้ พูดง่าย แต่ทำยากเหลือเกิน โดยเฉพาะทำใจ ผมพยายามมองในแง่ดีว่า อย่างน้อยมันก็จบเสียที วันหนึ่งผมจะได้เริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ ในคุก ผมพยายามใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ ทั้งกับเรือนจำ ทั้งกับเพื่อน ๆ ผู้ต้องขัง แม้กระทั่งกับตัวผมเองเพื่อให้เวลามันผ่านไปได้

ในคุกไม่เคยมีความสุข ขอแค่ทุกข์พอประมาณก็ดีถมไปแล้ว ผมได้รับมอบหมายให้ทำ “เรื่องเล่าชาวเรือนจำ” ให้ความรู้เรื่องโควิด 19 เพื่อไม่ให้เกิดความตื่นตระหนกจนนำไปสู่เหตุวุ่นวาย ผมเสนอทำรายการ “กำลังใจสู่ชาวเรือนจำ” เพราะผมอยากเห็นเพื่อน ๆ มีกำลังใจ รอวันเวลาออกไปเริ่มต้นชีวิตใหม่และไม่หวนกลับไปทำผิดซ้ำอีก

แน่นอน ผมต้องให้กำลังใจตัวเองด้วยให้อดทน ก้มหน้ารับโทษตามคำพิพากษา กระทั่งผมได้รับการพักการลงโทษตามกฎเกณฑ์ ได้ออกมาใช้ชีวิตในโลกภายนอกอีกครั้ง ผมดีใจที่แฟนข่าวไม่ลืมกัน โลกเปลี่ยนไปมาก สังคมข่าวสารก็เปลี่ยนไปเยอะ งานข่าวคืออย่างเดียวที่ผมทำเป็น และการทำงานคือชีวิตของผม

ผมต้องหยุดใช้ชีวิตของผมมานาน ตั้งแต่วันที่ศาลชั้นต้นพิพากษา ทุกวันตื่นขึ้นมาแล้วไม่ได้ไปใช้ชีวิตอย่างที่เคยเป็น ทุกข์ที่สุดจริง ๆ ครับ

วันที่ผมได้รับการพักการลงโทษ ผมได้รู้ในสิ่งที่ผมเองคาดไม่ถึงจากช่องทางการสื่อสารในโลกยุคใหม่ ทุกคนแสดงออกได้ บอกความรู้สึกได้ ผมได้รู้ว่ามีแฟนข่าวรอคอยการกลับมา กลับมาทำหน้าที่หน้าจออีกครั้ง หลายคนรับผมเป็นคนในครอบครัวจริง ๆ หลายคนบอกว่าดูผมตั้งแต่ยังเป็นเด็กจนเรียนจบ ทำงานทำการ มีลูกมีเต้า คุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยายมากมายที่ลูก ๆ หลาน ๆ ออกมาบอกว่าท่านรออยู่นะ

วันแรกที่ผมเดินเข้าคุก ผมไม่ได้ร้องไห้ แต่วันแรกที่ผมได้พักการลงโทษ ผมกลับบ้านไปร้องไห้ ผมได้อ่านข้อความต่าง ๆ เสมือนได้พบครอบครัวใหญ่ของผม เสมือนญาติ ๆ สนิทของผม พากันมารับผมออกจากเรือนจำ หลายคนบอกน้ำตาไหล และผมก็น้ำตาไหล พวกเขาน่าจะอยากให้ผมได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ กลับไปทำหน้าที่พูดคุยกับพวกเขาทุกเช้า พวกเขาอยากให้ผมกลับไปทำรายการ เป็นคนมานั่งบอกเล่าข่าวให้ฟังทุก ๆ วัน

บางวันฟังแล้วเขาอาจจะชอบใจ บางวันอาจจะไม่ชอบใจ เหมือนที่เคยเป็นมา เป็นเพื่อน เป็นพี่เป็นน้อง เป็นลูกเป็นหลาน เป็นลุงเป็นอา ยามที่เขาทำกิจวัตรตอนเช้า หรือแม้แต่เป็นนาฬิกาปลุก ไม่มีใครรู้ว่ารายการที่ผมกลับมาทำจะประสบความสำเร็จหรือไม่ โลกเปลี่ยนไป สังคมเปลี่ยนไป แต่ผมเชื่อของผมว่า ครอบครัวข่าวของผม แฟนข่าวของผม ยังอยากพบอยากเจอกัน ความผูกพันที่เกิดขึ้นจากความจริงใจต่อกันมายาวนาน

วันนี้ ผมอยากจะกลับมาทักทาย พูดคุย เล่าเรื่อง อยากจะร่วมทุกข์ร่วมสุขอย่างที่เคยเป็นมา ขอบคุณที่ติดตามเป็นกำลังใจให้เสมอมาครับ

ล่าสุด นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ ให้สัมภาษณ์ มติชนออนไลน์ ว่า นายสรุยทธยังคงเป็นผู้ถูกคุมประพฤติ ที่สามารถประกอบอาชีพสุจริต แต่ห้ามทำกิจกรรมทางการเมือง เช่น เป็นพิธีกรให้กับพรรคการเมืองใดการเมืองหนึ่ง ยกเว้นการจัดรายการข่าวทั่วไป ซึ่งจะต้องนำเสนอข้อเท็จจริงภายใต้จรรยาบรรณของสื่อมวลชน

ในวันที่ 1 พฤษภาคม ซึ่งนายสรยุทธจะกลับมาจัดรายการ เรื่องเล่าเช้านี้ ทางกรมคุมประพฤติได้แจ้งไปยังเจ้าพนักงานคุมประพฤติ ให้ดูทีวีเพื่อตรวจสอบการรับหน้าที่พิธีกรข่าวครั้งแรกหลังออกจากเรือนจำ ว่ามีส่วนใดหมิ่นเหม่ต่อการกระทำผิดเงื่อนไขหรือไม่อย่างไร อย่างไรก็ตาม เชื่อว่านายสรยุทธจะรู้ว่าอะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้