สะดวกซัก “อ๊อตเทริ” ผุดโมเดลใหม่ขยายฐาน

“อ๊อตเทริ” จัดทัพสู้ศึกร้านสะดวกซัก งัดกลยุทธ์โซเชียลเอ็นเตอร์ไพรส์-เปิดโมเดลใหม่ ร้านวีลแชร์เฟรนด์ลี่ ขยายฐานลูกค้า ประกาศเดินหน้าจับมือพันธมิตร ปั๊มน้ำมัน-ค้าปลีก หนุนโปรโมชั่น จูงใจลูกค้า คาดสิ้นปีเปิดสาขาทะลุ 750 แห่ง

นายกวิน นิทัศนจารุกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เค-เน็กซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้บริหารเชนร้านสะดวกซักรายใหญ่ “อ๊อตเทริ วอช แอนด์ ดราย” เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปี 2564 นี้ ตลาดร้านสะดวกซักมีแนวโน้มเติบโตประมาณ 2 เท่า หรือมีสาขารวมทุกแบรนด์ประมาณ 2,000 สาขา จากปัจจุบัน 1,000 สาขา โดยบริษัทได้ปรับกลยุทธ์รับมือการแข่งขันที่ดุเดือดมากขึ้น หลังจากมีผู้ประกอบการรายใหม่ที่กระโดดเข้ามาในตลาดมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ทั้งแฟรนไชส์และผู้ประกอบการอิสระ หรือน็อนแฟรนไชส์

โดยอ๊อตเทริจะเน้นยุทธศาสตร์การสร้างมูลค่าให้กับแบรนด์เพื่อจูงใจผู้บริโภคว่า “ทำไมต้องมาซักผ้าที่ร้านอ๊อตเทริ” นอกเหนือจากการทำโปรโมชั่นด้านราคาหรือการสะสมแต้ม อาทิ การออกแบบร้านโมเดลใหม่ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้พิการหรือมีปัญหาการเคลื่อนไหวสามารถเข้าใช้บริการร้านได้ รวมถึงด้านกิจการเพื่อสังคม หรือโซเชียลเอ็นเตอร์ไพรส์ อาทิ การดึงกลุ่มหญิงสูงวัยมาบริการพับผ้าในร้าน เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้า และลดข้อแตกต่างระหว่างร้านสะดวกซักกับร้านซักรีด เป็นต้น

“อย่างไรก็ตาม บริษัทยังไม่มีแผนเสริมบริการจากการเป็นร้านสะดวกซักให้เป็นร้านซักอบรีด เนื่องจากจะต้องมีพนักงานเพิ่มขึ้น และการมีพนักงานเพิ่มขึ้นดังกล่าวอาจทำให้ร้านเข้าข่ายเป็นโรงงานตามพระราชบัญญัติโรงงานได้” นายกวินกล่าวและว่า

ทั้งนี้ บริษัทมีแผนจะบริจาคหรือยกร้านให้กับมูลนิธิต่าง ๆ เพื่อเป็นแหล่งช่วยสร้างรายได้ให้กับมูลนิธินั้น ๆ แทนการบริจาคเงิน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างพัฒนาโมเดลร้านแบบวีลแชร์เฟรนด์ลี่ ซึ่งผู้พิการที่ต้องนั่งรถวีลแชร์สามารถเข้าใช้บริการได้ คาดว่าสาขาต้นแบบจะเปิดทำการในช่วงเดือนมิถุนายน 2564 นี้ โดยจะมอบสาขาแรกนี้ให้กับมูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ ก่อนจะขยายสาขาที่ 2 ในช่วงไตรมาส 3-4 หากได้รับการตอบรับดีจะนำโมเดลนี้ไปใช้กับสาขาอื่น ๆ อีกด้วย เพื่อเพิ่มโอกาสการรองรับลูกค้าที่มีความหลากหลายมากขึ้น

กรรมการผู้จัดการ บริษัท เค-เน็กซ์ฯ ย้ำว่า บริษัทเดินหน้าเสริมจุดแข็งทั้งด้านการตลาดและการบริการหลังการขาย ด้วยการดึงพันธมิตรต่าง ๆ เช่น สถานีบริการน้ำมัน ค้าปลีก มาเสริมแคมเปญส่งเสริมการขายต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นร่วมมือกับพีทีจี เอ็นเนอยี ผู้บริหารสถานีบริการน้ำมันพีที และ ปตท. ให้ผู้ถือบัตรพีที แมกซ์ การ์ด และพีทีที บลูการ์ด สามารถนำแต้มสะสมมาแลกสิทธิ์ซักผ้าได้ หลังจากก่อนหน้านี้เคยร่วมมือกับท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต แจกคูปองส่วนลดเมื่อมาซักผ้าที่ร้าน และเพิ่มตัวเลือกให้แฟรนไชส์ เปิดร้านกาแฟอินทนิล และกาแฟอาริกาโตะในสาขาได้ เป็นต้น

“กลยุทธ์เหล่านี้ช่วยขยายฐานและจูงใจลูกค้าให้เลือกมาใช้บริการร้านของบริษัท สร้างความได้เปรียบในการแข่งขันกับผู้เล่นรายอื่น ๆ ขณะเดียวกัน เดินหน้าอัพเกรดทีมช่างซ่อมบำรุงที่ปัจจุบันมีประมาณ 30 คน กระจายในภูมิภาคต่าง ๆ เช่น ภาคกลาง อีสาน และใต้ ให้สามารถดูแลสาขาต่าง ๆ ได้ครอบคลุมมากขึ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านบริการหลังการขาย ซึ่งมั่นใจว่าภายในสิ้นปีนี้จะสามารถขยายสาขาได้ประมาณ 750 สาขา จากปัจจุบันที่มีประมาณ 400 สาขา” นายกวินกล่าว