HSC ปูพรมตลาดความงามปั้นยอดขาย 450 ล้าน หลังรายได้ไตรมาสแรกพุ่ง 70%

กระแสความงามแรงไม่ตก HSC เปิดรายได้ไตรมาสแรกพุ่ง 70% ทุ่ม 45 ล้านบาทส่ง “เจสัน ยัง” นั่งแท่นแบรนด์แอมบาสเดอร์ขยายฐานลูกค้า ตั้งเป้ารายได้สิ้นปี 450 ล้าน โต 100% สวนกระแสโควิด

วันที่ 14 พฤษภาคม 2564 พ.ต.อ.ศตยุ ไชยสุวรรณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แฮร์ โซลูชั่น จำกัด เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานช่วงไตรมาส 1/64 บริษัทมีรายได้ 87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 70% เทียบกับ ไตรมาส 1 ปีที่ผ่านมา โดยแบ่ง เป็นรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมภายใต้แบรนด์ HSC 90% และรายได้จากคลีนิกเวชกรรม 10% ถือเป็นการเติบโตสวนกระแสจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เนื่องจากผู้บริโภคคนไทยยังมีความรักสวยรักงาม และมีเวลาในการดูแลตนเองมากขึ้น โดยบริษัทตั้งเป้าหมายปี2564เติบโต 100% มีรายได้ 450 ล้านบาท เพิ่มจาก 225 ล้านบาท ในปี2563 ที่ผ่านมา

ล่าสุด บริษัทได้ เตรียมงบการส่งเสริมการตลาดไว้ที่ 10% หรือประมาณ 45 ล้านบาท โดยจะเน้นไปที่การทำการตลาดออนไลน์ เป็นหลัก รวมทั้งการเปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์ (Brand Ambassador) คนใหม่ คือคุณ เจสัน ยัง ซึ่งบริษัทมองว่าสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายช่วงอายุประมาณ 25-45 ปี ได้ และยังเป็นการปรับภาพลักษณ์แบรนด์( Brand Image) ให้ดูทันสมัยอีกด้วย

ด้านน.ส.สุดาพร ไกรวาปี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แฮร์ โซลูชั่น คลีนิก จำกัด กล่าวว่า สำหรับกลยุทธ์ ธุรกิจ ( Bussiness Strategy ) ของบริษัทฯ เรายังคงเน้นกลยุทธ์สร้างความแตกต่าง ( Differentiation Strategy ) ทั้งเรื่องของนวัตกรรมและการบริการที่แตกต่าง ผลิตภัณฑ์ทุกตัวภายใต้แบรนด์ HSC จะผ่านการ วิจัยและพัฒนาโดยนักวิทยาศาสตร์และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของบริษัท

โดยจะเน้นเรื่องคุณภาพและความ ปลอดภัยเป็นสำคัญ ในเรื่องการบริการที่แตกต่าง บริษัทใช้ระบบการให้คำปรึกษาทางออนไลน์กับลูกค้า ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านทุกแพลตฟอร์มไม่ว่าจะเป็น Facebook , Instagram, Line และ Website รวมถึงลูกค้า สามารถขอคำปรึกษากับตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศได้ ซึ่งปัจจุบัน บริษัทฯมีตัวแทนจำหน่ายทั้งสิ้น 500 คน และ ในปี 2564 บริษัทฯตั้งเป้ารับสมัครตัวแทนจำหน่ายเพิ่มเป็น 2,000 คน ซึ่งจะส่งผลให้รายได้ของบริษัทฯเป็นไป ตามเป้าหมายที่วางไว้

สำหรับ จุดแข็งของบริษัทคือ นอกจากสินค้าที่มีคุณภาพ ลูกค้ามีอัตราการซื้อซำ้สูงแล้ว ยัง มีระบบการเทรนนิ่งการตลาดออนไลน์ให้กับตัวแทนจำหน่าย เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับตัวแทนจำหน่ายอีกด้วย ในไตรมาส 2/2564 นี้ บริษัทมีแผนจะเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายในส่วนของ ทีวีช็อปปิ้ง ทั้งทีวีไดเร็คและทรู ช็อปปิ้ง อีกด้วย เพราะยังมีผู้บริโภคอีกจำนวนมากที่ยังนิยมซื้อสินค้าผ่านทีวีช็อปปิ้ง ประกอบกับคนกลุ่มนี้จะ มีอายุระหว่าง 35-65 ปี ซึ่งตรงกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของบริษัท