MBK รับโควิดกระทบต่อเนื่อง ไตรมาสแรกขาดทุน 124 ล้าน

ภาพประกอบข่าว-MBK

แม้หลายธุรกิจในเครือจะเติบโตในไตรมาส 1 แต่ยังไม่สามารถกลบผลกระทบที่มีต่อภาคค้าปลีกและโรงแรมที่ถูกกระทบหนักได้

วันที่ 17 พฤษภาคม 2564 บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) รายงานผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2564 (สิ้นสุด 31 มี.ค. 2564) ระบุว่า บริษัทมีรายได้จากการดำเนินงาน 2,093 ล้านบาท ลดลง 436 ล้านบาท ลดลง 17% จากช่วงเดียวกันของปี 2563 และขาดทุนสุทธิ 124 ล้านบาท

เอ็มบีเค ระบุว่า เป็นผลจากการระบาดของโรคโควิด-19 ที่ส่งผลต่อการฟื้นตัวของภาคธุรกิจ การชะลอตัวของภาคท่องเที่ยว และการจ้างงานลดลง ในขณะที่หนี้ครัวเรือนยังอยู่ในระดับสูง ทำให้ธุรกิจในเครือต่างได้รับผลกระทบ

โดย ธุรกิจศูนย์การค้า รายได้ลดลง 395 ล้านบาท หรือลดลง 47% หลังบริษัทมีมาตรการช่วยเหลือผู้เช่า อาทิ ให้ส่วนลดค่าเช่าและค่าบริการ ลดจำนวนเงินมัดจำค่าเช่า รวมถึงขยายเวลาชำระหนี้ ทั้งนี้แตกต่างกันตามผู้เช่าแต่ละราย

ขณะเดียวกันบริษัทอยู่ระหว่างพัฒนาแผนการตลาดและนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาใช้เพื่อปรับตัวรับนิวนอร์มอล

ส่วนธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยวรายได้ลดลง 263 ล้านบาท หรือ 85% ไปในทิศทางเดียวกับธุรกิจสนามกอล์ฟ ที่รายได้ลดลง 47 ล้านบาท คิดเป็น 37% เนื่องจากยังขาดลูกค้านักกอล์ฟจากต่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม ธุรกิจอสังหาฯ อาหาร การเงิน ต่างมีรายได้เพิ่มขึ้น

โดยธุรกิจอสังหาฯ มีรายได้เพิ่มขึ้น 181 ล้านบาท หรือ 274% หลังโครงการ Quinn Condominium 101 สร้างเสร็จเมื่อเดือนตุลาคม 2563 และเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ อย่างไรก็ตาม เอ็มบีเค เปิดเผยว่า ปัจจุบันได้ชะลอโครงการใหม่ ๆ ออกไปก่อนจนกว่าสภาพเศรษฐกิจจะเป็นปกติ

ด้าน ธุรกิจอาหาร มีรายได้เพิ่มขึ้น 3% หรือ 13 ล้านบาท เนื่องจากธุรกิจขายข้าวมีรายได้เพิ่มขึ้น 43 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากการส่งออกที่เพิ่ม 53 ล้านบาท สวนทางกับยอดขายในประเทศที่ลดลง 10 ล้านบาท เพราะยอดขายจากช่องทางโมเดิร์นเทรดลดลง หลังไม่สามา่รถเข้าร่วมมาตรการกระตุ้นต่าง ๆ ของรัฐ เช่นเดียวกับธุรกิจศูนย์อาหาร ที่รายได้ลดลง 30 ล้านบาท เพราะผู้ใช้บริการลดลง และไม่สามารถเข้าถึงมาตรการช่วยเหลือของรัฐ


สำหรับ ธุรกิจการเงิน มีรายได้เพิ่มขึ้น 52 ล้านบาท หรือ 9% แบ่งเป็นจากธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ 39 ล้านบาท และธุรกิจให้กู้ยืมเงินเงินโดยมีหลักทรัพย์ค้ำประกันอีก 14 ล้านบาท ด้านธุรกิจอื่นมีรายได้เพิ่มขึ้น 24 ล้านบาท หรือ 16% ส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการประมูล รถยนต์และจักรยานยนต์มือสอง