“มิสเตอร์.ดี.ไอ.วาย.” ลุ้นสถานการณ์คลี่คลายปลายไตรมาส 3 สปีดสาขาใหม่ 10-12 แห่งต่อเดือน พร้อมผุดโมเดลไซซ์เล็กเจาะอาคารสำนักงาน และขยายไลน์ขนมเครื่องดื่มหวังจับกลุ่มครอบครัวก่อนเพิ่มงบฯ 15% สื่อสารสร้างการรับรู้ มั่นใจปีนี้เปิดใหม่ 100 สาขา ครบ 380 สาขาตามเป้า
นางสาวนรินติยา เสาวณีย์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท มิสเตอร์.ดี.ไอ.วาย. เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) ผู้บริหารเชนร้านค้าปลีกมิสเตอร์.ดี.ไอ.วาย. (MR.D.I.Y.) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้แม้ว่าการระบาดของโรคโควิด-19 ระลอก 3 ส่งผลกระทบกับธุรกิจอย่างหนัก เนื่องจากเป็นการระบาดในวงกว้างที่ทำให้ผู้บริโภคทั่วประเทศไม่กล้าออกจากบ้าน และต่างจากครั้งก่อน ๆ ที่ผู้บริโภคในต่างจังหวัดยังใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงปกติ สะท้อนจากหลังสงกรานต์จำนวนลูกค้าของร้านสาขาในทำเลตลาดที่ลดลงจากเฉลี่ย 700-1,000 คนต่อวัน เหลือเพียงประมาณ 300 คนต่อวันเท่านั้น
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- “ทอง” รับข่าวร้ายดันราคาขาขึ้น บาทอ่อนค่าจ่อทะลุ 37 บาท
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
อย่างไรก็ตาม อีกด้านหนึ่งโดยส่วนตัวเชื่อว่าในแง่ดีมานด์ยังคงมีอยู่ สังเกตได้จากยอดการใช้จ่ายต่อใบเสร็จยังเท่าเดิม และสินค้า อาทิ อุปกรณ์สำนักงาน และอุปกรณ์ซ่อมแซม-ตกแต่งบ้าน ยังทำยอดได้ดี จึงคาดว่าเป็นเพราะผู้บริโภคยังต้องการสินค้าสำหรับใช้ในชีวิตประจำวันอยู่
ผู้บริหาร มิสเตอร์.ดี.ไอ.วาย.กล่าวต่อไปว่า ความตื่นตัวของผู้บริโภคและการเริ่มฉีดวัคซีนน่าจะช่วยให้สถานการณ์เริ่มคลี่คลายในช่วงไตรมาส 3 เป็นต้นไป ทำให้บริษัทตัดสินใจเร่งเครื่องการขยายสาขาให้เร็วขึ้น พร้อมกับเตรียมแผนการตลาดให้สอดคล้องกัน โดยจะเริ่มแคมเปญหลักต่าง ๆ ในไตรมาส 3 หลังจากเว้นวรรคไปในช่วงที่ผ่านมาเพื่อลดความเสี่ยงทั้งของลูกค้าและพนักงาน โดยจะเร่งความเร็วของการเปิดสาขาใหม่เป็น 10-12 สาขาต่อเดือน จากปกติที่เปิด 7-8 สาขาต่อเดือน
โดยยังคงเป้าขยายสาขาใหม่ร่วม 100 สาขา และเน้นทำเลย่านชุมชนเพื่อให้มีสาขาครบ 380 สาขาในสิ้นปีนี้ หลังจากปีที่แล้วขยายได้เพียง 76 สาขา เนื่องจากมีการล็อกดาวน์ทำให้งานก่อสร้างล่าช้าออกไปจนพลาดเป้า 100 สาขา
พร้อมมุ่งขยายไลน์สินค้าในกลุ่มอาหาร-เครื่องดื่มเพิ่มด้วยการจับมือพันธมิตรแบรนด์ต่าง ๆ นำสินค้าเข้ามาจำหน่ายในร้านด้วยราคาถูกกว่าเล็กน้อย หลังจากที่ผ่านมาได้ผลตอบรับดีมากจากกลุ่มลูกค้าที่มีลูกเล็กและกลุ่มคนเมือง ขณะเดียวกัน ยังเดินหน้าเพิ่มสินค้าโอว์นแบรนด์ 50-100 เอสเคยูต่อเดือน อย่างไรก็ตาม กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เคยมีแผนทำโอว์นแบรนด์นั้นขณะนี้เลื่อนออกไปเพราะสถานการณ์โรคระบาด
นางสาวนรินติยากล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ ยังเริ่มทดลองร้านโมเดลใหม่ “มิสเตอร์.ดี.ไอ.วาย. เอ็กซ์เพรส” ซึ่งเป็นไซซ์เล็กใช้พื้นที่ประมาณ 300 ตร.ม. หรือเพียง 1 ใน 3 ของสาขาปกติ สำหรับเจาะทำเลอาคารสำนักงานและชุมชนในเมืองด้วยความคล่องตัวในการหาทำเล ไลน์สินค้าที่เน้นกลุ่มซื้อง่ายขายคล่องและมีดีมานด์จากคนทำงานออฟฟิศอย่างเครื่องเขียน อุปกรณ์สำนักงาน อุปกรณ์ช่างขนาดเล็ก เป็นต้น ปัจจุบันทดลองเปิดแล้ว 2 สาขา ที่อาคารไอทีเอฟ สีลม และจังหวัดชลบุรี รวมถึงเตรียมเปิดสาขา 3 ที่ซอยอ่อนนุช 65 คาดว่าปีนี้จะเปิดได้ 5 สาขา
“โมเดลนี้มีในไทยเป็นประเทศแรก โดยมาเลเซียกำลังทดลอง 1 สาขา หากประสบความสำเร็จอาจนำไปใช้ในประเทศอื่น ๆ ด้วย สำหรับแผนรุกออนไลน์นั้นตอนนี้พักการขายบนลาซาด้าไว้ก่อน และหันมาสร้างร้านค้าออฟฟิเชียล หลังประสบความสำเร็จมากในมาเลเซีย โดยคาดว่าจะพร้อมใช้งานช่วงปลายปี 2565”
นางสาวนรินติยาระบุว่า สำหรับแนวทางการทำตลาดปีนี้เพิ่มงบฯการตลาดขึ้นอีก 15% ต่อเนื่องจากปี 2563 ที่เพิ่ม 10% จากปีก่อนหน้า ตามแผนเพิ่มความเข้มข้นของการสื่อสาร อาทิ ติ๊กต๊อก ที่เป็นช่องทางสำคัญในการเข้าถึงกลุ่มเด็ก-วัยรุ่น ได้ผลตอบรับน่าพอใจ มีผู้ติดตามกว่า 8 หมื่นคนแล้ว จึงจะเดินหน้าต่อโดยเน้นรีวิว-แกะกล่องสินค้าหายากต่าง ๆ เพื่อสร้างการรับรู้ รวมถึงปรับปรุงตกแต่งสาขาเดิม 25 สาขาต่อเดือน รวมถึงเตรียมลอนช์แคมเปญใหญ่ต่อเนื่องในเดือนมิถุนายนที่มีแคมเปญฉลอง 1,500 สาขา ด้วยการชิงโชคทองคำ 5 บาท และอื่น ๆ ต่อด้วยแคมเปญลดราคาในเดือนกรกฎาคม และแคมเปญโปรโมตสินค้าเมดอินไทยแลนด์ในเดือนสิงหาคม
ขณะเดียวกัน เดินหน้ากิจกรรมซีเอสอาร์และการรับมือการระบาดอย่างต่อเนื่อง อาทิ จับมือพันธมิตรร่วมบริจาคอุปกรณ์การแพทย์ให้โรงพยาบาลต่าง ๆ ในช่วงการระบาดระลอก 3 นี้ เช่นเดียวกับการระดมทำความสะอาดสาขาแบบรายวัน ทั้งนี้ ยังมั่นใจว่าจะสามารถสปีดสาขาได้ครบ 380 สาขาภายในสิ้นปีนี้อย่างแน่นอน
