วัคซีนโควิด แผลงฤทธิ์ ค้าปลีกสหรัฐฟื้นตัวแกร่ง

MARKET MOVE

 

หลังสหรัฐอเมริการะดมฉีดวัคซีนมาตั้งแต่ปลายปี 2563 จนปัจจุบันบรรดาค้าปลีกสหรัฐเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของกำลังซื้อและบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอย สะท้อนจากผลประกอบการช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งค้าปลีกรายใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นยักษ์ค้าปลีกวอลมาร์ต และทาร์เก็ต เชนห้างสรรพสินค้าเมซีส์ ต่างระบุว่าผลประกอบการเดือนเมษายนที่ผ่านมาเติบโตสูงขึ้น และแสดงความเชื่อมั่นว่ากระแสการเติบโตนี้จะยังเดินหน้าต่อไป ด้วยการปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้

สำนักข่าว “ซีเอ็นบีซี” รายงานว่า บรรดาผู้บริหารของเชนค้าปลีกรายใหญ่ในสหรัฐต่างมีความเห็นสอดคล้องไปในทางเดียวกันว่า วงการค้าปลีกสหรัฐเริ่มฟื้นตัวแล้วตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา และจะต่อเนื่องไปในไตรมาส 2 แน่นอน

“โดว แมคมิลลอน” ซีอีโอของวอลมาร์ต กล่าวว่า ตอนนี้สิ่งที่ชาวอเมริกันต้องการคือ การได้ออกจากบ้าน และมาช็อปปิ้งในร้านค้าจริง ๆ ไม่ใช่ผ่านหน้าจอ รวมถึงยังจับจ่ายแบบเต็มที่อีกด้วย สะท้อนจากจำนวนลูกค้าในร้านช่วงเดือนเมษายนซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 12 เดือน และยอดใช้จ่ายเฉลี่ยต่อใบเสร็จที่เพิ่มขึ้น 9.5% ในช่วงไตรมาสแรก

แม้แต่สินค้าที่ซื้อยังแสดงถึงบรรยากาศเฉลิมฉลองการกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าเกี่ยวกับการเดินทาง สินค้าสำหรับงานฉลอง และสินค้าดูแลส่วนบุคคล อย่างยาฟอกสีฟันและเสื้อผ้า

เทรนด์การช็อปปิ้งนี้ทำให้ผลประกอบการไตรมาสแรกของวอลมาร์ตสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์เอาไว้ โดยยอดขายในสหรัฐอเมริกาเติบโตถึง 37% พร้อมกันนี้ยักษ์ค้าปลีกได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตไตรมาส 2 เป็นการเติบโต 5-9%

“ตอนนี้บริษัทเริ่มคิดถึงการขายช่วงเทศกาลต่าง ๆ อย่างฮัลโลวีน วันขอบคุณพระเจ้า หรือคริสต์มาส ซึ่งพลาดโอกาสไปในปีที่แล้วแล้ว”

ไปในทิศทางเดียวกับทาร์เก็ต ซึ่งยอดขายไตรมาสแรกเติบโต 23% เป็น 2.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากอานิสงส์ของการปูพรมฉีดวัคซีนช่วยฟื้นความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ร่วมกับผลตอบรับของบริการส่งสินค้าให้ลูกค้าถึงรถ และกลยุทธ์สินค้าเอ็กซ์คลูซีฟที่ช่วยให้เกิดการซื้อซ้ำต่อเนื่องตลอดช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา

“ไบรอัน คอแนล” ซีอีโอของทาร์เก็ต ฉายภาพว่า ขณะนี้มู้ดการจับจ่ายของผู้บริโภคดีขึ้นมาก หลังจำนวนผู้ได้รับวัคซีนเพิ่มขึ้น พร้อมกับธุรกิจและกิจกรรมสังสรรค์ต่าง ๆ ที่เริ่มกลับมาเปิดทำการ-จัดงานอีกครั้ง

ด้าน “เจฟ เกนเน็ต” ซีอีโอของเมซีส์ แสดงความมั่นใจว่า การฟื้นตัวนี้จะต่อเนื่องไปในช่วงครึ่งหลังของปีแน่นอน โดยระบุว่า ในตลาดยังมีดีมานด์ที่อั้นมาจากช่วงการระบาดซึ่งกินเวลานานกว่า 1 ปีอยู่ โดยเฉพาะการจัดงานสังคมต่าง ๆ ที่ต้องเว้นไปนาน อาทิ งานฉลองจบการศึกษา งานแต่งงาน ฯลฯ เห็นได้จากยอดขายในหลายหมวดสินค้าที่เคยชะงักไปเริ่มกลับมาเติบโตอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าเดินทาง เสื้อสั่งตัด รองเท้าแฟชั่น และอื่น ๆ

นอกจากนี้สินค้าที่ได้รับความนิยมในช่วงการระบาดอย่างของแต่งบ้าน และชุดนอนยังเติบโตด้วยเช่นกัน

ปรากฏการณ์นี้สะท้อนถึงภาพการฟื้นตัวของวงการค้าปลีก หลังการฉีดวัคซีนในวงกว้าง ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะทยอยเกิดขึ้นทั่วโลก