วัคซีนทางเลือก…คึกคัก ! ซิโนฟาร์ม VS โมเดอร์นา

การอนุมัติขึ้นทะเบียนวัคซีน “ซิโนฟาร์ม” จากประเทศจีน ที่ยื่นขอโดยบริษัท ไบโอจีนีเทค จำกัด ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เมื่อวันศุกร์สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา (28 พฤษภาคม) เป็นความเคลื่อนไหวที่สร้างความตื่นตัวให้กับผู้ที่ต้องการวัคซีนทางเลือกให้มีความหวังมากขึ้น

จากก่อนหน้าที่มีเพียง “ซิโนแวก” และ “แอสตร้าเซนเนก้า” ที่รัฐบาลจัดหามาให้และเตรียมทยอยส่งมอบลอตใหญ่ในช่วงตั้งแต่เดือนมิถุนายนจนไปถึงธันวาคม นั่นเพราะวันนี้ “วัคซีนทางเลือก” เริ่มมี “ตัวเลือก” มากขึ้น จากเดิมที่ขณะนี้ประเทศไทยมีวัคซีนทางเลือกเพียงตัวเดียวคือ “โมเดอร์นา” (ซิลลิค ฟาร์มา) และอยู่ระหว่างการดำเนินการเตรียมการนำเข้า

“ซิโนฟาร์ม” นับเป็นวัคซีนโควิด-19 ตัวที่ 5 ของประเทศ ถัดจาก แอสตร้าเซนเนก้า (แอสตร้าเซนเนก้า ประเทศไทย), ซิโนแวก (นำเข้าโดยองค์การเภสัชกรรม), จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (แจนเซ่น-ซีแลค) และโมเดอร์นา

จะว่าไปแล้ว ชื่อเสียงของ “ไบโอจีนีเทค” อาจจะไม่เป็นที่คุ้นเคยนัก

จากการตรวจสอบพบว่านี่คือบริษัทสัญชาติไทย เป็นบริษัทผู้นำเข้ายาและวัคซีน อาทิ วัคซีนไวรัสตับอักเสบ วัคซีนไข้สมองอักเสบ วัคซีนป้องกันบาดทะยัก วัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้า เป็นต้น จดทะเบียนตั้งบริษัทเมื่อเดือนมีนาคม 2536 ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 24 ล้านบาท มีผู้ถือหุ้นใหญ่จาก 2 ตระกูล คือ วรวิวรรธน์ และ ชุติวงศ์

โดยมีกรรมการ ประกอบด้วย นายลือชา วรวิวรรธน์ นายศุภวัฒน์ ชุติวงศ์ และนางสาวดวงรัตน์ นิยมไทย ล่าสุดเมื่อสิ้นปี 2563 มีรายได้รวมกว่า 851 ล้านบาท กำไรสุทธิมากกว่า 94 ล้านบาท นอกจากทำตลาดในประเทศแล้วยังมีการส่งออกวัคซีนไปจำหน่ายในกลุ่มประเทศอาเซียน ทั้งลาว เมียนมา และกัมพูชา

นอกจากนี้ ไบโอจีนีเทค ยังมีบริษัทในเครือ อาทิ ไบโอคลาส โรงงานผลิตก้านสำลีและผลิตภัณฑ์สำลี, ไบโอคอททอน ขายสำลีและผลิตภัณฑ์จากสำลี, ไบโอนิมัล ขายส่งสินค้าทางเภสัชภัณฑ์และทางการแพทย์

หลัง อย.ประกาศแถลงข่าวการขึ้นทะเบียน ซิโนฟาร์ม ไม่นาน ศาสตราจารย์นายแพทย์นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้เปิดแถลงความร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และ อย. เตรียมนำเข้าวัคซีนซิโนฟาร์มจำนวน 1 ล้านโดส ภายในมิถุนายนนี้ ซึ่งอยู่ระหว่างการตกลงราคากันอยู่ ส่วนการกระจายวัคซีน เบื้องต้นจะเปิดให้หน่วยงานที่ช่วยขับเคลื่อนประเทศก่อน เช่น โรงเรียนที่เตรียมเปิดเทอม เป็นต้น

“ความร่วมมือการนำเข้าวัคซีนทางเลือก ซิโนฟาร์ม มีเป้าหมายเพื่อสังคม สนับสนุน และประสานความร่วมมือเพื่อให้การกระจายวัคซีนในสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นไปอย่างทั่วถึง หลังจาก ไบโอจีนีเทค ได้รับการอนุมัติ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์จะสามารถดำเนินการนำเข้าและบริหารจัดสรรวัคซีนซิโนฟาร์มโดยหารือร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ในการกระจายวัคซีนให้กับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนที่สนใจจะจัดซื้อพร้อมประกันวัคซีน ซึ่งจะมีการกำหนดราคาขายราคาเดียวกันทั่วประเทศต่อไป”

ขณะที่แหล่งข่าวจากโรงพยาบาลเอกชนรายใหญ่เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า การมีวัคซีนทางเลือกเพิ่มขึ้นเป็นเรื่องดี และจะช่วยให้ประชาชนมีทางเลือกมากขึ้น เบื้องต้นนอกจาก ไบโอจีนีเทค จะร่วมมือกับราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ในการนำเข้าวัคซีนซิโนฟาร์มแล้ว ในฐานะที่ไบโอจีนีเทคเป็นผู้ได้รับอนุญาตการนำเข้าก็อาจจะกระจายวัคซีนมายังโรงพยาบาลต่าง ๆ

เพื่อรองรับความต้องการของประชาชนที่สนใจและต้องการจะฉีดวัคซีนซิโนฟาร์ม ซึ่งโรงพยาบาลเอกชนก็พร้อมจะเข้ามามีส่วนร่วมตรงนี้ในฐานะที่เป็นผู้ให้บริการ ส่วนในอนาคตโรงพยาบาลจะต้องการวัคซีนตัวนี้มากน้อยเพียงใด ยังไม่สามารถตอบได้

ด้านแหล่งข่าวระดับสูงจากสมาคมโรงพยาบาลเอกชน แสดงความเห็นในเรื่องนี้ว่า การมีซิโนฟาร์มเพิ่มเข้ามาเป็นเรื่องดีและจะทำให้ประชาชนมีทางเลือกมากขึ้น และจะไม่กระทบกับการจัดหาวัคซีนทางเลือก โมเดอร์นา ที่สมาคมกำลังเร่งดำเนินการร่วมกับองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ซึ่งคาดว่าสัปดาห์หน้า (31 พฤษภาคม-4 มิถุนายน) จะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนทั้งในเรื่องของราคาและจำนวน จากนั้นก็จะเป็นขั้นตอนของการนำเข้า

“เบื้องต้นคาดว่าจะสั่งเข้ามาประมาณ 10 ล้านโดส และจากการสำรวจความต้องการ พบว่า โมเดอร์นา เป็นวัคซีนที่คนรุ่นใหม่ให้ความสนใจมาก ส่วนราคาเบื้องต้นที่หารือกันเนื่องจากต้นทุนวัคซีนที่มาไม่สูง ราคาปลายทางบวกประกันแล้วน่าจะอยู่ที่ประมาณ 2,000 บาทต่อโดส คาดว่าสักกันยาฯหรือตุลาฯอาจจะได้ฉีด หรืออาจจะเร็วกว่านั้นก็ได้”

พร้อมกันนี้แหล่งข่าวรายนี้ยังระบุด้วยว่า สำหรับวัคซีนทางเลือกทั้ง 2 ตัว คือ โมเดอร์นา และซิโนฟาร์ม ในแง่ของราคาอาจจะไม่มีผลกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายนัก เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ โดยราคาต้นทาง ซิโนฟาร์มจะอยู่ที่ประมาณ 30 ดอลลาร์/โดส ขณะที่โมเดอร์นา 35-37 ดอลลาร์/โดส และจะขึ้นอยู่กับตัวกลางว่าจะบวกค่าบริหารจัดการมากน้อยแค่ไหน

“หากวัคซีนทางเลือกมาได้เร็วมากขึ้นเท่าไหร่ ดีมานด์ก็จะมากเท่านั้น หากมาช้าดีมานด์ก็จะลดลง เพราะประชาชนส่วนใหญ่จะไปฉีดวัคซีนที่รัฐบาลจัดหามาให้แล้ว”

อีกไม่นานเกินรอ วัคซีนทางเลือกมาแน่ !