เดอะมอลล์ ผนึก 6 แบงก์ เปิดซอฟต์โลนอุ้ม SME

เดอะมอลล์ กรุ๊ป ผนึก 6 ธนาคารชั้นนำ เปิดโครงการ “ประสานพลังเพื่อคู่ค้า เดินหน้าฟื้นฟูธุรกิจ” สนับสนุนสินเชื่อฟื้นฟู SOFT LOAN และเพิ่มศักยภาพ อุ้มรายย่อย กว่า 6,000 ราย เสริมสภาพคล่องทางการเงิน ฟื้นเศรษฐกิจของประเทศไทยอย่างยั่งยืน

วันที่ 31 พฤษภาคม 2564 นางสาวศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า นับแต่การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา ทางบริษัทได้มีนโยบายในการช่วยเหลือคู่ค้า และผู้ประกอบการ รวมถึงประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง ผ่าน 4 มาตรการหลัก คือ การรณรงค์ “ฉีดวัคซีน เพื่อชาติ”, การ “บริจาค ฟันฝ่าวิกฤตการณ์โควิด-19”, การ “สนับสนุน SME และเกษตรกรไทย” และการ “ประสานพลังเพื่อคู่ค้า เดินหน้าฟื้นฟูธุรกิจ”

ด้วยการจับมือกับ 6 ธนาคารชั้นนำ ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และธนาคารออมสิน ร่วมเป็นพันธมิตรเพื่อสนับสนุนสินเชื่อฟื้นฟู SOFT LOAN แก่รายย่อย 6,000 ราย

ทั้งนี้มาตรการในการสนับสนุนหลัก 4 ข้อ ประกอบไปด้วย 1.มาตรการรณรงค์ “ฉีดวัคซีน เพื่อชาติ” สนับสนุนภาครัฐเพื่อให้การฉีดวัคซีนโควิด-19 โดยการสนับสนุนการดำเนินงานของภาครัฐ ในการจัดตั้งหน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ด้วยงบประมาณกว่า 200 ล้านบาท สนับสนุนพื้นที่ 6 สาขา ได้แก่ เดอะมอลล์ บางกะปิ, เดอะมอลล์ บางแค, ดิ เอ็มโพเรียม และสยามพารากอน, เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน และ เดอะมอลล์ โคราช โดยจะดำเนินการระหว่างเดือนพฤษภาคม ถึง ธันวาคม 2564 ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร, จังหวัดนนทบุรี และ จังหวัดนครราชสีมา โดยคาดว่าจะบริการฉีดวัคซีนได้วันละ 2,000 – 5,000 คน/สาขา รวมทุกสาขา 12,000 คน/วัน หรือ 400,000 คน/เดือน

2.มาตรการ “บริจาค ฟันฝ่าวิกฤตการณ์โควิด-19” ร่วมบริจาค “เงิน” และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ให้กับ 5 โรงพยาบาล ได้แก่ โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลราชวิถี และสถาบันบำราศนราดูร เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาการขาดแคลนอุปกรณ์ที่สำคัญทางการแพทย์ในการดูแลผู้ป่วย โดยในปี 2563 ได้ร่วมบริจาคเงิน และอุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมมูลค่า 20 ล้านบาท และปี 2564 อยู่ระหว่างดำเนินการบริจาคอุปกรณ์ทางการแพทย์และเครื่องช่วยหายใจ รวมมูลค่า 10 ล้านบาท และรวมมูลค่าทั้งโครงการทั้งสิ้น 30 ล้านบาท

3.มาตรการ “สนับสนุน SME และเกษตรกรไทย” มีมาตรการช่วยเหลือภาคเกษตรกรรม ด้วยการเปิดพื้นที่ เดอะมอลล์ ทุกสาขา ตลอดทั้งปี เป็นช่องทางการจำหน่ายสินค้า เพื่อช่วยระบายสินค้าภาคเกษตรกรรม ภาคอุตสาหกรรมแปรรูป ภาควิสาหกิจชุมชน OTOP ตลอดจน SME โดยได้นำร่องด้วยโครงการตลาดคัดไทย, ตลาดเดอะมอลล์รวมใจ, THE MALL TOGETHER MARKET, เดอะมอลล์ บ้านของคนโคราช ฯลฯ

4.มาตรการ “ประสานพลังเพื่อคู่ค้า เดินหน้าฟื้นฟูธุรกิจ” ผนึกกำลังภาครัฐและภาคเอกชน ร่วมกับสถาบันการเงินชั้นนำ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และธนาคารออมสิน ร่วมเป็นพันธมิตรเพื่อสนับสนุนสินเชื่อฟื้นฟู SOFT LOAN และเพิ่มศักยภาพ ให้ผู้ประกอบการ ร้านค้า ซัพพลายเออร์ SMEs ผู้ประกอบการรายย่อย ได้เข้าถึงสินเชื่อฟื้นฟู เพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย และรักษาการจ้างงาน เพื่ออนาคตเศรษฐกิจของประเทศไทยอย่างยั่งยืน โดยวางเป้าหมายช่วยดูแลช่วยเหลือคู่ค้า ผู้ประกอบการ ร้านค้า ซัพพลายเออร์ SMEs และผู้ประกอบการรายย่อย รวมกว่า 6,000 ราย

อย่างไรก็ตามปัจจุบันธุรกิจค้าปลีกนับว่ามีบทบาทสำคัญในการช่วยให้เม็ดเงินจำนวนมากหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ มีผู้ประกอบการ SMEs ที่เป็นรากฐานของเศรษฐกิจไทยเกี่ยวข้องถึง 2.5 ล้านราย หรือประมาณ 81% ของผู้ประกอบการ SMEs ทั้งประเทศ และเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีการจ้างงานมากที่สุดถึง 9 ล้านคน คือเป็น 77% ของการจ้างงานในภาค SMEs หรือมากถึง 54% ของการจ้างงานทั้งหมด