สธ.เปิดแผนฉีดวัคซีนหมู่ 7 มิ.ย. คลุมคนไทย-คนต่างชาติทั่วประเทศ

ฉีดวัคซีน
Photo by Lillian SUWANRUMPHA / AFP

สธ.กางโรดแมประดมฉีดวัคซีนโควิดสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ 7 มิ.ย.นี้ คลุมคนไทย-คนต่างชาติทั่วประเทศ พร้อมเร่งเจรจานำเข้าวัคซีนตัวอื่น ลุ้นไฟเซอร์-จอห์นสัน เข้าไทยไตรมาส 3 ปีนี้

วันที่ 2 มิถุนายน 2564 นพ.โสภณ เอี่ยมสิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยงานเสวนาระหว่างกระทรวงสาธารณสุขและองค์การอนามัยโลก ในหัวข้อ “การกระจายวัคซีนในประเทศไทย” โดยระบุว่า ปัจจุบันทางภาครัฐได้เตรียมจัดหาวัคซีนให้เพียงพอทั้งในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล ตลอดจนพื้นที่ต่างจังหวัด

นพ.โสภณ เอี่ยมสิริถาวร

มิ.ย. ส่งแอสตร้าเซนเนก้า-ซิโนแวค 6 ล้านโดส

ทั้งนี้ ในวันที่ 7 มิ.ย. 64 จะมีการฉีดวัคซีนโควิดหมู่ในประเทศไทยแบบปูพรมเป็นครั้งแรก โดยในเดือนนี้จะกระจายวัคซีนไปสู่ประชาชนทั้งหมด 6 ล้านโดส โดยแบ่งเป็นการจัดสรรวัคซีนออกเป็น 4 งวด

สำหรับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ภายในสัปดาห์นี้จะเริ่มส่งมอบ 2 ครั้ง จำนวน 240,000 โดส และอีกกว่า 1,000,000 โดส ส่วนวัคซีนซิโนแวคจะส่งมอบราว 700,000 โดส เบื้องต้นรวมแล้วประมาณ 2 ล้านโดส ก่อนที่จะทยอยส่งมอบภายในเดือน มิ.ย.ให้ครบ 6 ล้านโดส

อย่างไรก็ตาม ในจังหวัดที่มีการระบาดสูงจะได้รับการจัดสรรวัคซีนโควิดในจำนวนมากก่อน เพื่อควบคุมโรคไม่ให้กระจายไปยังจังหวัดอื่น ๆ ด้านจังหวัดที่มีการระบาดน้อยจะได้ทีหลัง

เมื่อถามถึงอัตราความเร็วในการฉีดที่ปัจจุบันฉีดได้ราว 100,000 คน นพ.โสภณ กล่าวว่า เกิดจากก่อนหน้านี้ประเทศไทยมีวัคซีนจำนวนจำกัด แต่เดือน มิ.ย. นี้เมื่อมีความพร้อมของจำนวนวัคซีน จะมีศักยภาพสูงฉีดได้ถึงวันละ 500,000-1,000,000 คน

ระดมฉีดคนไทย-ต่างชาติ

นอกจากจะเตรียมฉีดคนไทยกลุ่มที่ 2 อันได้แก่ ผู้สูงอายุ และกลุ่มผู้มีโรคประจำตัวเรื้อรัง 7 กลุ่มโรคแล้ว ขณะนี้ประเทศไทยยังเตรียมฉีดให้แก่ชาวต่างชาติเพิ่มเติมอีกด้วย

โดยเริ่มจากนักการทูต ไปจนถึงองค์กรระหว่างประเทศ ตอนนี้มีการฉีดอยู่ใน 2 โรงพยาบาล ได้แก่ รพ.วิมุต และ รพ.เมดพาร์ค ซึ่งกลุ่มนี้จะได้รับวัคซีนยี่ห้อซิโนแวคเท่านั้น ทั้งนี้จะลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.ThailandIntervac.com/diplomats

ส่วนประชาชนชาวต่างชาติทั่วไป จะเริ่มเปิดให้ลงทะเบียนล่วงหน้าในวันที่ 7 มิ.ย. 64 ผ่านเว็บไซต์ www.ThailandIntervac.com โดยจะเริ่มจากกลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มผู้มีโรคประจำตัวก่อน

ลุ้นไฟเซอร์-จอห์นสันเข้าไตรมาส 3

นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ กล่าวว่า ความคืบหน้าในการจัดหาวัคซีนชนิดอื่นของประเทศไทย ขณะนี้มีจำนวนเป้าหมาย 1 ล้านโดส สามารถจัดหามาได้ 2 ส่วน คือ แอสตร้าเซนเนก้าและซิโนแวค

สำหรับวัคซีนไฟเซอร์ และจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน อยู่ระหว่างต่อรองสัญญาระหว่างบริษัทผู้ผลิตและทางการไทย เบื้องต้นคาดว่าไฟเซอร์จะได้มาประมาณ 20 ล้านโดส และจอห์นสัน 5 ล้านโดส จะเข้าไทยเร็วสุดไตรมาส 3 ปีนี้ ด้านโมเดอร์นาและสปุตนิกวี กำลังดำเนินการ อย่างไรก็ดี ก่อนสิ้นปีนี้คาดว่าจะมีวัคซีนตัวอื่นมาให้คนไทยได้ฉีดอย่างแน่นอน

นพ.นคร เปรมศรี

WHO วัคซีนเข็ม 3 อยู่ระหว่างศึกษา

ด้าน ดร.ซุมยา สวามินาธาน หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ องค์การอนามัยโลก กล่าวเพิ่มเติมถึงกรณีข้อสงสัยในการฉีดกระตุ้นภูมิคุ้มกันวัคซีนโควิดเข็มที่ 3 โดยระบุว่า ขณะนี้บริษัทผู้ผลิตวัคซีนในทั่วโลกกำลังดำเนินการศึกษาอยู่ โดยอาจต้องใช้เวลาราว 1 ปี ก่อนจะตอบได้อย่างแน่นอน

แต่คำแนะนำเบื้องต้นควรฉีดวัคซีนโควิดในครบก่อน 2 เข็ม เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันในระดับที่น่าพอใจ ส่วนในกลุ่มประชาชนที่มีอาการแพ้วัคซีนโควิดในเข็มแรกหนัก ไม่แนะนำให้ฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 เป็นชนิดเดียวกัน ควรเปลี่ยนชนิด เช่น หากฉีดวัคซีนชนิดเชื้อตายแพ้ ต้องเปลี่ยนไปฉีดชนิดอื่น อาทิ mrna เป็นต้น

นอกจากนี้ สำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนโควิดครบ 2 เข็ม และยังเกิดการติดเชื้อ สามารถฉีดวัคซีนป้องกันโควิดซ้ำได้ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้สูงขึ้น เพราะโดยปกติวัคซีนจะสร้างภูมิคุ้มกันได้มากกว่าภูมิคุ้มกันทางธรรมชาติที่ได้มาจากการติดเชื้อในครั้งแรก

“วัคซีนในประเทศไทยไม่ว่าจะเป็นแอสตร้าเซนเนก้า ซิโนแวค หรือจะเป็นซิโนฟาร์ม สามารถป้องกันอัตราการป่วยและการเสียชีวิตได้สูงทั้งสิ้น”

ซุมยา สวามินาธาน