ทีวีดิ้น กระหน่ำโปรปลุกตลาด “เสี่ยวหมี่” ขนทัพสินค้าบุก

ตลาดทีวี 2.6 หมื่นล้าน ดิ้นปั๊มยอดฝุ่นตลบ หลังโดนพิษโควิด-พาแนลแพง-ชิปขาดทำต้นทุนพุ่ง ลุ้นฟุตบอลยูโร-โอลิมปิกปลุกตลาด ส่งทัพสินค้าใหม่เจาะเซ็กเมนต์ตลาดบน กระหน่ำส่วนลด-ผ่อนยาว-เก่าแลกใหม่ หวังชิงลูกค้า “แอลจี” ทุ่มงบฯจัดแคมเปญซื้อทีวีลุ้นทีวี-เสริมแกร่งหน้าร้าน ขณะที่ “ซัมซุง” ไม่น้อยหน้า ชูผ่อนยาว 24 เดือน ดันทีวีพรีเมี่ยม ส่วนร้านค้างัดกลยุทธ์เก่าแลกใหม่-ชิงโชคทองคำ “เสี่ยวหมี่” ประกาศโดดร่วมวงขนทัพทีวีลงสนาม

แม้ปีนี้ ตลาดทีวีที่มีมูลค่าตลาดรวมราว ๆ 2.65 หมื่นล้านบาท จะมีปัจจัยบวกจากมหกรรมกีฬาใหญ่ทั้งฟุตบอลยูโร (12 มิ.ย.-12 ก.ค. 2564) และโอลิมปิก (23 ก.ค.-8 ส.ค. 2564) มาสนับสนุน แต่ปัญหาเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและกำลังซื้อที่ลดลง ซึ่งเป็นผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ลากยาวข้ามปี รวมถึงต้นทุนที่พุ่งสูงขึ้น ทำให้แบรนด์ต่าง ๆ เร่งปรับกลยุทธ์ ด้วยการหันมาโฟกัสเซ็กเมนต์ที่มีศักยภาพแทนการหว่านแห และเริ่มทยอยลอนช์แคมเปญออกมาปลุกตลาดกันอย่างคึกคัก และแม้สถานการณ์จะไม่เป็นใจ แต่เสี่ยวหมี่ ยักษ์ไอทีจากแดนมังกร ตัดสินใจเข้าทำตลาดทีวีในไทยอย่างเป็นทางการ ด้วยการลอนช์ทัพสินค้าใหม่ พร้อมโปรโมชั่น
กระตุ้นการขาย

ลดความแรงโปรชดเชยต้นทุนพุ่ง

นายอำนาจ สิงหจันทร์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายผลิตภัณฑ์หมวดภาพและเสียง เครื่องปรับอากาศและเครื่องฟอกอากาศ บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปีนี้ตลาดทีวีอาจไม่คึกคักหรือเติบโตมากเท่ากับปีที่มีมหกรรมกีฬาครั้งก่อน ๆ เนื่องจากปัจจัยลบหลายด้าน ทั้งสถานการณ์โรคระบาดที่ทำให้ผู้บริโภคเลี่ยงการออกมาช็อปปิ้ง และชะลอการใช้จ่าย ส่วนแบรนด์ก็ไม่สามารถจัดกิจกรรมเรียกความสนใจที่จุดจำหน่ายได้ ขณะเดียวกัน ความร้อนแรงของโปรโมชั่นก็มีแนวโน้มลดลง เช่น เดิมอาจลดราคาสูงสุด 40% แต่ปีนี้อาจลดเพียงสูงสุด 20% จากสถานการณ์ต้นทุนที่พุ่งสูงขึ้นตามราคาหน้าจอ หรือพาแนล, ชิปคอมพิวเตอร์ และการขนส่ง ทำให้หลายแบรนด์ต้องลดความเข้มข้นการทำตลาดลงเพื่อรักษาสัดส่วนรายได้

จากการประเมิน ณ ตอนนี้ ปัญหาต้นทุนน่าจะทำให้แต่ละแบรนด์ต้องปรับราคาสินค้าขึ้นประมาณ 20% แล้ว แต่เชื่อว่าส่วนใหญ่จะเลือกลดระดับความแรงของโปรโมชั่นลงแทน เพื่อไม่ให้ส่งผลกับการตัดสินใจของผู้บริโภคมากนัก อย่างไรก็ตาม เซ็กเมนต์ระดับบน-พรีเมี่ยมถือเป็นความหวังของตลาด เนื่องจากเป็นตลาดที่ยังมีดีมานด์และกำลังซื้อ โดยส่วนตัวเชื่อว่าทีวีไซซ์ใหญ่ระดับ 70-75 นิ้ว จะเป็นกลุ่มสินค้าที่คึกคักและสร้างการเติบโตให้ตลาด

สำหรับแอลจี บริษัทยังเดินหน้าลงทุนกับการขายทีวีในช่วงเดือนมิถุนายนนี้เต็มที่ ด้วยงบฯใกล้เคียงกับปีที่ผ่าน ๆ มา โดยลอนช์แคมเปญ “LG Perfect Match” ตั้งแต่วันที่ 1-30 มิถุนายน ในธีมฟุตบอลยูโร ด้วยการลดราคาทีวี OLED, NanoCell และ UHD สูงสุด 20% ขยายระยะเวลาประกันจาก 1 ปี เป็น 3 ปี และแถมหูฟังไร้สาย LG TONE Free ผ่อน 0% นาน 10 เดือน รวมถึงลุ้นรับ OLED 4K ซีรีส์ C1 ขนาด 77 นิ้ว มูลค่า 149,990 บาท เมื่อซื้อทีวีรุ่นที่ร่วมรายการ พร้อมตกแต่งจุดจำหน่ายและคงจำนวนพนักงานขาย 1-4 คนตามปกติ เพื่อเพิ่มโอกาสขาย

“แม้ตอนนี้ลูกค้าจะเข้ามาที่จุดขายน้อย และใช้เวลาในร้านสั้นลง แต่กลุ่มที่มานั้นมีโอกาสตัดสินใจซื้อสูง จึงต้องให้ความสำคัญกับจุดจำหน่าย พนักงาน และแคมเปญที่เข้าใจง่าย ได้รับส่วนลด-ของแถมทันที ไม่ซับซ้อน รวมถึงการผ่าน 0% เพื่อจูงใจและชิงลูกค้าให้เลือกซื้อทีวีของแอลจี และตั้งเป้ายอดขายกลุ่มสินค้าทีวีเติบโต 20% เมื่อเทียบกับปีที่มีการแข่งขันฟุตบอลยูโร-โอลิมปิกครั้งก่อน”

ลุ้นกีฬาหนุนตลาดโต 10%

นางสาวเจนนิเฟอร์ ซอง ประธานธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้า บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า ตลาดปีนี้อาจเติบโตขึ้น 10% จากการผลักดันของอีเวนต์กีฬาทั้งโอลิมปิก และฟุตบอลยูโร รวมถึงการต้องใช้ชีวิตอยู่กับบ้านมากขึ้น ทำให้ผู้บริโภคต้องการทีวีที่ตอบโจทย์หลากหลาย อาทิ การเรียน, ทำงาน, ออกกำลังกาย และความบันเทิง รวมถึงดีไซน์เรียบหรู สะท้อนจากยอดขายทีวี QLED ที่เป็นทีวีพรีเมี่ยมของบริษัท และมีฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์ดังกล่าว สามารถเติบโตขึ้นถึง 35% เมื่อปี 2563 สวนทางกับการหดตัวของตลาด

“หากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกถูกยกเลิก อาจทำให้การเติบโตแบบก้าวกระโดดของตลาดช่วงปลายเดือนกรกฏาคม ถูกขยับออกไปเป็นสิงหาคม โดยเชื่อว่าแบรนด์และช่องทางจัดจำหน่ายต่าง ๆ จะมีแผนสำรอง อาทิ การชูแคมเปญอื่น ๆ ขึ้นมาแทน นอกจากนี้ ทีวีความละเอียด 8K และทีวีไซซ์ใหญ่ 75 นิ้วขึ้นไป ยังมีความต้องการมากขึ้น เห็นได้จากยอดขายทีวี QLED 8K ซึ่งโตขึ้น 1.5 เท่าตัว เมื่อเทียบกับปี 2562 และขายทีวีขนาด 75 นิ้วขึ้นไป เติบโตขึ้น 89% เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสแรกของปีที่แล้ว

ประธานธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้า บริษัท ไทยซัมซุง กล่าวว่า ช่วงหน้าขายนี้ ซัมซุงตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าพรีเมี่ยมและไฮเอนด์เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว โดยมี Neo QLED ทั้ง 8K และ 4K ที่เปิดตัวเมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา ด้วยจุดเด่นเทคโนโลยีหน้าจอแบบใหม่ที่มีคุณภาพภาพสูงขึ้น เป็นตัวชูโรง ควบคู่ไปกับสินค้ากลุ่ม lifestyle TV ที่เน้นดีไซน์ ด้วยโปรโมชั่นที่ทำให้ผู้บริโภคสามารถจับต้องสินค้าระดับบน-ไฮเอนด์ได้ง่ายขึ้น เช่น ผ่อน 0% นานสูงสุด 24 เดือน ทำให้ทีวีระดับพรีเมี่ยมอย่าง Neo QLED รุ่นเริ่มต้น ผ่อนเริ่มต้นเพียง 1,875 บาทต่อเดือน

“เสี่ยวหมี่” โดดแย่งเค้ก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้แม้ตลาดทีวีจะมีความท้าทาย แต่ล่าสุด เสี่ยวหมี่ หนึ่งในยักษ์อิเล็กทรอนิกส์สัญชาติจีน มีความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญด้วยการกระโดดเข้ามารุกตลาดทีวีในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ด้วยการปูพรม “มี่ทีวี” (Mi TV) 2 ซีรีส์ เข้าสู่ช่องทางจำหน่ายออนไลน์ทั้ง Lazada, Shopee, JD Central, Thisshop และร้าน Mi Stores ที่ร่วมรายการ รวม 4 รุ่น ได้แก่ Mi TV Q1 ขนาด 32 นิ้ว 43 นิ้ว และ 55 นิ้ว รวมถึง Mi TV Q1 ขนาด 75 นิ้ว พร้อมจัดโปรโมชั่นหลากหลายตั้งแต่ 6 มิถุนายน-31 สิงหาคมนี้ เพื่อจูงใจผู้บริโภค อาทิ ลดราคาสูงสุด 2,000 บาท แถมหุ่นยนต์ดูดฝุ่นมูลค่า 1.3 หมื่นบาท แถมโค้ดดูช่องสตรีมมิ่ง WeTV และ iQIYI นาน 30 วัน รวมถึงโปรโมตการรับประกันสินค้าแบบเข้าซ่อมถึงบ้าน (onsite service) นาน 3 ปี ยกเว้นรุ่น 32 นิ้ว รับประกัน 1 ปี ส่วนอุปกรณ์เสริมรับประกัน 6 เดือน เพื่อสร้างความเชื่อมั่น


ด้านความเคลื่อนไหวของช่องทางจำหน่ายต่าง ๆ จากการสำรวจของผู้สื่อข่าวพบว่า โมเดิร์นเทรดอย่างเพาเวอร์มอลล์ และเพาเวอร์บาย ต่างจัดโปรโมชั่นกระตุ้นสินค้าทีวีในธีมการแข่งขันฟุตบอลยูโรในช่วงเดือนมิถุนายนนี้เช่นกัน โดยเพาเวอร์มอลล์ จัดแคมเปญ “เชียร์สนั่น คมชัดทะลุจอ” ยาวตั้งแต่ 20 พฤษภาคม-15 กรกฎาคม ลดราคาทีวีแบรนด์ต่าง ๆ สูงสุด 50%, แจกโค้ดส่วนลดเพิ่ม, โปรโมชั่นราคาพิเศษวันเดียว รวมถึงผ่อน 0% นาน 10 เดือน เช่นเดียวกับเพาเวอร์บายที่จัดแคมเปญ ทีวีคมชัด “เชียร์บอลสะใจ” ตั้งแต่ 1-30 มิถุนายนนี้ โดยลดราคาสูงสุด 10% และลดเพิ่ม 15% เมื่อแลกคะแนน The1, เครดิตเงินคืนสูงสุด 28,000, ลุ้นทองคำ รวมถึงทีวีเก่าแลกส่วนลดสูงสุด 20,000 เฉพาะการสั่งทีวีผ่าน Home Delivery และให้บริษัทรับทีวีตัวเก่ากลับ