ยึดทำเลทอง “เยาวราช” I”m China วัดฝีมือค้าปลีก

คอลัมน์ จับกระแสตลาด

ไม่เพียงแต่ความเคลื่อนไหวของยักษ์เชนค้าปลีกเมืองไทยอย่างกลุ่ม “เดอะมอลล์-เซ็นทรัล” ที่เดินหน้าสยายปีกสาขาให้ครอบคลุมกำลังซื้อในทุกพื้นที่ วันนี้บริษัทอสังหาริมทรัพย์หลายต่อหลายแห่งก็ให้ความสนใจกระโดดเข้ามาแข่งขันในธุรกิจนี้ไม่หยุดหย่อน เช่นเดียวกับ “แกรนด์ ยูนิแลนด์” บริษัทผู้พัฒนาโครงการบ้านจัดสรร-โรงแรม ที่ได้เดินหน้ารุกเข้าสู่ธุรกิจค้าปลีกต่อเนื่อง เริ่มด้วยโครงการ “วัน แอท โบ๊เบ๊” ศูนย์การค้าปลีก-ส่งเสื้อผ้า ต่อด้วย “แอมพาร์ค” ไลฟ์สไตล์มอลล์ใกล้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

และล่าสุดกับ “แอมไชน่าทาวน์” โครงการมิกซ์ยูสย่านเยาวราชภายใต้คอนเซ็ปต์ โมเดิร์นไชนีส ที่รวมเอาศูนย์การค้า โรงแรม และคอนโดมิเนียมมาไว้ในโครงการเดียว เพื่อรับดีมานด์ของคนในชุมชน ตลอดจนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่

“สุวรรณ เลิศปัญญาโรจน์” ประธานกรรมการ บริษัท แกรนด์ ยูนิแลนด์ จำกัด และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอแอมไชน่าทาวน์ จำกัด บอกว่า ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา แกรนด์ ยูนิแลนด์ รุกคืบสู่ธุรกิจรีเทลมากขึ้น โดยยุทธศาสตร์สำคัญคือการปั้นพื้นที่ค้าปลีกในย่านชุมชน หรือย่านธุรกิจสำคัญ ซึ่ง “เยาวราช” ถือเป็นทำเลศักยภาพที่ยังไม่มีคู่แข่ง เพราะพื้นที่ว่างในย่านนี้หาได้ยาก และถือได้ว่าพื้นที่ 3 ไร่เศษของแอมไชน่าทาวน์ คือพื้นที่ใหญ่แปลงสุดท้ายที่เหลืออยู่

“เยาวราชเป็นแหล่งชุมชน แหล่งการค้า และเป็นย่านท่องเที่ยว ส่วนใหญ่เป็นอาคารในรูปแบบห้องแถวเพื่อประกอบการค้า ขณะที่ที่พักอาศัยมีอยู่จำกัด ย่านนี้จึงมีความต้องการที่พักอาศัย ตลอดจนพื้นที่ทำมาค้าขาย ซึ่งแอมไชน่าทาวน์จะเข้ามาตอบโจทย์เหล่านี้”

โครงการแอมไชน่าทาวน์ตั้งอยู่บนถนนเจริญกรุง ตรงข้ามซอยเท็กซัสสุกี้ ใจกลางเยาวราช ติดสถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีวัดมังกร พื้นที่ 4 ชั้นแรกจะเป็นศูนย์การค้า ที่นอกจากจะมีร้านค้าแบรนด์ดังอย่างเคเอฟซี, สตาร์บัคส์, เอ็มเค, บาร์บีคิว พลาซ่า, ธนาคาร, ศูนย์อัญมณี, ร้านจำหน่ายเสื้อผ้า, ร้านขายสินค้าอุปโภคบริโภค และศูนย์บริการอื่น ๆ แล้วนั้น

แม็กเนตสำคัญของศูนย์ คือ การรวบรวมของดีของเด่นของเยาวราชมาไว้ในที่เดียว ภายใต้แนวคิด Little China Town รวมทั้งศูนย์รวมร้านอาหารบริเวณชั้น 3 ที่จะมีร้านสตรีตฟู้ดท้องถิ่นของย่านเยาวราช วรจักร แยกเฉลิมบุรี เวิ้งนาครเขษม

“เราอยากขยายธุรกิจไปครอบคลุมทุกความต้องการปัจจัย 4 นอกจากเรื่องที่พักอาศัย พื้นที่ค้าปลีกก็ตอบโจทย์เรื่องการใช้ชีวิต โดยเฉพาะเรื่องอาหาร ศูนย์การค้าของแกรนด์ ยูนิแลนด์ จึงจะให้ความสำคัญกับพื้นที่ร้านอาหารมากขึ้น”

ขณะที่โรงแรมได้ร่วมกับกลุ่มธุรกิจโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล โฮเทลส์ กรุ๊ป เปิดให้บริการโรงแรมระดับ 4 ดาว Holiday Inn Express China Town จำนวน 224 ห้อง รองรับนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจต่างชาติ ส่วนโซนที่พักอาศัย เป็นคอนโดมิเนียมตกแต่งพร้อมเข้าอยู่ 46 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 2.9 ล้านบาท รวมทั้งมีพื้นที่จอดรถใต้ดินรองรับผู้มาใช้บริการโครงการกว่า 300 คัน

ตอนนี้พื้นที่เช่าของศูนย์การค้าถูกจองแล้วกว่า 70% โดยคิดอัตราค่าเช่าอยู่ที่ 2,500 บาทขึ้นไปต่อตารางเมตรต่อเดือน ขณะที่คอนโดมิเนียมจะเริ่มเปิดจองปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยที่ความคืบหน้าของโครงการคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จปลายปี 2561 และเปิดให้บริการได้ช่วงไตรมาสแรกปี 2562 พอดีกับที่รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายช่วงหัวลำโพง-ท่าพระเปิดให้บริการ

สำหรับแกรนด์ ยูนิแลนด์ คือ ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์มานานกว่า 30 ปี โดยเฉพาะโครงการที่อยู่อาศัย-โรงแรม ที่ถือเป็นรายได้หลักในเวลานี้ แต่ธุรกิจรีเทลคือธุรกิจที่กำลังโฟกัสมากขึ้น และคาดว่าจะเติบโตขึ้นได้อีกมากจากปัจจุบันที่คิดเป็นสัดส่วนรายได้กว่า 30% ตั้งเป้ามีค้าปลีก 10 แห่ง ภายใน 10 ปีต่อจากนี้ โดยตอนนี้อยู่ระหว่างเจรจาหาพื้นที่ผืนใหม่ในกรุงเทพฯ ควบคู่กับการพัฒนาโครงการในอนาคต อย่าง Harbour55 ศูนย์การค้า ร้านอาหาร และศูนย์จำหน่ายอาหารทะเล ใกล้ท่าเทียบเรือประมงหัวหิน

“ทำบ้านจัดสรร ขายหมดก็จบไป แต่ทำค้าปลีก ปล่อยเช่าไปแต่พื้นที่ไม่ได้ไปไหน”


ค้าปลีกจึงกลายเป็น 1 ในธุรกิจที่ “แกรนด์ ยูนิแลนด์” ติดอกติดใจ และพร้อมเดินเครื่องเต็มสูบในช่วง 10 ปีจากนี้