อเมริกัน แห่กลับเข้าฟิตเนส หวังปั้นหุ่นเฟิร์ม…รับคลายล็อก

market movbe

 

แม้ฟิตเนสในประเทศไทยจะยังต้องกัดฟันทนกับการปิดให้บริการชั่วคราวต่อไปอีกระยะหนึ่ง แต่แนวโน้มการฟื้นตัวของฟิตเนสในสหรัฐ หลังการระดมฉีดวัคซีน และผ่อนคลายมาตรการสกัดโรคอย่างไม่ต้องสวมหน้ากาก หรือสามารถรวมกลุ่มกันได้แล้ว น่าจะช่วยสะท้อนถึงโอกาสฟื้นตัวของธุรกิจฟิตเนสในไทยเช่นกัน

สำนักข่าว “ซีเอ็นบีซี” รายงานโดยอ้างผลสำรวจของบริษัทวิจัยเจฟฟรีส์ (Jefferies) ว่า ชาวอเมริกันจำนวนมาก เริ่มหันกลับมาใช้บริการฟิตเนสอีกครั้ง หลังต้องออกกำลังกายอยู่บ้านมาอย่างยาวนานเกิน 1 ปี แม้ผู้บริโภคจำนวนมากจะลงทุนซื้ออุปกรณ์ออกกำลัง-สมัครบริการฟิตเนสออนไลน์ไปในช่วงการระบาดแล้วก็ตาม ขณะเดียวกันความสนใจในการซื้ออุปกรณ์ออกกำลังสำหรับใช้ในครัวเรือนและโปรแกรมออกกำลังออนไลน์เริ่มลดลง

โดยจากการสำรวจของบริษัทวิจัยเจฟฟรีส์ ซึ่งเก็บข้อมูลทั้งจำนวนผู้ใช้บริการในฟิตเนสหลายแห่ง อาทิ แพลเน็ต ฟิตเนส, 24 ฮาวเวอร์ ฟิตเนส รวมไปถึงการเสิร์ชข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตเกี่ยวกับการออกกำลังกาย พบว่า จำนวนการค้นหา “ฟิตเนส-ยิมใกล้บ้าน” เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และกลับมาอยู่ในระดับเดียวกับช่วงเดือนมกราคม 2563 ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดตลอดกาล

“ตามปกติเดือนมกราคมเป็นช่วงที่ธุรกิจฟิตเนสคึกคักที่สุด เพราะผู้คนจำนวนมากกำลังเห่อกับการตั้งเป้าหมายการลดน้ำหนัก การค้นหาข้อมูล-สมัครสมาชิกฟิตเนสจึงพุ่งขึ้นแบบก้าวกระโดดในช่วงดังกล่าว” บริษัทวิจัยเจฟฟรีส์อธิบาย

ไปในทิศทางเดียวกันกับจำนวนผู้ใช้บริการฟิตเนสที่แม้จะไม่เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด แต่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตลอดตั้งแต่ต้นปี โดยจำนวนผู้ใช้บริการเมื่อเดือนพฤษภาคมอยู่ในระดับ 83% ของช่วงเดือนมกราคม 2563 และต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงเวลาปกติเพียง 6% เท่านั้น

การฟื้นตัวนี้เห็นได้ชัดเจนในรัฐที่มาตรการสกัดโรคค่อนข้างผ่อนคลาย อาทิ เทกซัส, ฟลอริดา และจอร์เจีย ในขณะที่รัฐซึ่งมีมาตรการเข้มงวดอย่างรัฐด้านตะวันออกเฉียงเหนือ และแนวชายฝั่งตะวันตกจะฟื้นตัวช้ากว่า สะท้อนว่า ความเข้มงวดส่งผลโดยตรงต่อการฟื้นตัว

ขณะเดียวกัน ความสนใจหาซื้ออุปกรณ์ออกกำลัง อย่างเสื่อโยคะ เครื่องนวด จักรยานออกกำลัง ฯลฯ เริ่มลดลง โดยบริษัทวิจัยเจฟฟรีส์ ระบุว่า การค้นหาสินค้าเหล่านี้ในช่องทางออนไลน์ทยอยลดลงมาตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม 2564 แล้ว เช่นเดียวกับจำนวนผู้ใช้เว็บไซต์ออกกำลังออนไลน์ที่เริ่มลดลงต่อเนื่อง นับตั้งแต่ได้รับความนิยมสูงสุดไปเมื่อเมษายน 2563

โดยผู้ใช้อินเทอร์เน็ตจำนวนไม่น้อยหันไปเข้าชมเว็บไซต์ของฟิตเนสรายต่าง ๆ แทน คาดว่าเป็นการสมัคร หรือต่ออายุสมาชิก รวมถึงเช็กนโยบายการใส่หน้ากากในแต่ละสาขา

อย่างไรก็ตาม บริษัทวิจัยเจฟฟรีส์ เชื่อว่า รูปแบบการให้บริการของฟิตเนสจะเปลี่ยนแปลงไป “แรนดี โคนิส” นักวิเคราะห์ของเจฟฟรีส์ กล่าวว่า หลังจากนี้ธุรกิจฟิตเนสน่าจะปรับตัวไปสู่โมเดลไฮบริดที่ผสมระหว่างการให้บริการออกกำลังในสถานที่แบบออฟไลน์และบริการคลาสออนไลน์สำหรับออกกำลังที่บ้าน ด้วยการต่อยอดบริการ-กระแสนิยมในช่วงปิดบริการชั่วคราว

แบรนด์ที่สามารถพัฒนาโมเดลไฮบริดให้สมบูรณ์ได้ก่อนจะกลายเป็นผู้ชนะในสมรภูมิการแข่งขันยุคหลังโควิด-19

ด้านผู้ผลิตอุปกรณ์ออกกำลังสำหรับใช้ในครัวเรือนเองก็เริ่มปรับตัวรับความเปลี่ยนแปลงนี้เช่นเดียวกัน โดยเพโลตัน (Peloton) ผู้ผลิตจักรยานออกกำลังที่ได้รับความนิยมล้นหลามในสหรัฐอเมริการะหว่างช่วงการระบาด พยายามรักษาโมเมนตัมความนิยมที่ได้รับในช่วงล็อกดาวน์เอาไว้ ด้วยการเลือกขยายตลาดออกไปนอกสหรัฐอเมริกา รวมถึงเพิ่มครูฝึกและคอร์สออกกำลังรูปแบบอื่น ๆ เช่น พิลาทิส เพื่อสร้างความหลากหลายให้สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้กว้างขึ้น

แนวโน้มนี้นอกจากจะสะท้อนพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันกลับมาใช้บริการฟิตเนสแล้ว อาจจะช่วยให้เหล่าผู้ประกอบการฟิตเนสในไทยใจชื้นขึ้นบ้างว่า หากไทยผ่อนคลายมาตรการป้องกันโรคแล้ว มีความเป็นไปได้ที่สมาชิกจำนวนมากจะกลับมาใช้บริการอีกครั้งเช่นเดียวกัน