OTP ยืนยันตัวตน ดัน “SMS” โตพุ่ง ยักษ์ใหญ่การเงินแห่ใช้บริการ

ภาพ pixabay

ตลาด SMS กลับมาบูมอีกครั้ง 1Moby เผยกลุ่มธนาคาร-ประกัน-คอร์เปอเรต หันส่งเมสเซส OTP ควบคู่ทำ CRM ทะลุ 30-40 ล้านข้อความต่อเดือน เร่งดึงเทคโนโลยีพัฒนาโซลูชั่นเสริมทัพ ตั้งเป้าโต 60%

วันที่ 7 กรกฎาคม 2564 แม้ปัจจุบันเทคโนโลยีดิจิทัลได้เข้ามามีบทบาทสำคัญกับผู้บริโภคยุคใหม่มากขึ้น ด้วยการเข้าถึงตลอดจนส่งข้อมูลเพื่อสื่อสารได้อย่างรวดเร็ว แต่อีกมุมหนึ่งนับเป็นดาบสองคม และมีการตั้งคำถามถึงความปลอดภัย โดยเฉพาะในแง่การยืนยันข้อมูลทางการเงินต่าง ๆ ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่ในวันนี้ตลาด SMS ได้กลับมาเติบโตและมีบทบาทสำคัญอีกครั้งหนึ่ง

นายธารินทร์ จงประเจิด ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท วันม๊อบบี้ จำกัด หรือ 1Moby ผู้ดำเนินธุรกิจเทคโนโลยีโซลูชั่น SMS ภายใต้ชื่อ ThaiBulkSMS และผู้ให้บริการด้านดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง เปิดเผยว่า ขณะนี้ธุรกิจบริการส่ง SMS ผ่านหน้าเว็บของบริษัทได้เติบโตต่อเนื่อง โดยมีปริมาณการส่งเฉลี่ยราว 30-40 ล้าน ข้อความต่อเดือน

ธารินทร์ จงประเจิด

แบ่งเป็น 3 เรื่องหลัก ๆ ได้แก่ การส่ง SMS ในรูปแบบ OTP เพื่อยืนยันตัวตน, การทำกลยุทธ์ลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) ส่งข้อความในวันเกิด หรือส่งโปรโมชั่นพิเศษ และการส่งข้อมูลแจ้งเตือนเรื่องสำคัญต่าง ๆ

โดยพบว่าการเติบโตในช่วงที่ผ่านมา เป็นผลมาจากธุรกิจด้านสถาบันการเงิน ที่ต้องการความปลอดภัยในการยืนยันตัวตนของลูกค้า โดยส่ง SMS ผ่านเบอร์โทรศัพท์ ส่วนธุรกิจประกันภัย ก็เป็นฤดูการขาย นำเสนอสินค้าสู่กลุ่มผู้บริโภคได้ดี เช่น ข้อมูลประกันโควิด เป็นต้น ไปจนถึงกลุ่มคอร์เปอเรต เพื่อต้องการเข้าถึงลูกค้าได้หลากช่องทาง และวัดผลได้

นายธารินทร์ฉายภาพต่อไปว่า ข้อดีของระบบ SMS คือข้อความถึงมือลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ ไม่ต้องพึ่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่ในบางพื้นที่อาจมีการดีเลย์ของสัญญาณ

ประกอบกับปัจจุบันได้มีการพัฒนาโซลูชั่น SMS ให้ทันสมัยมากขึ้น ทั้งการทำในรูปแบบออมนิแชนเนล ผนวกข้อความหลายแพลตฟอร์มเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น SMS, line, whatsapp ตลอดจนสร้างการวัดผลการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าในเชิงลึก เช่น ลูกค้าคลิกมาจากแพลตฟอร์มใด และมีกี่รายอ่านข้อความ ควบคู่กับแลนดิ้งเข้าเพจโฆษณา ทำให้เกิดการจำกัดกลุ่มเป้าหมายได้แม่นยำมากขึ้น

นอกจากนี้ ความน่าสนใจของช่องทาง SMS คือด่านหน้าในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ดี และด้วยปัจจุบันที่มีการก้าวเข้าสู่ดิจิทัลมากขึ้น การเก็บ data ได้หลายช่องทางยิ่งสร้างความได้เปรียบด้านการรับรู้อินไซต์ของผู้บริโภค ทำให้ต่อยอดไปสู่ธุรกิจ การทำการตลาดออนไลน์

“อนาคตแบรนด์จะโกดิจิทัลมากขึ้น ดังนั้นอีกหนึ่งขาธุรกิจที่เราจะเน้นคือ บริการ Magnus ผลักดันการทำดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งและอีคอมเมิร์ซ ซึ่งถือเป็นตลาดใหญ่อีกหนึ่งตลาด”

ทั้งนี้ วันม๊อบบี้จะช่วยเข้าไปวิเคราะห์ โดยใช้เทคโนโลยี Magnus Conversion Tracking ที่พัฒนาขึ้นเองด้วยจุดเด่นสามารถ tracking ได้อย่างเจาะลึกตรงเป้าหมายและตรงกลุ่มเป้าหมาย นำเสนอการวัดผลและการโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์ที่เหมาะสมกับลูกค้า ส่งผลให้ยอดขายของลูกค้าเติบโตมากขึ้น ควบคู่กับการนำ Data Solution เข้ามาเสริมทัพ ซึ่งเพิ่งเริ่มเป็นช่วงแรกอาจจะยังต้องใช้เวลาถึงจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดได้

ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ “One step beyond by Technology Solution” ภายใต้เป้าหมายการขยายฐานลูกค้าธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ทำให้เมื่อลูกค้าเดินเข้ามาหาเราสามารถใช้บริการครบจบในที่เดียว ทั้งการทำการตลาดแบบการส่ง SMS และการทำการตลาดแบบ online ไม่ว่าจะเป็นการโฆษณาช่องทางสื่อออนไลน์ ผ่าน Facebook หรือ Google ก็ตาม

“ในปีนี้เราตั้งเป้าสัดส่วนการเติบโตเป็น SMS 60% การตลาดออนไลน์ 40-50% และดาต้า 30% ขณะที่ปัจจุบันรายได้ส่วนใหญ่ยังคงมาจากกลุ่ม SMS 70% กลุ่มการตลาดออนไลน์ 20% และกลุ่มดาต้า 10%”

อย่างไรก็ดี สำหรับในปี 2564 คาดว่าสามารถทำรายได้รวมเพิ่มขึ้นราว 40%-60% หรือ 200 ล้านบาท โดยในปี 2563 ที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้อยู่ที่ 80 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 60% จากปี 2562 มีรายได้อยู่ที่ 50 ล้านบาท