“โอเพ่นแอร์” ค้าปลีกเทรนด์ใหม่ ห้างแห่ปรับตัวรับนิวนอร์มอล

market move

 

ศูนย์การค้าหรูติดแอร์เย็นฉ่ำในย่านใจกลางเมือง นับเป็นทำเลทองของวงการค้าปลีกมาอย่างช้านาน

แต่ดูเหมือนว่า นิวนอร์มอล หลังวิกฤตโรคระบาดครั้งใหญ่จะทำให้ความนิยมนี้เปลี่ยนแปลงไป หลังผู้ค้าปลีกสหรัฐเริ่มหันไปหาทำเลแบบโอเพ่นแอร์ และทำเลชานเมือง

สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานถึงปรากฏการณ์นิวนอร์มอลในวงการค้าปลีกสหรัฐว่า ขณะนี้บรรดาผู้ค้าปลีกรายใหญ่ อาทิ ห้างสรรพสินค้า “เมซีส์”, เชนร้านของใช้ในบ้าน “เบด บาร์ท แอนด์ บียอนด์”, แบรนด์ชุดกีฬา “ลูลูเลม่อน”, แบรนด์แฟชั่น “โบโนบอส” ต่างเริ่มหันไปหาทำเลศูนย์การค้าแบบโอเพ่นแอร์ และพื้นที่ค้าปลีกขนาดเล็กที่อยู่ติดกับไฮเปอร์มาร์เก็ตแทนการเปิดสาขาในห้างสรรพสินค้าติดแอร์ย่านกลางเมืองเหมือนในอดีต

เช่นเดียวกับฟากฝั่งของบรรดาเจ้าของที่ดินที่หันลงทุนพัฒนาศูนย์การแบบโอเพ่นแอร์ และพื้นที่ค้าปลีกขนาดเล็กในทำเลนอกเมืองมากขึ้น โดยเชื่อว่าสถานที่เปิดโล่งและไม่พลุกพล่านเช่นนี้จะตอบโจทย์ความกังวลด้านสุขภาพของผู้บริโภคยุคนิวนอร์มอลได้ดี

“เดวิด ลูค” ซีอีโอของเอสไอทีอี เซ็นเตอร์ ผู้บริหารห้างค้าปลีกกว่า 100 แห่งในสหรัฐ กล่าวว่า ขณะนี้ความต้องการพื้นที่ในศูนย์การค้าแบบโอเพ่นแอร์สูงที่สุดในรอบ 15 ปี โดยกลุ่มที่กำลังเจรจาและปิดดีลเช่าพื้นที่ประเภทนี้ไปแล้วประกอบไปด้วยรายใหญ่ทั้ง “เมซีส์” “เบด บาร์ท แอนด์ บียอนด์” “ลูลูเลม่อน” และ “โบโนบอส”

สอดคล้องกับความเห็นของ “อเล็กซานเดอร์ ลีวี” ที่ปรึกษาอาวุโสของบริษัทเก็บข้อมูลอสังหาฯ โคสตาร์ กล่าวว่า ตั้งแต่รัฐบาลคลายมาตรการสกัดโรค ศูนย์การค้าย่านชานเมืองคึกคักกว่าห้างใจกลางเมืองอย่างชัดเจน

หนึ่งในตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือ เมซีส์ ที่ปิดสาขาทำเลทองของเมืองชิคาโกของรัฐอิลลินอยส์ที่มีนักช็อปและนักท่องเที่ยวมาใช้เยือนระดับหลายพันคนต่อสัปดาห์ลง และหันไปเปิดสาขาใหม่ในทำเลธรรมดา ๆ ที่ตั้งอยู่ระหว่างร้านสเต๊กระดับโนเนมกับธนาคาร

สอดคล้องกับคาดการณ์จำนวนพื้นที่ค้าปลีกให้เช่าจากบริษัทให้คำปรึกษาด้านอสังหาฯ โจนส์ แลง ลาซาลล์ ที่คาดว่า ปี 2564 นี้ ศูนย์การค้าแบบติดแอร์จะมีพื้นที่เช่าเหลือถึง 9% ขณะที่ศูนย์การค้าแบบโอเพ่นแอร์มีพื้นที่เช่าเหลือเพียง 7.8% และศูนย์การค้าขนาดเล็กจะมีพื้นที่เช่าเหลือเพียง 7% เท่านั้น สวนทางกับสถิติเมื่อปี 2552 ที่ศูนย์การค้าทำเลระดับรองมีพื้นที่ว่างสูงถึง 15% ในขณะที่ทำเลกลางเมืองมีพื้นที่ว่างเพียง 5%

แหล่งข่าวในวงการอสังหาฯให้ความเห็นว่า นอกจากประเด็นเรื่องนิวนอร์มอลแล้ว อัตราค่าเช่าเป็นอีกปัจจัยสำคัญ โดยในศูนย์การค้าขนาดใหญ่กลางเมือง แม้พื้นที่ว่างจะเหลือเยอะ แต่ค่าเช่ากลับลดลงเพียงเล็กน้อย เช่น ศูนย์การค้าแมคนิฟิเซน ไมลล์ ในชิคาโก ที่พื้นที่ว่างเพิ่มจาก 4% เป็น 8% แต่ค่าเช่าลดลงเพียง 2.5% เหลือ 62.3 ดอลลาร์สหรัฐต่อตารางฟุต สูงกว่าค่าเฉลี่ยถึง 3 เท่า

“โคเนอร์ ฟรินส์” ผู้บริหารกองทุนอสังหาฯ คิมโค เรียลตี้ เจ้าของศูนย์การค้าแบบโอเพ่นแอร์จำนวนกว่า 400 แห่ง ยืนยันว่า ขณะนี้กำลังเกิดการอพยพของผู้ค้าปลีกจากศูนย์การค้าติดแอร์ออกมายังศูนย์การค้าโอเพ่นแอร์ และทำเลชานเมือง

ด้านเจ้าของพื้นที่ค้าปลีกทำเลกลางเมืองที่กำลังศูนย์เสียผู้เช่ารายใหญ่ต่างเร่งปรับตัว ด้วยการปรับโมเดลธุรกิจจากศูนย์การค้าเป็นมิกซ์ยูสผสมระหว่างค้าปลีกและที่พักอาศัย ขณะที่บางรายใช้พื้นที่ว่างสำหรับจัดอีเวนต์และกิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงหันมาจับธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องแทน เช่น ธุรกิจขนส่งสินค้า

ต้องดูกันต่อไปว่า หลังสถานการณ์การระบาดในประเทศอื่น ๆ เริ่มคลี่คลายเช่นเดียวกับสหรัฐอเมริกาแล้ว วงการค้าปลีกของแต่ละประเทศจะเกิดปรากฏการณ์เดียวกันนี้ด้วยหรือไม่