การตลาด

พานาโซนิค เขย่าไลน์เครื่องซักผ้า ย้ำฟังก์ชั่นสุขภาพชิงดีมานด์

 

เครื่องใช้ไฟฟ้า ปรับแผนสู้ล็อกดาวน์ พานาโซนิคปูพรมเครื่องซักผ้า เครื่องซัก-อบ 28 รุ่น ชูฟังก์ชั่นฆ่าเชื้อ-ซักด่วน หวังชิงดีมานด์ยุคโควิด ลดสเกลโรดโชว์โยกงบฯหนุนขายตลาดออนไลน์ กระหน่ำโปรฯแรง-เทลเลอร์เมด หนุนคู่ค้าทั่วประเทศ ลุ้นยอดขาย 600-700 ล้าน ใกล้เคียงปีที่ผ่านมา

นายอริย์ธัช วิสุทธิ์จิตต์ ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไปผลิตภัณฑ์เครื่องซักผ้า บริษัท พานาโซนิค เอพีเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า การประกาศล็อกดาวน์ครั้งล่าสุดที่เริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคมเป็นต้นไป โดยมีระยะเวลา 14 วัน เบื้องต้นคาดว่าจะส่งผลกระทบกับเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกค่าย เนื่องจากสาขาตามห้างไม่สามารถเปิดให้บริการได้ ยกเว้นช่องทางที่เป็นออนไลน์ โดยเฉพาะสินค้าชิ้นใหญ่อย่างเครื่องซักผ้า ที่มีสัดส่วนยอดขายจากโมเดิร์นเทรดประมาณ 70%

โดยหลัก ๆ จะเป็นไซซ์ใหญ่ ทั้งแบบฝาหน้าและฝาบน ส่วนอีก 30% เป็นเทรดิชั่นนอลเทรดที่ส่วนใหญ่เป็นแบบถังคู่ ซึ่งยอดขายส่วนใหญ่จากเขตเมือง นอกจากนี้ จากการรายงานของพนักงานขายยังระบุว่า ทราฟฟิกตามศูนย์การค้าเริ่มมีจำนวนที่ลดลงตั้งแต่ก่อนการล็อกดาวน์ คาดว่าจะมาจากความกังวลเรื่องการระบาดของโควิด

จากปัจจัยที่เกิดขึ้น ทำให้อาจจะต้องมีการประเมินหรือปรับตัวเลขการเติบโตของตลาดใหม่อีกครั้ง จากเดิมที่เคยประเมินว่าจะเติบโต 10-15% อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์โรคระบาดไม่ยืดเยื้อ ตลาดอาจยังมีโอกาสเติบโตได้ เนื่องจากแม้เครื่องซักผ้าจะเป็นสินค้าหน้าฝน แต่ก็ยังมีโอกาสการขายอีกครั้งในช่วงปลายปี รวมถึงยังมีดีมานด์จากผู้บริโภคที่ต้องการเครื่องซักผ้าเพื่อตอบโจทย์ในเรื่องความสะอาด จากสถานการณ์การระบาดที่เกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม สำหรับบริษัทได้เตรียมแผนรับมือทั้งระยะสั้น สำหรับการล็อกดาวน์ครั้งนี้ และแผนสำรองหากต้องยืดระยะเวลาออกไปอีก โดยหลัก ๆ จะเป็นการเน้นการทำตลาดและการขายผ่านออนไลน์มากขึ้น เริ่มจากขยายสิทธิประโยชน์ของแคมเปญ Hello Rainy Sale ที่เริ่มจัดมาตั้งแต่ 15 มิ.ย.-31 ส.ค.นี้ ทั้งส่วนลดสูงสุด 2,000 บาท ผ่อน 0% นาน 15 เดือน ของแถม อาทิ เตาอบ เตารีดไอน้ำ และเครื่องสร้างอนุภาค nanoe X ให้ครอบคลุมลูกค้าที่ซื้อผ่านออนไลน์ การจัดแคมเปญย่อยแบบเทลเลอร์เมด ในร้านคู่ค้าอีกกว่า 60 แห่ง รวมถึงการร่วมแคมเปญออนไลน์กับช่องทางจำหน่ายต่าง ๆ เพื่อรับมือการล็อกดาวน์

โดยจะมีการโยกงบฯการตลาดจากการโรดโชว์ที่จะต้องลดสเกลลง มาเพิ่มความเข้มข้นของช่องทางออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการใช้อินฟลูเอนเซอร์ และคีย์โอพิเนียนลีดเดอร์ ที่ได้รับความนิยมในกลุ่มคนรุ่นใหม่ เช่น “แมทธิว ดีน” และ “ลิเดีย ศรัณย์รัชต์” มาผลิตคอนเทนต์รีวิว และให้ข้อมูลสินค้า ตามแผนดึงผู้บริโภครุ่นใหม่อายุ 20 ปีปลาย ๆ เข้ามาเพิ่มจากกลุ่มอายุ 30 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นฐานลูกค้าเดิม เพื่อโปรโมตสินค้า

ซึ่งปีนี้ไลน์อัพเครื่องซักผ้า ได้มีการยกเครื่องใหม่ทั้งหมด โดยมีการเปิดตัวสินค้าใหม่ทั้งเครื่องซัก, ซัก-อบ และเครื่องอบ รวมทั้งหมด 28 รุ่น เน้นฟังก์ชั่นด้านสุขภาพ เพื่อตอบโจทย์ด้านสุขภาพ ความสะอาด และความสะดวก มีไฮไลต์เป็นระบบฆ่าเชื้อโรคแบบซักด้วยน้ำอุณหภูมิปกติหรือ blue Ag+ แตกต่างจากคู่แข่งที่ต้องซักด้วยน้ำร้อน ทำให้ประหยัดพลังงานและถนอมผ้ามากกว่า และการฆ่าเชื้อถังซักด้วยแสงยูวี รวมถึงระบบซักเร็ว 38 นาที โดยรุ่นที่มีฟังก์ชั่นฆ่าเชื้อราคาสูงกว่ารุ่นธรรมดาประมาณ 1,000-2,000 บาท

นายอริย์ธัชกล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีที่หากสถานการณ์ยืดเยื้อออกไป เบื้องต้นบริษัทจะระดมจัดโปรโมชั่นออนไลน์ใหม่มากขึ้นอีก เพื่อกระตุ้นยอด โดยอาจใช้โมเดลโปรโมชั่นแบบช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ถี่ขึ้น อย่างสุดสัปดาห์ หรือแฟลชเซลมาใช้ แทนการจัดโปรโมชั่นระยะยาว รวมถึงอาจเพิ่มความหลากหลายของไลน์สินค้าในช่องทางที่ยังเปิดจำหน่ายได้

“ตอนนี้สถานการณ์การแข่งขันเรื่องราคามีแนวโน้มลดลง เนื่องจากภาวะต้นทุนพุ่งสูง ทั้งวัตถุดิบและการขนส่งที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่ 30% ไปจนถึงเท่าตัว ซึ่งคาดว่าหลังจากนี้ไปแต่ละแบรนด์จะลดการแข่งขันราคาลง และหันไปใช้โมเดลแคมเปญ-โปรโมชั่นแบบอื่น ๆ แทน อย่างไรก็ตาม จากการปรับตัวดังกล่าว และโอกาสที่สถานการณ์จะคลี่คลายก่อนช่วงปลายปี ยอดขายกลุ่มเครื่องซักผ้าน่าจะอยู่ที่ 600-700 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว” นายอริย์ธัชกล่าว